xs
xsm
sm
md
lg

แมคลาเรน 650S สไปเดอร์ คันแรกของเมืองไทย งานซูปเปอร์คาร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวแมคลาเรน กรุงเทพฯ (McLaren Bangkok) โชว์รูมแบรนด์ซูเปอร์คาร์ชื่อดังระดับโลกจากอังกฤษ บริษัท นิชคาร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายแมคลาเรนเพียงรายเดียว อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะเผยโฉมแมคลาเรน รุ่นล่าสุด แมคลาเรน 650S (McLaren 650S) ในงานซุปเปอร์คาร์แอนด์อิมพอร์ตคาร์โชว์ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 9-17 พฤษภาคม 2558 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 8

แมคลาเรน 650S ได้รับการยอมรับว่าคือซุปเปอร์คาร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการขับขี่ได้หลากหลายมากที่สุดในโลก และยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากแฟนคลับทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอใน 2 รุ่น คูเป้ (Coupé) และสไปเดอร์ (Spider)

หากพิจารณาในเชิงสมรรถนะยานยนต์ รถยนต์รุ่น แมคลาเรน 650S คูเป้ (McLaren 650S Coupé) จะมีความคล้ายคลึงกับรุ่น แมคลาเรน 650 สไปเดอร์ (McLaren 650S Spider) และใช้ได้กับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบรุ่นพิเศษของ แมคลาเรน M838T ซึ่งให้กำลัง 650 แรงม้า (641 แรงม้าเพลา) และ แรงบิด 678 นิวตันเมตร (500 ฟุต-ปอนด์) ซึ่งหมายถึงสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) ได้ในเวลาเพียง 3 วินาที และ 0-200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) เพียง 8.6 วินาที โดยช้ากว่ารุ่นติดตั้งแบบ fixed-head เพียง 0.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 329 กม./ชม. (204 ไมล์/ชม.) ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียจะอยู่ระดับเดียวกับรุ่น 650S Spider คือที่ 24.2 ไมล์ต่อแกลลอน (11.7 ลิตร/100 กม.) ตามอัตราการใช้เชื้อเพลิงรวมหน่วยยูโร และอัตราไอเสียที่ 275 กรัม/กม.

แบรนด์คู่แข่งมักจะไม่นำเสนอยานยนต์สมรรถนะสูงที่มีประสิทธิภาพเท่ากันในรูปแบบรถยนต์เปิดประทุน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความยุ่งยากสำหรับระบบเปิดประทุนได้ โดยรถเปิดประทุนเหล่านั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าและมีความแข็งแกร่งต่อแรงบิดต่ำกว่า ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการควบคุมและการขับขี่

ทว่า ด้วยการใช้โครงรถที่เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบ MonoCell ซึ่งเป็นหัวใจของรุ่นแมคลาเรน 650S จึงไม่จำเป็นต้องมีการเสริมความทนทานหรือเพิ่มความแข็งแรงในตัวฝาปิดด้านบนแต่อย่างใด ทั้งยังทำให้ยานยนต์ 650S Spider มีความสามารถในการควบคุมและการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและมีรูปทรงเป็นแนวเส้นตรงอันสง่างาม โดยยานยนต์ 650S Spider มีน้ำหนักรวม 1,370 กก. (ขณะไม่เติมเชื้อเพลิง) และเพิ่มขึ้นเพียง 40 กก. เมื่อเป็นแบบรถคูเป้ ซึ่งเกิดจากการเพิ่มชิ้นส่วนหลังคาแข็งแบบพับและกลไกส่วนหลังคา หากก็ยังถือว่ามีน้ำหนักที่เบากว่ารถยนต์รุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน


หลังคาแข็งแบบพับสองชิ้นสามารถปรับขึ้นและลงได้ภายในเวลา 17 วินาที โดยปรับได้ทั้งในขณะหยุดนิ่งและขณะรถเคลื่อนด้วยความเร็วสูงถึง 30 กม./ชม. (19 ไมล์/ชม.) 650S Spider ยังใช้กระจกหน้าต่างหลังแบบฉนวนเหมือนกับรุ่น 12C Spider ซึ่งทำงานแยกส่วนกับหลังคารถ โดยเมื่อปิดหลังคาลง กระจกหน้าต่างหลังจะทำหน้าที่เป็นตัวเบี่ยงลมเพื่อป้องกันแรงกระแทกกับห้องโดยสาร ส่วนเมื่อเปิดหลังคา สามารถปรับหน้าต่างกระจกหลังลงได้เพื่อเพิ่มเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์และสร้างอรรถรสในการขับขี่แก่ห้องโดยสาร โดยเฉพาะการเปิดเพียงครึ่งเดียวเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ของการขับขี่ท่ามกลางสายฝน เมื่อพับหลังคาลง แผ่นหลังคาจะถูกเก็บในแผงคลุมที่มีสีเดียวกับตัวรถโดยทำงานร่วมกับโครงค้ำคู่ด้านหลัง เมื่อยกหลังคาขึ้น พื้นที่ว่างใต้แผงคลุมยังสามารถปรับใช้เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมได้

นอกเหนือจากสมรรถนะระดับรถแข่งที่เปิดประทุนได้ ยานยนต์รุ่น 650S Coupé และ 650 Spider ยังตกแต่งด้วยวัสดุหรูหราคุณภาพเยี่ยม โดยตัวเบรกของรุ่น 650S ใช้วัสดุแบบคาร์บอนเซรามิกคู่กับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาที่หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero™ Corsa นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบนำทางของ IRIS และระบบโทรศัพท์ผ่านสัญญาณบลูทูธ วิทยุระบบดิจิตัล DAB ในยุโรป (วิทยุดาวเทียว SIRIUS ในอเมริกาเหนือ) ระบบเชื่อมต่อออนไลน์แบบไร้สาย โดยติดตั้งระบบเครื่องเสียงและการสั่งงานด้วยเสียงเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น ส่วนห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยผ้าอัลแคนทาร่า (Alcantara) ทั้งหมด

แฟนคลับแมคลาเรนสามารถเยี่ยมชม 650S Coupé และ 650 Spider ณ ซุปเปอร์คาร์แอนด์อิมพอร์ตคาร์โชว์ ครั้งที่ 6 ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2558 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์

สำหรับราคา ของรถทั้ง 2 รุ่น คือ แมคลาเรน 650S คูเป้ 29 ล้านบาท และ แมคลาเรน 650S สไปเดอร์ 30.5 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น