xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เป้า “บิ๊กไบค์ยุโรปไซส์ยักษ์” รุ่นฮิตราคาหลักล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดสองล้อขนาดใหญ่ในกลุ่มประเภททัวริ่งหรือแอดเวนเจอร์ปรอทแตกขึ้นมาทันที เมื่อสองแบรนด์ดังอย่าง “ดูคาติ” และ “เคทีเอ็ม” ต่างพร้อมใจส่งโมเดลใหม่มาเปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 ที่ผ่านมา ขณะที่ยี่ห้อหรูจากเยอรมัน “บีเอ็มดับเบิลยู” ยึดเวทีประกาศเพิ่มสายการผลิตให้กับโมเดลยอดนิยม พร้อมกดราคาลงกว่าแสนบาท เหตุนี้จึงส่งผลให้ตลาดบิ๊กไบค์ไซส์ยักษ์ค่ายยุโรปกำลังเป็นที่จับตามองกันมากทีเดียว...“ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เกาะกระแสความร้อนแรง ขอนำตัวเลือกรุ่นฮิตในกลุ่มนี้มาเทียบหมัดเช็กความโดดเด่นกันหน่อย

เริ่มจากค่ายใบพัดสีฟ้าตามที่บอสใหญ่ “แมทธิอัส พฟาลซ์” ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวไว้ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 ว่าตอนนี้ได้เพิ่มไลน์การประกอบมอเตอร์ไซค์ในโรงงานที่จังหวัดระยองอีก 3 รุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS, บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure ซึ่งสำหรับโมเดลยอดนิยมของต้นสังกัดนี้อยู่ในตระกูล GS อยู่แล้ว
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS
ยิ่งเมื่อประกาศจุดยืนต้องการขยายตลาด ด้วยกลยุทธ์เมดอินไทยแลนด์พร้อมกับการทลายกำแพงภาษี ยิ่งทำให้ราคาค่าตัวเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น R 1200 GS จากเดิมนำเข้าขาย 1,200,000 บาท ตอนนี้เหลือเพียง 950,000 บาท

ขณะเดียวกันออฟชันต่างๆ ก็ยังจัดเต็มเหมือนเดิม ด้วยระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานในเวลากลางวัน (Daytime running light) และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง “Rain”, “Road”, “Dynamic”, “Enduro”, และ “Enduro Pro” พร้อมติดตั้งระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือการปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช้กด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่

ส่วนขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ ขนาด 1,170 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่งความเร็วได้มากกว่า 200 กม./ชม. และมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 24.4 กม./ลิตร
ดูคาติ Multistrada 1200S โฉมปี 2015
ฝั่งแบรนด์สีแดงจากแดนมักโรนี ยกทัพโมเดลใหม่มาเปิดตัวถึง 3 รุ่น นำโดย Monster 821, 1299 Panigale และ Multistrada 1200S โมเดล 2015 ซึ่งตัวเลือกหลังสุดนี้เองที่จะเขย่าหัวใจนักเดินทาง หรือผู้ต้องการมองหารถทัวริ่งคู่ใจไว้ใช้งานแบบเอนกประสงค์

ด้วยความโดดเด่นของขุมพลังที่พัฒนาขึ้นใหม่ บล็อก 2สูบ L-Twin Testastretta 11 DVT (Desmodromic Variable Timing) ขนาด 1,198.4 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที แต่ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิมถึง 8%
มีให้เลือก 2 สี แดงและขาว
พร้อมกับการย้ำคำนิยาม “เพราะชีวิตคือการเดินทาง” ผสมผสานกับเทคโนโลยี 4 โหมดการขับขี่ Sport, Touring, Urban และ Enduro พร้อมคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire และ Cruise Control เพื่อช่วยลดภาระของผู้ขับขี่เมื่อต้องเดินทางไกล ผนวกกับระบบช่วยกันการลอยตัวของล้อหน้า wheelie control และที่น่าสนใจสุดกับระบบ Skyhook Suspension EVO หรือช่วงล่างหน้า-หลังอัจฉริยะ ที่ปรับสภาพอัตโนมัติตามสภาพถนน แถมด้วยของเล่นใหม่กับระบบ Bluetooth for Smart Phone สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์และแสดงผลบนแผงหน้าปัดทันที

อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีที่อัดแน่นมาล้นคันจะมาพร้อมค่าตัวที่สูงถึง 1,499,000 บาท เนื่องจากเป็นรุ่นนำเข้า หากจ่ายได้ไม่ลำบากก็นับว่าคุ้มค่า แต่ถ้าเบี้ยน้อยหอยน้อยและอดใจรอไหว น่าจะได้เห็นตัวเลขที่ต่ำลง เพราะโมเดลรุ่นปีก่อนหน้าก็ประกอบในบ้านเรา เหตุไฉนรุ่นปีล่าสุดจะไม่เดินรอยตาม ซึ่งทางดูคาติเองก็ออกมายืนยันว่าช่วงปลายปีนี้จะมีการเปิดตัวโฉมทำคลอดที่นี่แน่นอน
เคทีเอ็ม 1290 Adventure
ขยับมาที่อีกแบรนด์ดังจากฝั่งยุปโรปเช่นกัน สำหรับเคทีเอ็มจากประเทศออสเตรีย โดยทำตลาดในไทยผ่านทางคุณค่า คอร์ปอเรชั่น ซึ่งนำผลิตภัณฑ์ตามที่เจ้าของยี่ห้อระบุไว้ว่า เป็นสุดยอดของรถสไตล์ Travel Enduro นั่นคือ 1290 Adventure มาเปิดตัวพร้อมจำหน่ายราคา 1,450,000 บาท

สำหรับความโดดเด่นอยู่ที่ขุมพลังให้ความแรงเร้าใจเหนือทุกตัวเลือก โดยพร้อมบุกตะลุยไปได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบ V-Twin ขนาด 1,301 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 8,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที

หากดูเฉพาะข้อมูลเทคนิคและคล้อยตามไปกับการชูจุดขายของความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความแรง ความเร็ว ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่ดีที่สุดของเคทีเอ็มในตอนนี้ พ่วงการการันตีว่าของเค้าเจ๋งจริง ด้วยการส่งมอบรถคันแรกในไทยไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์สมรรถนะโดยลูกค้าขาประจำอย่าง บิ๊กเน-เนวิน ชิดชอบ ผู้หลงใหลการใช้สองล้อเป็นยานพาหนะเดินทางไกลอยู่เป็นประจำ ทำให้โมเดลจากค่ายสีส้มรุ่นนี้ดูจะดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าคู่แข่งรุ่นอื่นๆ ไม่มากก็น้อย
ไทรอัมพ์ Tiger Explorer
ขณะที่อีกตัวเลือกหนึ่งแม้จะไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวในตอนนี้ แต่จะไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ ในฐานะแบรนด์เก่าแก่จากเมืองผู้ดี ซึ่งมีโมเดลที่ทำตลาดกลุ่มรถทัวริ่งและแอดเวนเจอร์ด้วย สำหรับไทรอัมพ์ Tiger Explorer ราคา 1,270,000 บาท

นอกจากขุมพลังที่เป็นเอกลักษณ์ ติดตั้งเครื่องยนต์แบบ 3 สูบเรียง ขนาด 1,215 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 135 แรงม้าที่ 9,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตรที่ 6,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังขั้นสุดท้ายด้วยเพลา

ด้านออฟชันอื่นหากพิจารณาดูแล้วก็สูสีกัน อาทิ ระบบ cruise control, traction control และเบรก ABS ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ตามมาตรฐานอุปกรณ์ติดรถยุโรปที่มีมาให้เหมือนกันทุกแบรนด์

อย่างไรก็ตาม หากสนใจต้องรีบหน่อย เพราะทางบริทไบค์แจ้งว่า ภายในปีนี้จะเดินหน้าลุยทำตลาดโมเดลขนาดกลางที่ประกอบไทย ซึ่งสอดรับกับการปรับราคาลงมาก่อน ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ถ้าขายหมดจากในสต็อกที่มีแล้ว อาจต้องรอนานถึงปีหน้ากว่าจะนำเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง

ทั้งหมดเป็นบิ๊กไบค์ยุโรปไซส์ยักษ์ที่นำมาชี้เป้าเผื่อเป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจ เช่นเดิมขอย้ำอีกครั้งว่า แค่กางสเปกมาเทียบคงใช้วัดความคุ้มค่าหรือว่าตอบโจทย์ตรงกับความต้องการได้บางส่วน ถ้าจะซื้อทั้งทีให้ดีต้องไปลองด้วยตัวเอง โดยเฉพาะรุ่นใหญ่ราคาหลักล้านบาท หากพลาดพลั้งเจ็บตัวเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น