ดูเหมือนว่าปอร์เช่กำลังจะให้ความสนใจกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลังการเปิดตัว สปอร์ตไฮบริดอย่าง 918 Spyder พวกเขาก็มีผลผลิตใหม่ๆ ออกมาให้สัมผัสกันอีก อย่างที่เห็นอยู่นี้คือ Mission E ซึ่งเป็นรถยนต์ 4 ประตูมาดสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบ 100% ไม่ใช่ไฮบริด หรือ E-REV
ในแง่ของเทคนิคนั้น บนตัวถัง 4 ประตูของรถยนต์ต้นแบบคันนี้ จะมากับระบบไฟฟ้าที่มีการปรับปรุง ให้สามารถตอบสนองการใช้งานที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในเชิงตัวเลขแรงม้าที่มอเตอร์ 2 ตัวสามารถ ผลิตกำลังรวมกันออกมาได้ 600 แรงม้า โดยที่ตัวรถยังสามารถแล่นได้มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนั้น ทางปอร์เช่ยังบอกอีกว่า Mission E มาพร้อมสมรรถนะในด้านอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 3.5 วินาที และ 12 วินาทีสำหรับระดับความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งยังเคลมว่า สามารถแล่นในสนามฝั่งเหนือของนูร์บูร์กริง หรือ Nürburgring Nordschleife โดยใช้เวลาต่ำกว่า 8 นาทีในการแล่น 1 รอบสนามที่มีความยาวกว่า 20 กิโลเมตร
ในแง่ของการชาร์จนั้น ตัวรถมีระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลา 15 นาทีในการชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ 80% ของความจุในแบตเตอรี่ โดยปอร์เช่บอกว่าในตัวรถมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่เรียกว่า 800-Volt ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับ กระแสไฟในระบบให้เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากที่ใช้อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งก็รวมถึง Tesla Model S ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง (ถ้าปอร์เช่ผลิตคันนี้ขายนะ) โดยในโหมด Quick Charge ที่มีกระแสไฟฟ้าเพียง 80% นั่น สามารถแล่นทำระยะทางได้ถึง 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว
สำหรับการออกแบบตัวรถทำได้สวยและสปอร์ต อีกทั้งยังมีการนำวัสดุที่ลดน้ำหนักมาใช้หลายแบบ ด้วยกัน ทั้งแม็กนีเซียท คาร์บอนไฟเบอร์ และอะลูมิเนียม ขณะที่ตัวรถมีความสูงเพียง 130 เซ็นติเมตรเท่านั้น
ใครที่ว่าจะผลิตจริง งานนี้บอกว่าต้องรอไปก่อน เพราะปอร์เช่ยังไม่ยืนยันใดๆ เกี่ยวกับการขึ้นไลน์ผลิต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
ในแง่ของเทคนิคนั้น บนตัวถัง 4 ประตูของรถยนต์ต้นแบบคันนี้ จะมากับระบบไฟฟ้าที่มีการปรับปรุง ให้สามารถตอบสนองการใช้งานที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในเชิงตัวเลขแรงม้าที่มอเตอร์ 2 ตัวสามารถ ผลิตกำลังรวมกันออกมาได้ 600 แรงม้า โดยที่ตัวรถยังสามารถแล่นได้มากกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดการไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนั้น ทางปอร์เช่ยังบอกอีกว่า Mission E มาพร้อมสมรรถนะในด้านอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 3.5 วินาที และ 12 วินาทีสำหรับระดับความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งยังเคลมว่า สามารถแล่นในสนามฝั่งเหนือของนูร์บูร์กริง หรือ Nürburgring Nordschleife โดยใช้เวลาต่ำกว่า 8 นาทีในการแล่น 1 รอบสนามที่มีความยาวกว่า 20 กิโลเมตร
ในแง่ของการชาร์จนั้น ตัวรถมีระบบ Quick Charge ที่ใช้เวลา 15 นาทีในการชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ 80% ของความจุในแบตเตอรี่ โดยปอร์เช่บอกว่าในตัวรถมีการติดตั้งเทคโนโลยีที่เรียกว่า 800-Volt ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับ กระแสไฟในระบบให้เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากที่ใช้อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งก็รวมถึง Tesla Model S ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง (ถ้าปอร์เช่ผลิตคันนี้ขายนะ) โดยในโหมด Quick Charge ที่มีกระแสไฟฟ้าเพียง 80% นั่น สามารถแล่นทำระยะทางได้ถึง 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว
สำหรับการออกแบบตัวรถทำได้สวยและสปอร์ต อีกทั้งยังมีการนำวัสดุที่ลดน้ำหนักมาใช้หลายแบบ ด้วยกัน ทั้งแม็กนีเซียท คาร์บอนไฟเบอร์ และอะลูมิเนียม ขณะที่ตัวรถมีความสูงเพียง 130 เซ็นติเมตรเท่านั้น
ใครที่ว่าจะผลิตจริง งานนี้บอกว่าต้องรอไปก่อน เพราะปอร์เช่ยังไม่ยืนยันใดๆ เกี่ยวกับการขึ้นไลน์ผลิต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
