วันนี้ (6 ส.ค.) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มอุณหภูมิตลาดปิกอัพไทยให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น จัดงานเปิดตัวแนะนำ “บีที-50 โปร ใหม่” ชูดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ดั่งรถเอสยูวี เคาะราคาเริ่มต้น 561,000 บาท
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ นับเป็นรถปิกอัพที่มีความสมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุดในยุดนี้ ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่งดงามทั้งภายนอกและภายในดุจรถอเนกประสงค์สุดหรูและมีมิติตัวถังขนาดที่ใหญ่สุดในตลาด
“การเปิดตัวรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ในวันนี้มาพร้อมกับการวางตำแหน่งของสินค้าให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ให้อารมณ์สปอร์ตและแข็งแกร่ง บึกบึน มาดเข้มยิ่งขึ้นทั้งภายนอกและภายในกว้างขวาง ประกอบกับความแรงของเครื่องยนต์อันทรงพลังขนาด 2.2 และ 3.2 ลิตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด นี่คือก้าวย่างครั้งสำคัญของมาสด้าในการเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงตามแผนงานที่วางไว้ในปีนี้และในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย นอกเหนือจากรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่กำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยอย่างล้นหลาม”
สำหรับมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ คือ รถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ที่มอบความสะดวกสบายสไตล์รถยนต์นั่ง แต่ให้ความบึกบึนดั่งเช่นรถอเนกประสงค์เอสยูวี ด้วยการดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่เพื่อให้แข็งแกร่งดุดันยิ่งขึ้น มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ เพื่อตอบสนองทุกก้าวย่างของการใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย ด้วยสโลแกน TOUGH AS LIFE “นิยามแกร่ง...คุณเท่านั้นที่กำหนด”
ดีไซน์ใหม่ที่เห็นได้เด่นชัดมากที่สุด คือ การออกแบบด้านหน้าใหม่ ทั้งชุดกระจังหน้าให้ความแข็งแกร่งและไฟหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความเป็นสปอร์ต ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ดุดัน ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่บึกบึนพร้อมก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปในทุกเส้นทาง เบาะนั่งดีไซน์ใหม่สปอร์ตลงตัว อุปกรณ์เสริมความสะดวกสบายด้วยกล้องมองหลังให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
บีที-50 โปร ใหม่ มีให้เลือกหลากหลายรุ่นทั้งฟรีสไตล์แค็ป หรือบานแค็ปเปิดได้ และดับเบิ้ลแค็ป 4 ประตู มาใน 3 เครื่องยนต์ คือ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร และดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร และอีกทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แรงม้า 166 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร มาสด้าบีที-50 โปรใหม่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ
โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง หรือ ไฮ-เรชเซอร์ Hi-Racer จะเป็นจุดขายที่สำคัญของมาสด้าซึ่งจะทำให้มาสด้าบรรลุเป้าหมายการขายรถปิกอัพที่ตั้งไว้ในปีนี้เนื่องจากใส่อุปกรณ์มาตรฐานเข้าไปตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และยังมีขนาดของมิติตัวถังที่ใหญ่สุดในตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย
มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ได้รับการพัฒนาและการออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ โดยเน้นการแสดงออกถึงความแข็งแกร่ง บึกบึน ตามสไตล์ของรถกระบะมากยิ่งขึ้น แต่ยังให้ความโดดเด่นทุกมุมมอง และสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้าที่สอดแทรกอยู่รถยนต์ทุกรุ่นและเป็น DNA ของมาสด้า ไฟหน้าดีไซน์ใหม่สปอร์ตสุดเท่ให้ความสวยงามโฉบเฉี่ยว และประสิทธิภาพในการส่องสว่างเพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ปลอดภัย ซุ้มล้อขนาดขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรถและคงไว้ซึ่งความกลมกลืนและสวยงาม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวเพิ่มความหรูหราสไตล์สปอร์ต ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ล่าสุดสไตล์รถเก๋งออกแบบรูปทรงตามแนวนอนแยกเป็นสองส่วนตามแบบรถยนต์นั่ง มาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว น้ำหนักเบาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ของตัวรถ ให้ความสวยงามด้วยลวดลายแนวสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารดีไซน์แบบรถยนต์นั่งสุดหรู ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เช่นเดียวกัน พร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเปลี่ยนเกียร์ Up-shift indicator หน้าจอแสดงฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ MID เชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วยสัญญาณ Bluetooth กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ มาตรฐานเหนือชั้นด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลกทั้งระบบ ABS 4 ล้อ พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์ ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง ที่แสดงภาพระยะพื้นที่จับวัตถุในกระจกมองหลัง
มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ยังมาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ที่มีให้เลือกถึง 7 สีด้วยกันประกอบไปด้วยสีใหม่ 5 สี ได้แก่สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลซ, สีแดง ทรู เรด, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู, สีเงิน อลูมินั่ม เมทาลิก และสีขาวมุก สโนเฟล็ก และสีเดิม 2 สี ได้แก่ สีดำ แบล็ค ไมก้า และสีขาวคูล ไวท์
