โฟล์คสวาเกนมีสิทธิ์ขายแบรนด์ในเครือออกไปอย่างน้อย 1 บริษัท หลังจากที่เจอสภาพอ่วม เพราะพิษการหมกเม็ดเครื่องยนต์ดีเซล หรือ Dieselgate Scandal ซึ่งทำให้บริษัทประสบปัญหา ทั้งเรื่องการจ่ายเงินชดเชย และวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
โฟล์คสวาเกนมีสิทธิ์ขายแบรนด์ในเครือออกไปอย่างน้อย 1 บริษัท หลังจากที่เจอสภาพอ่วม เพราะพิษการหมกเม็ดเครื่องยนต์ดีเซล หรือ Dieselgate Scandal ซึ่งทำให้บริษัทประสบปัญหา ทั้งเรื่องการจ่ายเงินชดเชย และวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับบริษัทที่ติดโผอยู่ใน Tranfer List ของโฟล์คสวาเกนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งถูกซื้อเข้า มาร่วมกิจการใหม่ๆ ยกเว้นปอร์เช่ โดยแหล่งข่าวภายในระบุว่ามีอยู่ 3 บริษัท ซึ่งก็คือ เบนท์ลีย์, ลัมบอร์กินี และดูคาตี้ ด้วยเหตุผลเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กลับคืนมาเพราะว่าจากวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้โฟล์คสวาเกน ต้องสูญเงินมากกว่า 20,000 ล้านยูโร หรือ 840,000 ล้านบาท
ที่สำคัญคือ คือ โฟล์คสวาเกนจะต้องหาเงินจำนวนหลายพันล้านยูโรเข้ามา เพื่อชำระหนี้ที่พวกเขากู้ยืม มาจากธนาคารจำนวน 13 แห่งเพื่อนำเงินมาใช้ในการชดเชยจากกรณี Dieselgate Scandal และนั่นทำให้มีความจำเป็นจะต้องโล๊ะขายกิจการหรือสินทรัพย์ที่มีความสำคัญน้อยที่สุดออกไป
แน่นอนว่าโฟล์คสวาเกนปฏิเสธข่าวที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานออกมา แต่ทว่าแหล่งข่าวภายใน 2 จาก 3 คนยืนยันตรงกันว่าโฟล์คสวาเกนกำลังเตรียมตัว และจะจัดการขายกิจการในส่วนแบรนด์รถยนต์ระดับหรู ออกไป และนั่นทำให้ลัมบอร์กินี และเบนท์ลีย์ติดอยู่ในลิสต์ทันที โดยอาจจะขายเป็นแพ็คคู่ออกไป
นอกจากนั้น แหล่งข่าวคนเดิมยังเปิดเผยอีกว่า เงื่อนไขเดียวที่ลัมบอร์กินี และเบนท์ลีย์จะอยู่รอด ในบริษัทต่อไป คือ ในกรณีที่มีคนเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของดูคาตี้แทน เพราะโฟล์คสวาเกนวางแผน ที่จะเลือกเสียแค่ 2 แบรนด์รถยนต์หรู หรือไม่ก็ดูคาตี้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
โฟล์คสวาเกนมีสิทธิ์ขายแบรนด์ในเครือออกไปอย่างน้อย 1 บริษัท หลังจากที่เจอสภาพอ่วม เพราะพิษการหมกเม็ดเครื่องยนต์ดีเซล หรือ Dieselgate Scandal ซึ่งทำให้บริษัทประสบปัญหา ทั้งเรื่องการจ่ายเงินชดเชย และวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับบริษัทที่ติดโผอยู่ใน Tranfer List ของโฟล์คสวาเกนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งถูกซื้อเข้า มาร่วมกิจการใหม่ๆ ยกเว้นปอร์เช่ โดยแหล่งข่าวภายในระบุว่ามีอยู่ 3 บริษัท ซึ่งก็คือ เบนท์ลีย์, ลัมบอร์กินี และดูคาตี้ ด้วยเหตุผลเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กลับคืนมาเพราะว่าจากวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้โฟล์คสวาเกน ต้องสูญเงินมากกว่า 20,000 ล้านยูโร หรือ 840,000 ล้านบาท
ที่สำคัญคือ คือ โฟล์คสวาเกนจะต้องหาเงินจำนวนหลายพันล้านยูโรเข้ามา เพื่อชำระหนี้ที่พวกเขากู้ยืม มาจากธนาคารจำนวน 13 แห่งเพื่อนำเงินมาใช้ในการชดเชยจากกรณี Dieselgate Scandal และนั่นทำให้มีความจำเป็นจะต้องโล๊ะขายกิจการหรือสินทรัพย์ที่มีความสำคัญน้อยที่สุดออกไป
แน่นอนว่าโฟล์คสวาเกนปฏิเสธข่าวที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานออกมา แต่ทว่าแหล่งข่าวภายใน 2 จาก 3 คนยืนยันตรงกันว่าโฟล์คสวาเกนกำลังเตรียมตัว และจะจัดการขายกิจการในส่วนแบรนด์รถยนต์ระดับหรู ออกไป และนั่นทำให้ลัมบอร์กินี และเบนท์ลีย์ติดอยู่ในลิสต์ทันที โดยอาจจะขายเป็นแพ็คคู่ออกไป
นอกจากนั้น แหล่งข่าวคนเดิมยังเปิดเผยอีกว่า เงื่อนไขเดียวที่ลัมบอร์กินี และเบนท์ลีย์จะอยู่รอด ในบริษัทต่อไป คือ ในกรณีที่มีคนเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของดูคาตี้แทน เพราะโฟล์คสวาเกนวางแผน ที่จะเลือกเสียแค่ 2 แบรนด์รถยนต์หรู หรือไม่ก็ดูคาตี้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น