อีกหนึ่งไฮไลต์ของ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด คือการเผยโฉมปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส (911 Carrera 4 GTS) ใหม่ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015


โดยปอร์เช่ส่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) เจเนอเรชั่นที่ 2 เข้าสู่สายการผลิตโดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ทั้งคูเป้และคาบริโอเลต (เปิดประทุน) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่เข้ามาเติมเต็มระหว่างรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถสปอร์ตที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้จุดประสงค์หลักในการผลิตเพื่อใช้ในการแข่งขันบนสนามแข่ง
911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) คือ รถที่เต็มไปด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นผสานกับความคล่องตัว และสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่โดยรถสามารถสร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า (316 กิโลวัตต์) มาพร้อมกับ Sport Chrono Package และระบบช่วงล่าง PASM active damper ช่วยลดระดับความสูงของรถได้อีก 10 มิลลิเมตร ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเร่งและความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเหมือนกับ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ทำได้ในระยะเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลตทำได้ในระยะเวลา 4.2 วินาที) ความเร็วสูงสุดของรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่ละรุ่นมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง; โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรุ่นคูเป้ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดาและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง



ส่วนจุดเด่นอื่นๆที่เพิ่มเข้ามา เช่น ระบบไฟหน้าแบบไบซีนอน ที่มาพร้อมกับระบบ ไฟเลี้ยว Porsche Dynamic Light System (PDLS) และระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทำให้เสียงของรุ่นจีทีเอส (GTS) ดุดันและสมบูรณ์แบบ ด้านหน้าโซนคนขับและผู้โดยสารมาพร้อมกับการตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนัง Alcantara และส่วนแผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Alcantara เช่นกัน
ภายนอกของปอร์เช่ 911 ใหม่ล่าสุดจะเหมือนกับรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่แตกต่างจากรุ่นคาร์เรร่า (Carrera) ทั่วไป โดยมาพร้อมกับตัวรถของรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ที่มีระยะฐานล้อด้านหลังที่กว้างขึ้น ล้อขนาด 20 นิ้วถูกติดตั้งมาเป็นล้อมาตรฐานพร้อมด้วยดุมล้อสีดำ ส่วนด้านหน้าจะมาพร้อมกับชิ้นส่วนขอบที่มีสีตัดกันได้อย่างลงตัว และไฟหน้าไบซีนอนแบบ smoked bi-xenon headlights ขอบสีดำบนช่องดักอากาศจะทำให้รุ่น จีทีเอส (GTS) มีความโดดเด่นผสานเข้ากับปลายท่อ chrome-plated exhaust tailpipes สีดำได้อย่างลงตัว
สำหรับ Porsche 911 CARRERA 4 GTS COUPE มาพร้อมราคา 18,300,000 บาท

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
โดยปอร์เช่ส่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) เจเนอเรชั่นที่ 2 เข้าสู่สายการผลิตโดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ทั้งคูเป้และคาบริโอเลต (เปิดประทุน) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่เข้ามาเติมเต็มระหว่างรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถสปอร์ตที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้จุดประสงค์หลักในการผลิตเพื่อใช้ในการแข่งขันบนสนามแข่ง
911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) คือ รถที่เต็มไปด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นผสานกับความคล่องตัว และสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่โดยรถสามารถสร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า (316 กิโลวัตต์) มาพร้อมกับ Sport Chrono Package และระบบช่วงล่าง PASM active damper ช่วยลดระดับความสูงของรถได้อีก 10 มิลลิเมตร ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเร่งและความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเหมือนกับ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ทำได้ในระยะเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลตทำได้ในระยะเวลา 4.2 วินาที) ความเร็วสูงสุดของรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่ละรุ่นมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง; โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรุ่นคูเป้ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดาและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
ส่วนจุดเด่นอื่นๆที่เพิ่มเข้ามา เช่น ระบบไฟหน้าแบบไบซีนอน ที่มาพร้อมกับระบบ ไฟเลี้ยว Porsche Dynamic Light System (PDLS) และระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทำให้เสียงของรุ่นจีทีเอส (GTS) ดุดันและสมบูรณ์แบบ ด้านหน้าโซนคนขับและผู้โดยสารมาพร้อมกับการตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนัง Alcantara และส่วนแผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Alcantara เช่นกัน
ภายนอกของปอร์เช่ 911 ใหม่ล่าสุดจะเหมือนกับรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่แตกต่างจากรุ่นคาร์เรร่า (Carrera) ทั่วไป โดยมาพร้อมกับตัวรถของรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ที่มีระยะฐานล้อด้านหลังที่กว้างขึ้น ล้อขนาด 20 นิ้วถูกติดตั้งมาเป็นล้อมาตรฐานพร้อมด้วยดุมล้อสีดำ ส่วนด้านหน้าจะมาพร้อมกับชิ้นส่วนขอบที่มีสีตัดกันได้อย่างลงตัว และไฟหน้าไบซีนอนแบบ smoked bi-xenon headlights ขอบสีดำบนช่องดักอากาศจะทำให้รุ่น จีทีเอส (GTS) มีความโดดเด่นผสานเข้ากับปลายท่อ chrome-plated exhaust tailpipes สีดำได้อย่างลงตัว
สำหรับ Porsche 911 CARRERA 4 GTS COUPE มาพร้อมราคา 18,300,000 บาท
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring