ต่อจากตัวถังแฮทช์แบ็กที่เปิดตัวออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน แถมยังมีรุ่น 5 ประตูเพิ่มเข้ามาด้วย ตอนนี้ถึงคิวของรุ่นอเนกประสงค์แบบแวกอนที่เรียกว่าคลับแมนออกมาแล้ว โดยนอกจากหน้าตาจะสวยสดใหม่ บนเอกลักษณ์เดิมๆ ของมินิแล้ว ยังมีการปรับปรุงในเรื่องของบานประตูต่างๆ
เรื่องของเรื่องในรุ่นเดิมและรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 ตัวรถจะเป็นแบบแวกอน 2 ประตู ก่อนเปลี่ยนมาป็น 3 ประตูในรุ่นใหม่ คือ ประตูด้านหลังจะสามารถเปิดได้ฝั่งเดียว ส่วนรุ่นใหม่จะเป็นแบบ 4 ประตู ที่ประตูบานท้ายจะเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนฝากระโปรงหลังยังยึดเอกลักษณ์เดิมคือ เป็นแบบ 2 บานและเปิดออกเหมือนกับพวกตู้เสื้อผ้า
ในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวถังที่มีความยาว 4,253 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้น 90 มิลลิเมตร สูง 1,441 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นแฮทช์ยาวขึ้น 270 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 90 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวขึ้น 100 มิลลิเมตร
ส่วนในเรื่องความอเนกประสงค์ มาพร้อมเบาะหลังที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาพนักพิงหลังแบบพับได้ 60:40 หรือว่า 40:20:40 โดยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุเพิ่มขึ้นจากรุ่นแฮทช์แบ็ก 82 ลิตร และ 10 ลิตรเมื่อเปรียบเทียบกับคลับแมนรุ่นเดิมมาอยู่ที่ 360 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงทั้งหมดตัวเลขจะขยับเป็น 1,250 ลิตร
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีการแบ่งออกเป็นสเปกยุโรปจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 33.6 กก-ม. ที่ 1,750 รอบ/นาที ตามด้วยรุ่น 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ที่มีกำลัง 136 แรงม้า ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ที่ 1,250 รอบ/นาที ในรุ่น Cooper และขยับเป็น 192 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. ที่ 1,250 รอบ/นาทีในรุ่น Cooper S ซึ่งเป็นขุมพลัง 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 หรือ 8 จังหวะ ตามรุ่นเครื่องยนต์
ส่วนตลาดอเมริกาเหนือ จะวางขายตามหลัง โดยมีกำหนดในต้นปี 2016 นั้น มากับเครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ที่มีกำลัง 134 แรงม้า และ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 189 แรงม้า โดยที่ไม่มีรุ่นเทอร์โบดีเซลขาย
เรื่องของเรื่องในรุ่นเดิมและรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 ตัวรถจะเป็นแบบแวกอน 2 ประตู ก่อนเปลี่ยนมาป็น 3 ประตูในรุ่นใหม่ คือ ประตูด้านหลังจะสามารถเปิดได้ฝั่งเดียว ส่วนรุ่นใหม่จะเป็นแบบ 4 ประตู ที่ประตูบานท้ายจะเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนฝากระโปรงหลังยังยึดเอกลักษณ์เดิมคือ เป็นแบบ 2 บานและเปิดออกเหมือนกับพวกตู้เสื้อผ้า
ในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวถังที่มีความยาว 4,253 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้น 90 มิลลิเมตร สูง 1,441 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นแฮทช์ยาวขึ้น 270 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 90 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวขึ้น 100 มิลลิเมตร
ส่วนในเรื่องความอเนกประสงค์ มาพร้อมเบาะหลังที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาพนักพิงหลังแบบพับได้ 60:40 หรือว่า 40:20:40 โดยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุเพิ่มขึ้นจากรุ่นแฮทช์แบ็ก 82 ลิตร และ 10 ลิตรเมื่อเปรียบเทียบกับคลับแมนรุ่นเดิมมาอยู่ที่ 360 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงทั้งหมดตัวเลขจะขยับเป็น 1,250 ลิตร
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีการแบ่งออกเป็นสเปกยุโรปจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล 150 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 33.6 กก-ม. ที่ 1,750 รอบ/นาที ตามด้วยรุ่น 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ที่มีกำลัง 136 แรงม้า ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ที่ 1,250 รอบ/นาที ในรุ่น Cooper และขยับเป็น 192 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. ที่ 1,250 รอบ/นาทีในรุ่น Cooper S ซึ่งเป็นขุมพลัง 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 หรือ 8 จังหวะ ตามรุ่นเครื่องยนต์
ส่วนตลาดอเมริกาเหนือ จะวางขายตามหลัง โดยมีกำหนดในต้นปี 2016 นั้น มากับเครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ที่มีกำลัง 134 แรงม้า และ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 189 แรงม้า โดยที่ไม่มีรุ่นเทอร์โบดีเซลขาย