เริ่มพูดถึงแนวโน้มราคาน้ำมันดิบอาจจะลงมาแตะ 20 ดอลลาร์/บาเรล หลังจากได้หลุดระดับ 30 ดอลาร์/บาเรลไปเรียบร้อย ทำให้ราคาน้ำมันในไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันตกลิตรล่ะ 20 บาทต้นๆ อย่างน้ำมันดีเซล(ปตท.- 16 ก.พ.) อยู่ที่ 20.19 บาท/ลิตร ทำให้คนหันมาใช้น้ำมันมากขึ้น และกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายรถใช้ก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี(CNG) หรือเอ็นจีวี(NGV) และกลุ่มผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์แก๊สแอลพีจี(LPG)/เอ็นจีวีในรถยนต์
ยอดใช้แก๊ส “ซีเอ็นจี-แอลพีจี” ร่วง! -น้ำมันเพิ่ม
“ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้การใช้เชื้อเพลิงภาคขนส่งเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ใช้รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี และก๊าซธรรมชาติอย่างซีเอ็นจีลดลง ส่วนการติดตั้งใหม่แทบไม่เกิดขึ้น จึงทำให้ปริมาณการใช้ก๊าซทั้งสองชนิดลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมเปิดเผยถึงปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั้งสองชนิดในช่วงเดือนแรกของปี 2559 นี้ว่า เดือนมกราคมของปีนี้มียอดจำหน่ายแอลพีจีอยุ่ที่ 5.13 แสนตัน/เดือน ขณะที่เดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.04 แสนตัน/เดือน และในส่วนของยอดจำหน่ายเอ็นจีวีอยู่ที่ 7.85 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา 7.08% หรือใช้อยู่ที่ 8.45 ล้านกิโลกรัม/วัน
ส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งเบนซิน(ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85) และดีเซล โดยยอดจำหน่ายกลุ่มน้ำมันเบนซินในเดือนมกราคมปีนี้ 27.40 ล้านลิตร/วัน เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 9.34% และน้ำมันดีเซลเดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 62.08 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วช่วงเวลาเดียวกัน 3.11%
'ทาทา'หั่นราคารุ่นซีเอ็นจีสูงสุด 1.75แสน-ค่ายรถชะลอ
การปรับตัวลดลงของน้ำมัน และส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถเชื้อเพลิงน้ำมันมากขึ้น จนกระทบกับธุรกิจกลุ่มรถใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายรถยนต์ก๊าซเอ็นจีวี หรือซีเอ็นจี ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และกลุ่มผู้จำหน่ายอุปกรณ์และรับติดตั้งแก๊สแอลพีจี/เอ็นจีวีในรถยนต์ มียอดขายที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก
โดยมีรายงานจาก ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ "ทาทา" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายปิกอัพซีเอ็นจีรายใหญ่ในไทยระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านั้น หรือในช่วงราคาน้ำมันแพง ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ ทาทามีสัดส่วนยอดขายรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจี 70-80% หรือประมาณกว่า 4,000 คัน/ปี แต่ปัจจุบันสัดส่วนกลับเปลี่ยนไป กลุ่มรถซีเอ็นจีมีสัดส่วนเพียง 35% และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มดังกล่าวเป็นมาสักระยะแล้ว ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของราคาน้ำมัน และความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล รวมถึงผู้ให้บริการสถานีก๊าซธรรมชาติอย่างปตท. โดยล่าสุดได้ชะลอการขยายปั๊มเอ็นจีวี จากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ยากที่จะเพิ่มผู้บริโภครายใหม่ๆ เข้ามา
ดังนั้นทาทาจึงจำเป็นต้องปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ ด้วยการหันมาเน้นปิกอัพใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล ขณะที่ปิกอัพใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจีปัจจุบันมีสต็อกอยู่จำนวนหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการขายจึงได้จัดกิจกรรส่งเสริมการขาย ลดราคาพิเศษสูงสุด 1.75 แสนบาท ซึ่งนอกจากช่วยลดภาระผู้บริโภค และยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องการวางเงินดาวน์กับไฟแนนซ์ในจำนวนมากได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่าย และเมื่อหมดสต็อกดังกล่าวจะปรับราคาปกติ แต่จะเป็นการผลิตตามดีมานด์ หรือความต้องการของผู้ซื้อเท่านั้น
สำหรับแคมเปญปิกอัพทาทา ซีเอ็นจี เป็นการปรับราคาของปิกอัพแค็บรุ่นซีนอน MAX CNG ที่มีราคาปกติ 574,000 บาท และรุ่นตอนเดียว ซีนอน Heavy Duty CNG ราคาปกติ 569,000 บาท ปรับลงมาเป็นราคาเดียวทั้งสองรุ่น 399,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 โดยรายส่งเสริมการขายดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ในส่วนของค่ายรถอื่นๆ หลังจากมีการปรับโฉมเป็นโมเดลใหม่ จะเห็นว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในการนำเสนอรถใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจีสู่ตลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่ ซึ่งในรุ่นเดิมปิกอัพซีเอ็นจีของมิตซูบิชินับว่าประสบความสำเร็จทีเดียว หรือปิกอัพของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ในรุ่นใหม่ “ไฮลักซ์ รีโว่” ที่มาทำตลาดแทนรุ่นวีโก้ ยังไม่มีการแนะนำรุ่นซีเอ็นจีออกมาเช่นกัน รวมถึงเก๋ง “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” รุ่นปรับปรุงโฉมที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เหลือเพียงรุ่นซีเอ็นจีเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดาไม่ทำตลาดลูกค้าทั่วไปแล้ว
อู่ติดแก๊สกระทบหนักปิดตัว-อัดแคมเปญเดือด!