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ในวันนี้จะสร้างดีมานด์ใหม่ เซ็กเม้นต์ใหม่ให้แก่ตลาดปิกอัพ และจะทำให้พฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ จะมาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ รวมทั้งระหว่างรถปิกอัพกับรถพีพีวีด้วย
“สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ คือกลุ่มคนที่ใช้รถปิกอัพในการดำเนินชีวิตประจำวัน พวกเขาต้องการรถปิกอัพที่แตกต่างเหนือกว่ารถปิกอัพที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มลูกค้ากว้างขึ้น เป็นผู้นำของครอบครัว เป็นคนกล้าแสดงออก มีหลากหลายบทบาทของชีวิต กล้าลองอะไรใหม่ๆ แนวคิดยาวไกล มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พร้อมช่วยเหลือและเสียสละเพื่อผู้อื่นเสมอ ไม่หยุดที่จะก้าวเดินเพื่อแสวงหาความสำเร็จให้กับชีวิต ทั้งครอบครัว และธุรกิจ ดำเนินชีวิตตามแบบวิถีของลูกผู้ชาย ได้รับความเชื่อถือจากสังคมและครอบครัว โดยจะมีแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษ พร้อมกิจกรรมเพื่อต้อนรับการเปิดตัว ในวันที่ 15-22 สิงหาคมนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
กลยุทธ์ด้านราคาเป็นอีกสิ่งที่มาสด้าให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการพิจารณานำเอามาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ลงสู่ตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 561,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่รุ่นสูงสุด หรือรุ่นท็อป ซึ่งเป็นแบบสี่ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร มาพร้อมเบาะหนัง และอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ซึ่งนับว่ามีความคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วกลยุทธ์เด็ดที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอดและทำให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นั่นคือ หลังการเปิดตัวมาสด้าจะสามารถส่งมอบรถปิกอัพรุ่นใหม่นี้ให้กับลูกค้าได้ในทันที
ราคา มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่
รุ่นสแตนดาร์ดแค็ป STD เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ นับเป็นรถปิกอัพที่มีความสมบูรณ์แบบและลงตัวที่สุดในยุดนี้ ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่งดงามทั้งภายนอกและภายในดุจรถอเนกประสงค์สุดหรูและมีมิติตัวถังขนาดที่ใหญ่สุดในตลาด
“การเปิดตัวรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ในวันนี้มาพร้อมกับการวางตำแหน่งของสินค้าให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ให้อารมณ์สปอร์ตและแข็งแกร่ง บึกบึน มาดเข้มยิ่งขึ้นทั้งภายนอกและภายในกว้างขวาง ประกอบกับความแรงของเครื่องยนต์อันทรงพลังขนาด 2.2 และ 3.2 ลิตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด นี่คือก้าวย่างครั้งสำคัญของมาสด้าในการเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงตามแผนงานที่วางไว้ในปีนี้และในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย นอกเหนือจากรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่กำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยอย่างล้นหลาม”
สำหรับมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ คือ รถปิกอัพสไตล์สปอร์ต ที่มอบความสะดวกสบายสไตล์รถยนต์นั่ง แต่ให้ความบึกบึนดั่งเช่นรถอเนกประสงค์เอสยูวี ด้วยการดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่เพื่อให้แข็งแกร่งดุดันยิ่งขึ้น มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ เพื่อตอบสนองทุกก้าวย่างของการใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชาย ด้วยสโลแกน TOUGH AS LIFE “นิยามแกร่ง...คุณเท่านั้นที่กำหนด”
ดีไซน์ใหม่ที่เห็นได้เด่นชัดมากที่สุด คือ การออกแบบด้านหน้าใหม่ ทั้งชุดกระจังหน้าให้ความแข็งแกร่งและไฟหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความเป็นสปอร์ต ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ดุดัน ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่บึกบึนพร้อมก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปในทุกเส้นทาง เบาะนั่งดีไซน์ใหม่สปอร์ตลงตัว อุปกรณ์เสริมความสะดวกสบายด้วยกล้องมองหลังให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
บีที-50 โปร ใหม่ มีให้เลือกหลากหลายรุ่นทั้งฟรีสไตล์แค็ป หรือบานแค็ปเปิดได้ และดับเบิ้ลแค็ป 4 ประตู มาใน 3 เครื่องยนต์ คือ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร และดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร และอีกทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แรงม้า 166 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร มาสด้าบีที-50 โปรใหม่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ
โดยเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง หรือ ไฮ-เรชเซอร์ Hi-Racer จะเป็นจุดขายที่สำคัญของมาสด้าซึ่งจะทำให้มาสด้าบรรลุเป้าหมายการขายรถปิกอัพที่ตั้งไว้ในปีนี้เนื่องจากใส่อุปกรณ์มาตรฐานเข้าไปตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และยังมีขนาดของมิติตัวถังที่ใหญ่สุดในตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย
มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ได้รับการพัฒนาและการออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ โดยเน้นการแสดงออกถึงความแข็งแกร่ง บึกบึน ตามสไตล์ของรถกระบะมากยิ่งขึ้น แต่ยังให้ความโดดเด่นทุกมุมมอง และสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้าที่สอดแทรกอยู่รถยนต์ทุกรุ่นและเป็น DNA ของมาสด้า ไฟหน้าดีไซน์ใหม่สปอร์ตสุดเท่ให้ความสวยงามโฉบเฉี่ยว และประสิทธิภาพในการส่องสว่างเพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ปลอดภัย ซุ้มล้อขนาดขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรถและคงไว้ซึ่งความกลมกลืนและสวยงาม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวเพิ่มความหรูหราสไตล์สปอร์ต ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ล่าสุดสไตล์รถเก๋งออกแบบรูปทรงตามแนวนอนแยกเป็นสองส่วนตามแบบรถยนต์นั่ง มาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว น้ำหนักเบาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ของตัวรถ ให้ความสวยงามด้วยลวดลายแนวสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารดีไซน์แบบรถยนต์นั่งสุดหรู ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เช่นเดียวกัน พร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเปลี่ยนเกียร์ Up-shift indicator หน้าจอแสดงฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ MID เชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วยสัญญาณ Bluetooth กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ มาตรฐานเหนือชั้นด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลกทั้งระบบ ABS 4 ล้อ พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์ ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง ที่แสดงภาพระยะพื้นที่จับวัตถุในกระจกมองหลัง
มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ยังมาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ที่มีให้เลือกถึง 7 สีด้วยกันประกอบไปด้วยสีใหม่ 5 สี ได้แก่สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลซ, สีแดง ทรู เรด, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู, สีเงิน อลูมินั่ม เมทาลิก และสีขาวมุก สโนเฟล็ก และสีเดิม 2 สี ได้แก่ สีดำ แบล็ค ไมก้า และสีขาวคูล ไวท์
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ในวันนี้จะสร้างดีมานด์ใหม่ เซ็กเม้นต์ใหม่ให้แก่ตลาดปิกอัพ และจะทำให้พฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ จะมาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ รวมทั้งระหว่างรถปิกอัพกับรถพีพีวีด้วย
“สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ คือกลุ่มคนที่ใช้รถปิกอัพในการดำเนินชีวิตประจำวัน พวกเขาต้องการรถปิกอัพที่แตกต่างเหนือกว่ารถปิกอัพที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มลูกค้ากว้างขึ้น เป็นผู้นำของครอบครัว เป็นคนกล้าแสดงออก มีหลากหลายบทบาทของชีวิต กล้าลองอะไรใหม่ๆ แนวคิดยาวไกล มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พร้อมช่วยเหลือและเสียสละเพื่อผู้อื่นเสมอ ไม่หยุดที่จะก้าวเดินเพื่อแสวงหาความสำเร็จให้กับชีวิต ทั้งครอบครัว และธุรกิจ ดำเนินชีวิตตามแบบวิถีของลูกผู้ชาย ได้รับความเชื่อถือจากสังคมและครอบครัว โดยจะมีแคมเปญส่งเสริมการขายพิเศษ พร้อมกิจกรรมเพื่อต้อนรับการเปิดตัว ในวันที่ 15-22 สิงหาคมนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
กลยุทธ์ด้านราคาเป็นอีกสิ่งที่มาสด้าให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการพิจารณานำเอามาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ลงสู่ตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 561,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่รุ่นสูงสุด หรือรุ่นท็อป ซึ่งเป็นแบบสี่ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.2 ลิตร มาพร้อมเบาะหนัง และอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ซึ่งนับว่ามีความคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วกลยุทธ์เด็ดที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอดและทำให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นั่นคือ หลังการเปิดตัวมาสด้าจะสามารถส่งมอบรถปิกอัพรุ่นใหม่นี้ให้กับลูกค้าได้ในทันที
ราคา มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่
รุ่นสแตนดาร์ดแค็ป STD เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่น | ราคา(บาท) |
สแตนดาร์ดแค็ป 2.2 S | 561,000 |
รุ่นฟรีสไตล์แค็ป FSC เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่น | ราคา(บาท) |
ฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 S | 612,000 |
ฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 V | 657,000 |
ฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 Hi-Racer | 688,000 |
ฟรีสไตล์แค็ป FSC 2.2 Hi-Racer ABS | 741,000 |
รุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่น | ราคา(บาท) |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 S | 652,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 V ABS | 784,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer | 780,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS | 815,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS AT | 858,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 2.2 Hi-Racer ABS เบาะหนัง AT | 893,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 4x4 3.2 R ABS/DSC/เบาะหนัง | 996,000 |
ดับเบิ้ลแค็ป DBL 4x4 3.2 R ABS/DSC/เบาะหนัง AT | 1,023,000 |
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร
รุ่น | ราคา(บาท) |
สแตนดาร์ดแค็ป STD 2.5 S | 561,000 |
ฟรีสไตล์แค็ปFSC 2.5 S | 612,000 |
ดับเบิ้ลแค็ปDBL 2.5 S | 652,000 |
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring