“เมอร์เซเดส-เบนซ์” ประกาศว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีการเปิดตัวรถใหม่ถึง 30 รุ่น และ 10 รุ่นในนั้น จะเป็นโมเดลที่ไม่เคยมีมาก่อน แน่นอนย่อมทำให้ตลาดในไทยคึกคักตามไปด้วย ยิ่งปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีนโยบายทำตลาดรถหลากหลายตัวเลือก และเร่งเปิดตัวไล่ๆ กับต่างประเทศ เห็นได้จากแม้ใกล้จะเข้าสู่ไตรมาส 4 โค้งสุดท้ายของปีนี้ แต่ยังมีรถใหม่เปิดตัวและจ่อคิวรอหลายรุ่น รวมถึงการออกโปรแกรมการเช่าซื้อมาล้วงกระเป๋าเศรษฐีไทยอย่างร้อนแรง!!
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้เปิดเผยตั้งแต่เมื่อต้นปีมาแล้ว ว่าจะแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาด 15 รุ่น ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ กับรถ 2 โมเดล ที่เพิ่งขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” (GLA-Class) และ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส” (CLA-Class) ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม NGCC (New Generation Compact Car) เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และยังเคาะราคาบางรุ่นต่ำกว่าตัวนำเข้าจากต่างประเทศ(CBU) เกือบ 4 แสนบาท
โดยเห็นได้จากรุ่น GLA200 Urban ซึ่งเปิดราคาออกมา 2.09 ล้านบาท หากเทียบกับรุ่นนำเข้าจากประเทศที่ขายไปก่อนหน้าต่ำกว่า 3.8 แสนบาท หรือวางราคาจำหน่าย 2.47 ล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์ออปชั่นมากกว่าด้วย และมีอีกตัวเลือกกับรุ่น GLA250 AMG Dynamic ราคาอยู่ที่ 2.44 ล้านบาท
ส่วนโมเดลซีแอลเอ-คลาสวางตลาดรุ่นประกอบในประเทศ (CKD) 2 รุ่นย่อย คือรุ่น CLA200200 Urban ราคา 2.14 ล้านบาท ซึ่งเดิมรุ่นนำเข้าเป็น CLA180 Urban ราคา 2.39 ล้านบาท นอกจากได้ออปชั่นมากกว่าและกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 34 ตัว ราคารุ่นประกอบในไทยยังต่ำลง 2.5 แสนบาท เช่นเดียวกับอีกรุ่น CLA250 AMG Dynamic ราคา 2.49 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นนำเข้า 2 แสนบาท (รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์อ่านที่นี่ http://astv.mobi/A9U4aIp)
พร้อมกันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้จัดกิจกรรม “เมอร์ซเดส-เบนซ์ สตาโดม” ระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-4 ต.ค.นี้ ณ สตาร์ โดม ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งไม่เพียงผู้ชื่นชอบแบรนด์ตราดาวสามแฉกจะได้สัมผัสกับรถใหม่ทั้ง 2 โมเดล และรถถเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นอื่นๆ ที่ขนมาจัดแสดงครบครันในงาน ยังได้รับข้อเสนอพิเศษในการซื้อรถอีกมากมาย โดยเฉพาะโปรแกรมการเช่าซื้อ “mySTAR Special” เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่ง สามารถผ่านชำระขั้นต่ำต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถยนต์ทันที อย่างรุ่น GLA200 Urban ราคา 2.09 ล้านบาท ดังนั้นจึงผ่อนเพียงเดือนล่ะ 2 หมื่นบาทเท่านั้น
“การจัดโปรแกรมเช่าซื้อนี้ไม่ใช่ตลาดเริ่มเข้าสู่สภาวะชะลอตัว มั่นใจว่าตลาดรถหรูปีนี้จะยังเติบโตต่อเนื่อง 8-9% โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายเพิ่มมากกว่าภาพรวมตลาดรถหรู หรือเติบโต 12% ซึ่งรถรุ่นใหม่และโปรแกรมเช่าซื้อที่ออกมา เชื่อว่าจะผลักดันให้มียอดขายมากขึ้น และเงื่อนไขการเช่าซื้อดังกล่าวจะเป็นโปรแกรมปกติของเมอร์เซเดส-เบนซ์ต่อไปด้วย ขณะที่รถใหม่ยังจะมีแนะนำอีกหลายรุ่นสู่ตลาด ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้” มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว จึงชัดเจนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมถล่มหนัก ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นอกจาก 2 รุ่นใหม่จากไลน์ประกอบในไทย ยังมีเอสยูวีโมเดลใหม่ ที่จ่อคิวเตรียมเปิดตัว “จีแอลซี-คลาส” (GLC-Class) ในวันที่ 7 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นไฮไลน์สำคัญของค่ายตราดาว ที่จะมาชนกับ “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี เป็นรถที่จะมาแทนรุ่น “จีแอลเค” (GLK) ซึ่งไม่เคยนำเข้ามาทำตลาดในไทย เพราะรุ่นนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่ผลิตพวงมาลัยขวา แต่ในโฉมใหม่จีแอลซีที่มาแทนจะเป็นโมเดลทำตลาดทั่วโลก จึงต้องผลิตพวงมาลัยขวาออกมา หรือจะว่าไปมันคือจีแอลเคพวงมาลัยขวารุ่นแรกนั่นเอง โดยที่นำเข้ามาทำตลาดจะเป็นรุ่น GLC250d 4MATIC และรุ่น และรุ่น GLC250 4MATIC AMG Dynamic
ส่วนรุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อยและได้เปลี่ยนชื่อปรับโฉมไปสักพัก “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี-คลาส” (GLE-Class) หรือตัวแทนของรุ่น “เอ็ม-คลาส” (M-Class) จะตามเข้ามาทำตลาดเช่นกัน หลังจากก่อนหน้านี้ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 เพิ่งส่งเอสยูวีในรูปแบบคูเป้ของรุ่นจีแอลอี (GLE Coupe) เพื่อมาเปิดศึกท้าชนกับ “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์6” ไป และนี่จะเป็นเวอร์ชั่นเอสยูวีปกติของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งตัวอักษรจีแอล(GL) คือรถเอสยูวีของค่ายตราดาว ส่วนตัว E สุดท้าย หมายถึงความหรูและสะดวกสบายเทียบเท่ากับรุ่น E-Class หรือถ้ารุ่นจีแอลซีคือระดับเดียวกับ C-Class นั่นเอง
โมเดลต่อไปเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คาบริโอเลต” (S-Class Cabriolet) สปอร์ตสุดหรูเปิดประทุน 4 ที่นั่ง ที่เพิ่งเผยโฉมไปในตลาดโลก เบื้องต้นมากับ 2 ทางเลือก กับตัวธรรมดา S500 Cabriolet เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 4663 ซีซี เทอร์โบคู่ 455 แรงม้า และรุ่นรหัสแรง S63AMG 4Matic Cabriolet เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 5500 ซีซี เทอร์โบคู่ 585 แรงม้า แต่ในไทยคงจะเป็นรุ่นธรรมดาเช่นเดียวกับ “เอส-คลาส คูเป้” (S-Class Coupe) ที่วางขายไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ตามแผนจะมีการแนะนำไฮไลต์อีกโมเดล “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส คูเป้” (C-Class) ที่เพิ่งเผยโฉมไปหมาดๆ ในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2015 แต่คงต้องลุ้นเพราะล่าสุดแว่วว่าอาจจะมาไม่ทันงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ (รายละเอียดของเอส-คลาส คาบริโอเลต ที่นี่ http://astv.mobi/AKEvGJP และซี-คลาส คูเป้ ดูที่ http://astv.mobi/Ax5jBt8)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแบบแฮทช์แบ็ก เตรียมพบกับ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส” (A-Class /MY2016) ที่ทำการปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่ไม่ได้มากมายให้ฮือฮาเท่าไหร่ จุดเด่นเห็นจะเป็นภายในที่มีปรับอัพเกรดระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่ ติดตั้งจอทัชสกรีน 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Mirrorlink เพื่อให้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านจอทัชสกรีนได้สะดวกสบายขึ้น รวมถึงติดตั้งระบบสั่งการด้วยเสียงเข้ามาด้วย นอกจากนี้ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นรุ่นตัวแรง AMG A-45 4MATIC เครื่องยนต์ 4 สูบ 2000 ซีซี ที่จากเดิมกำลังสูงสุด 360 แรงม้า ในรุ่นใหม่เพิ่มเป็น 381 แรงม้า
ทั้งหมดเป็นรถรุ่นใหม่ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แม้บางรุ่นอาจจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่นับว่าจัดเต็มทั้งเรื่องตัวผลิตภัณฑ์และโปรแกรมการเช่าซื้อที่ล่อใจอย่างยิ่ง แบบนี้นั่งยิ้มรอฉลองยอดขายสูงสุดต่อเนื่องอีกปี แต่จะทุบสถิติเป็นเท่าไหร่? คงต้องรอปิดยอดสิ้นปีนี้...
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้เปิดเผยตั้งแต่เมื่อต้นปีมาแล้ว ว่าจะแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาด 15 รุ่น ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ กับรถ 2 โมเดล ที่เพิ่งขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” (GLA-Class) และ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส” (CLA-Class) ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม NGCC (New Generation Compact Car) เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และยังเคาะราคาบางรุ่นต่ำกว่าตัวนำเข้าจากต่างประเทศ(CBU) เกือบ 4 แสนบาท
โดยเห็นได้จากรุ่น GLA200 Urban ซึ่งเปิดราคาออกมา 2.09 ล้านบาท หากเทียบกับรุ่นนำเข้าจากประเทศที่ขายไปก่อนหน้าต่ำกว่า 3.8 แสนบาท หรือวางราคาจำหน่าย 2.47 ล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์ออปชั่นมากกว่าด้วย และมีอีกตัวเลือกกับรุ่น GLA250 AMG Dynamic ราคาอยู่ที่ 2.44 ล้านบาท
ส่วนโมเดลซีแอลเอ-คลาสวางตลาดรุ่นประกอบในประเทศ (CKD) 2 รุ่นย่อย คือรุ่น CLA200200 Urban ราคา 2.14 ล้านบาท ซึ่งเดิมรุ่นนำเข้าเป็น CLA180 Urban ราคา 2.39 ล้านบาท นอกจากได้ออปชั่นมากกว่าและกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 34 ตัว ราคารุ่นประกอบในไทยยังต่ำลง 2.5 แสนบาท เช่นเดียวกับอีกรุ่น CLA250 AMG Dynamic ราคา 2.49 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นนำเข้า 2 แสนบาท (รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์อ่านที่นี่ http://astv.mobi/A9U4aIp)
พร้อมกันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้จัดกิจกรรม “เมอร์ซเดส-เบนซ์ สตาโดม” ระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-4 ต.ค.นี้ ณ สตาร์ โดม ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งไม่เพียงผู้ชื่นชอบแบรนด์ตราดาวสามแฉกจะได้สัมผัสกับรถใหม่ทั้ง 2 โมเดล และรถถเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นอื่นๆ ที่ขนมาจัดแสดงครบครันในงาน ยังได้รับข้อเสนอพิเศษในการซื้อรถอีกมากมาย โดยเฉพาะโปรแกรมการเช่าซื้อ “mySTAR Special” เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่ง สามารถผ่านชำระขั้นต่ำต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถยนต์ทันที อย่างรุ่น GLA200 Urban ราคา 2.09 ล้านบาท ดังนั้นจึงผ่อนเพียงเดือนล่ะ 2 หมื่นบาทเท่านั้น
“การจัดโปรแกรมเช่าซื้อนี้ไม่ใช่ตลาดเริ่มเข้าสู่สภาวะชะลอตัว มั่นใจว่าตลาดรถหรูปีนี้จะยังเติบโตต่อเนื่อง 8-9% โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายเพิ่มมากกว่าภาพรวมตลาดรถหรู หรือเติบโต 12% ซึ่งรถรุ่นใหม่และโปรแกรมเช่าซื้อที่ออกมา เชื่อว่าจะผลักดันให้มียอดขายมากขึ้น และเงื่อนไขการเช่าซื้อดังกล่าวจะเป็นโปรแกรมปกติของเมอร์เซเดส-เบนซ์ต่อไปด้วย ขณะที่รถใหม่ยังจะมีแนะนำอีกหลายรุ่นสู่ตลาด ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้” มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว จึงชัดเจนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมถล่มหนัก ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นอกจาก 2 รุ่นใหม่จากไลน์ประกอบในไทย ยังมีเอสยูวีโมเดลใหม่ ที่จ่อคิวเตรียมเปิดตัว “จีแอลซี-คลาส” (GLC-Class) ในวันที่ 7 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นไฮไลน์สำคัญของค่ายตราดาว ที่จะมาชนกับ “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี เป็นรถที่จะมาแทนรุ่น “จีแอลเค” (GLK) ซึ่งไม่เคยนำเข้ามาทำตลาดในไทย เพราะรุ่นนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่ผลิตพวงมาลัยขวา แต่ในโฉมใหม่จีแอลซีที่มาแทนจะเป็นโมเดลทำตลาดทั่วโลก จึงต้องผลิตพวงมาลัยขวาออกมา หรือจะว่าไปมันคือจีแอลเคพวงมาลัยขวารุ่นแรกนั่นเอง โดยที่นำเข้ามาทำตลาดจะเป็นรุ่น GLC250d 4MATIC และรุ่น และรุ่น GLC250 4MATIC AMG Dynamic
ส่วนรุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อยและได้เปลี่ยนชื่อปรับโฉมไปสักพัก “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี-คลาส” (GLE-Class) หรือตัวแทนของรุ่น “เอ็ม-คลาส” (M-Class) จะตามเข้ามาทำตลาดเช่นกัน หลังจากก่อนหน้านี้ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 เพิ่งส่งเอสยูวีในรูปแบบคูเป้ของรุ่นจีแอลอี (GLE Coupe) เพื่อมาเปิดศึกท้าชนกับ “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์6” ไป และนี่จะเป็นเวอร์ชั่นเอสยูวีปกติของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งตัวอักษรจีแอล(GL) คือรถเอสยูวีของค่ายตราดาว ส่วนตัว E สุดท้าย หมายถึงความหรูและสะดวกสบายเทียบเท่ากับรุ่น E-Class หรือถ้ารุ่นจีแอลซีคือระดับเดียวกับ C-Class นั่นเอง
โมเดลต่อไปเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คาบริโอเลต” (S-Class Cabriolet) สปอร์ตสุดหรูเปิดประทุน 4 ที่นั่ง ที่เพิ่งเผยโฉมไปในตลาดโลก เบื้องต้นมากับ 2 ทางเลือก กับตัวธรรมดา S500 Cabriolet เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 4663 ซีซี เทอร์โบคู่ 455 แรงม้า และรุ่นรหัสแรง S63AMG 4Matic Cabriolet เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 5500 ซีซี เทอร์โบคู่ 585 แรงม้า แต่ในไทยคงจะเป็นรุ่นธรรมดาเช่นเดียวกับ “เอส-คลาส คูเป้” (S-Class Coupe) ที่วางขายไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ตามแผนจะมีการแนะนำไฮไลต์อีกโมเดล “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส คูเป้” (C-Class) ที่เพิ่งเผยโฉมไปหมาดๆ ในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2015 แต่คงต้องลุ้นเพราะล่าสุดแว่วว่าอาจจะมาไม่ทันงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ (รายละเอียดของเอส-คลาส คาบริโอเลต ที่นี่ http://astv.mobi/AKEvGJP และซี-คลาส คูเป้ ดูที่ http://astv.mobi/Ax5jBt8)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแบบแฮทช์แบ็ก เตรียมพบกับ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส” (A-Class /MY2016) ที่ทำการปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่ไม่ได้มากมายให้ฮือฮาเท่าไหร่ จุดเด่นเห็นจะเป็นภายในที่มีปรับอัพเกรดระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่ ติดตั้งจอทัชสกรีน 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Mirrorlink เพื่อให้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านจอทัชสกรีนได้สะดวกสบายขึ้น รวมถึงติดตั้งระบบสั่งการด้วยเสียงเข้ามาด้วย นอกจากนี้ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นรุ่นตัวแรง AMG A-45 4MATIC เครื่องยนต์ 4 สูบ 2000 ซีซี ที่จากเดิมกำลังสูงสุด 360 แรงม้า ในรุ่นใหม่เพิ่มเป็น 381 แรงม้า
ทั้งหมดเป็นรถรุ่นใหม่ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แม้บางรุ่นอาจจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่นับว่าจัดเต็มทั้งเรื่องตัวผลิตภัณฑ์และโปรแกรมการเช่าซื้อที่ล่อใจอย่างยิ่ง แบบนี้นั่งยิ้มรอฉลองยอดขายสูงสุดต่อเนื่องอีกปี แต่จะทุบสถิติเป็นเท่าไหร่? คงต้องรอปิดยอดสิ้นปีนี้...