กลุ่มที่กระทบหนักสุดเห็นจะเป็นอู่จำหน่ายอุปกรณ์และติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากรายงานข่าวมีอู่ติดตั้งแก๊สปิดกิจการลงมากกว่า 20-30% จากเดิมทั่วประเทศมีไม่ต่ำกว่า 5,000 แห่ง หลังจากมียอดรถเข้ามาติดตั้งใหม่ไม่ถึงครึ่งของที่เคยเข้ามาติดตั้งในปีก่อนๆ หรือมีมูลค่าตลาดปีที่ผ่านมาเพียง 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ากว่า 5,000 ล้านบาท
เหตุนี้ทำให้กลุ่มธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่ยังอยู่ รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ต้องปรับตัว อย่าง “เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” (ENERGY REFORM) ที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมาช่วย โดยลูกค้านำชุดเก่ามาแลกติดชุดหัวฉีด ENERGY REFORM ใหม่ทั้งชุด พร้อมชุดท่อ และหัวเติมแก๊สใหม่ ฟรีมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค.นี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่า ขณะเดียวกันเอนเนอร์จี รีฟอร์ม ยังลดความเสี่ยงขยายธุรกิจใหม่รับติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาเซลล์ด้วย
ขณะที่บรรดาอู่ติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์รายอื่น เวอร์ซุสวัชรพลตัวแทนของผลิตภัณฑ์ระบบแก๊ส “เวอร์ซุส” ได้มีการติดตั้งในราคาพิเศษลด 6,000 บาทจากราคาปกติ พร้อมของมูลค่ามากกว่า 10,000 บาท ซึ่งในส่วนของอู่ติดตั้งแก๊สในรถยนต์อื่นๆ ต่างออกมาแข่งขันกันจัดแคมเปญการขายดุเดือดไม่แพ้กัน
ทั้งหมดเป็นภาพรวมธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ใช้พลังงงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมถึงความไม่ชัดเจนต่อนโยบายการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในภาคขนส่งด้วย...
ยอดใช้แก๊ส “ซีเอ็นจี-แอลพีจี” ร่วง! -น้ำมันเพิ่ม
“ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้การใช้เชื้อเพลิงภาคขนส่งเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ใช้รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี และก๊าซธรรมชาติอย่างซีเอ็นจีลดลง ส่วนการติดตั้งใหม่แทบไม่เกิดขึ้น จึงทำให้ปริมาณการใช้ก๊าซทั้งสองชนิดลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมเปิดเผยถึงปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั้งสองชนิดในช่วงเดือนแรกของปี 2559 นี้ว่า เดือนมกราคมของปีนี้มียอดจำหน่ายแอลพีจีอยุ่ที่ 5.13 แสนตัน/เดือน ขณะที่เดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.04 แสนตัน/เดือน และในส่วนของยอดจำหน่ายเอ็นจีวีอยู่ที่ 7.85 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา 7.08% หรือใช้อยู่ที่ 8.45 ล้านกิโลกรัม/วัน
ส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งเบนซิน(ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ E85) และดีเซล โดยยอดจำหน่ายกลุ่มน้ำมันเบนซินในเดือนมกราคมปีนี้ 27.40 ล้านลิตร/วัน เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 9.34% และน้ำมันดีเซลเดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 62.08 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วช่วงเวลาเดียวกัน 3.11%
'ทาทา'หั่นราคารุ่นซีเอ็นจีสูงสุด 1.75แสน-ค่ายรถชะลอ
การปรับตัวลดลงของน้ำมัน และส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถเชื้อเพลิงน้ำมันมากขึ้น จนกระทบกับธุรกิจกลุ่มรถใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายรถยนต์ก๊าซเอ็นจีวี หรือซีเอ็นจี ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และกลุ่มผู้จำหน่ายอุปกรณ์และรับติดตั้งแก๊สแอลพีจี/เอ็นจีวีในรถยนต์ มียอดขายที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก
โดยมีรายงานจาก ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ "ทาทา" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายปิกอัพซีเอ็นจีรายใหญ่ในไทยระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านั้น หรือในช่วงราคาน้ำมันแพง ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ ทาทามีสัดส่วนยอดขายรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจี 70-80% หรือประมาณกว่า 4,000 คัน/ปี แต่ปัจจุบันสัดส่วนกลับเปลี่ยนไป กลุ่มรถซีเอ็นจีมีสัดส่วนเพียง 35% และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มดังกล่าวเป็นมาสักระยะแล้ว ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของราคาน้ำมัน และความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล รวมถึงผู้ให้บริการสถานีก๊าซธรรมชาติอย่างปตท. โดยล่าสุดได้ชะลอการขยายปั๊มเอ็นจีวี จากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ยากที่จะเพิ่มผู้บริโภครายใหม่ๆ เข้ามา
ดังนั้นทาทาจึงจำเป็นต้องปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ ด้วยการหันมาเน้นปิกอัพใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล ขณะที่ปิกอัพใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจีปัจจุบันมีสต็อกอยู่จำนวนหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการขายจึงได้จัดกิจกรรส่งเสริมการขาย ลดราคาพิเศษสูงสุด 1.75 แสนบาท ซึ่งนอกจากช่วยลดภาระผู้บริโภค และยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องการวางเงินดาวน์กับไฟแนนซ์ในจำนวนมากได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่าย และเมื่อหมดสต็อกดังกล่าวจะปรับราคาปกติ แต่จะเป็นการผลิตตามดีมานด์ หรือความต้องการของผู้ซื้อเท่านั้น
สำหรับแคมเปญปิกอัพทาทา ซีเอ็นจี เป็นการปรับราคาของปิกอัพแค็บรุ่นซีนอน MAX CNG ที่มีราคาปกติ 574,000 บาท และรุ่นตอนเดียว ซีนอน Heavy Duty CNG ราคาปกติ 569,000 บาท ปรับลงมาเป็นราคาเดียวทั้งสองรุ่น 399,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 โดยรายส่งเสริมการขายดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ในส่วนของค่ายรถอื่นๆ หลังจากมีการปรับโฉมเป็นโมเดลใหม่ จะเห็นว่าไม่มีความเคลื่อนไหวในการนำเสนอรถใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจีสู่ตลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” โฉมใหม่ ซึ่งในรุ่นเดิมปิกอัพซีเอ็นจีของมิตซูบิชินับว่าประสบความสำเร็จทีเดียว หรือปิกอัพของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ในรุ่นใหม่ “ไฮลักซ์ รีโว่” ที่มาทำตลาดแทนรุ่นวีโก้ ยังไม่มีการแนะนำรุ่นซีเอ็นจีออกมาเช่นกัน รวมถึงเก๋ง “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” รุ่นปรับปรุงโฉมที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เหลือเพียงรุ่นซีเอ็นจีเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดาไม่ทำตลาดลูกค้าทั่วไปแล้ว
อู่ติดแก๊สกระทบหนักปิดตัว-อัดแคมเปญเดือด!
กลุ่มที่กระทบหนักสุดเห็นจะเป็นอู่จำหน่ายอุปกรณ์และติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากรายงานข่าวมีอู่ติดตั้งแก๊สปิดกิจการลงมากกว่า 20-30% จากเดิมทั่วประเทศมีไม่ต่ำกว่า 5,000 แห่ง หลังจากมียอดรถเข้ามาติดตั้งใหม่ไม่ถึงครึ่งของที่เคยเข้ามาติดตั้งในปีก่อนๆ หรือมีมูลค่าตลาดปีที่ผ่านมาเพียง 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ากว่า 5,000 ล้านบาท
เหตุนี้ทำให้กลุ่มธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่ยังอยู่ รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ต้องปรับตัว อย่าง “เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” (ENERGY REFORM) ที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมาช่วย โดยลูกค้านำชุดเก่ามาแลกติดชุดหัวฉีด ENERGY REFORM ใหม่ทั้งชุด พร้อมชุดท่อ และหัวเติมแก๊สใหม่ ฟรีมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค.นี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่า ขณะเดียวกันเอนเนอร์จี รีฟอร์ม ยังลดความเสี่ยงขยายธุรกิจใหม่รับติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาเซลล์ด้วย
ขณะที่บรรดาอู่ติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์รายอื่น เวอร์ซุสวัชรพลตัวแทนของผลิตภัณฑ์ระบบแก๊ส “เวอร์ซุส” ได้มีการติดตั้งในราคาพิเศษลด 6,000 บาทจากราคาปกติ พร้อมของมูลค่ามากกว่า 10,000 บาท ซึ่งในส่วนของอู่ติดตั้งแก๊สในรถยนต์อื่นๆ ต่างออกมาแข่งขันกันจัดแคมเปญการขายดุเดือดไม่แพ้กัน
ทั้งหมดเป็นภาพรวมธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ใช้พลังงงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมถึงความไม่ชัดเจนต่อนโยบายการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในภาคขนส่งด้วย...