วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจจากไออาร์ซีที่นำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการใช้ยางในสนามแข่งขันมาฝากกัน อันดับแรกเคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าเกี่ยวกับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบในรายการต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝนฟ้าทำท่าจะตก ซึ่งสร้างปัญหาให้กับเหล่าบรรดาทีมเทคนิคที่จะต้องเลือกใช้ยางลงไปควอลิฟายเพื่อทำเวลาหาตำแหน่งโพลโพซิชั่น หรือแม้กระทั่งในช่วงลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็ตาม
ยกตัวอย่างในรอบควอลิฟายที่มีขึ้นก่อนการแข่งขัน หากฝนฟ้าเริ่มตั้งเค้ากันตั้งแต่ก่อนลงควอลิฟายแถมตกลงมาทั่วสนาม ซึ่งทุกทีมแข่งเริ่มมีการเตรียมยางน้ำหรือยางที่ใช้สำหรับแข่งขันในขณะฝนตก(เวทเรซ) แต่ฝนก็ไม่ได้ตกแบบกระหน่ำ หรือสักพักก็ซาลง ทำให้หลายๆ ทีมกังวลว่าจะเปลี่ยนเป็นยางน้ำออกไปวิ่งดีหรือไม่ เพื่อจะได้ทำเวลาให้ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งโพลโพซิชั่น
ประเด็นนี้ทีมวิศวกรจากไออาร์ซีญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่จะยกทีมกันไปสังเกตการณ์ตามสนามแข่งต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะรายการใหญ่อย่างสนามแข่งที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า ยางน้ำถ้าจะเปลี่ยนนั้น ต้องดูสภาพอากาศให้ดี ถ้าคาดการณ์ได้ว่า เมื่อเปลี่ยนไปแล้วสามารถวิ่งได้จนจบการแข่งขันเพราะยังคงมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนเป็นยางน้ำนั้นถือว่าถูกต้อง เพราะจะทำให้การวิ่งในแต่ละรอบสามารถเกาะถนนและลดการลื่นไถลขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าเปลี่ยนยางน้ำไปแล้ว ทันใดนั้นฝนดันหยุดตกหรือตกแบบพรำๆ อันนี้ถือว่าไม่เป็นผลดีสำหรับทีมงานที่เปลี่ยนเป็นยางน้ำ เพราะคุณสมบัติของยางน้ำหรือที่เรียกว่า Heat build up จะเพิ่มการรีดน้ำออกมาได้อย่างรวดเร็วทำให้ grip ที่ดีอยู่แล้วทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าแทร็คเริ่มแห้ง ยางน้ำก็จะสะสมความร้อนในตัวเพิ่มขึ้นทำให้ยางเริ่มย้วยจนไม่สามารถใช้งานได้เลย และไม่นานก็จะหมดสภาพได้ เพราะคุณสมบัติยางน้ำคือต้องใช้วิ่งขณะฝนตกตลอดการแข่งขัน ดังนั้นทุกทีมจึงต้องมีการเตรียมยางน้ำสำรองไว้ เพราะหากเกิดฝนตกจะได้เปลี่ยนมาใช้ได้ทุกเวลา และหากฝนไม่ตกก็ใช้ยางแข่งกันตามปกติ
สำหรับการแข่งขันในแต่ละรายการ โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะเป็นผู้กำหนดว่าเรซนี้จัดอยู่ในประเภท “เวทเรซ” หรือไม่
อย่างที่กล่าวไว้ว่ายางน้ำจะถูกเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน โดยการซับพอร์ทของบริษัทฯ ยางที่ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ซึ่งในบ้านเราอดีตที่ผ่านมาไม่เป็นที่นิยม เพราะถ้าเกิดฝนตกหนักมากก็จะหยุดแข่งหรือรอให้ฝนซาเม็ดก่อน แต่ในช่วงหลังที่มีการแข่งรถระดับสากลมาจัดแข่งในเมืองไทยมากขึ้น เราก็ได้เห็นการเตรียมยางน้ำมารองรับ “เวทเรซ” มากขึ้นตามไปด้วย
อีกประเด็นที่ทีมวิศวกรญี่ปุ่นไออาร์ซี ฝากบอกกับแฟนบิ๊กไบค์ทั้งหลาย เพราะจากการสำรวจตลาดรถมอเตอร์ไซค์ที่ช่วงนี้ถือว่าพีคพอสมควร สำหรับรถประเภท 600 ซีซี. ถึง 1,000 ซีซี. โดยรถแต่ละคันมีราคาหลักแสนถึงหลักล้านกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่จัดว่าเป็นลูกค้ากลุ่มบน คือ สามารถจับจองเป็นเจ้าของแบบไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ ซึ่งก็มีคำถามว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ทั่วๆ ไปสามารถใส่ยางสลิคที่ใช้ในการแข่งขันได้หรือไม่
คำตอบจากวิศวกรบอกว่า สามารถใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมากคือความปลอดภัย ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าทำไม เพราะสังเกตุให้ดีว่าก่อนการแข่งขัน “ยางสลิค” ต้องสวมอุปกรณ์วอร์มอัพยางก่อน คือ อุ่นให้ยางร้อนก่อนแข่งจะได้สมรรถนะที่เต็มประสิทธิภาพ ถึงแม้อากาศบ้านเราในช่วงตอนเที่ยงๆ จะร้อนและมีแดดเปรี้ยง ทำให้อุณหภูมิขึ้นเกือบสี่สิบองศาเซลเซียส แต่ที่ต้องวอร์มยางให้ร้อนก็ด้วยเหตุผลคือ ยางสลิคถูกออกแบบมาให้เกาะถนนได้ดีเมื่ออุณภูมิในตัวมันอยู่ที่ประมาณเกือบๆ 70 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้น นักบิดบิ๊กไบค์ที่เห็นผู้อื่นใช้และลองซื้อมาใส่รถของตัวเอง โดยไม่มีการวอร์มยางก่อนใช้ ก็ควรระวังเรื่องการเกาะถนนไว้ด้วย
เนื่องจากยางจะไม่เกาะถนนเท่าที่ควร หากอุณหภูมิไม่ถึงค่าที่ควรจะเป็น ซึ่งบางท่านอาจแย้งว่า หากขี่ไปเร็วๆ เรื่อยๆ เดี๋ยวอุณหภูมิมันก็ถึงเอง หรือที่เรียกว่าTire Heat build up กรณีนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องตอบว่ามันใช้เวลานานมาก และที่สำคัญมันไม่คุ้มหากใช้แล้วมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ยางแต่ละประเภทมีเหตุผลของมันอยู่ ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เพราะหากเลือกผิดชีวิตมีความเสี่ยงแน่นอน
หมายเหตุ-ข้อมูลและภาพจากยางไออาร์ซี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
ยกตัวอย่างในรอบควอลิฟายที่มีขึ้นก่อนการแข่งขัน หากฝนฟ้าเริ่มตั้งเค้ากันตั้งแต่ก่อนลงควอลิฟายแถมตกลงมาทั่วสนาม ซึ่งทุกทีมแข่งเริ่มมีการเตรียมยางน้ำหรือยางที่ใช้สำหรับแข่งขันในขณะฝนตก(เวทเรซ) แต่ฝนก็ไม่ได้ตกแบบกระหน่ำ หรือสักพักก็ซาลง ทำให้หลายๆ ทีมกังวลว่าจะเปลี่ยนเป็นยางน้ำออกไปวิ่งดีหรือไม่ เพื่อจะได้ทำเวลาให้ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งโพลโพซิชั่น
ประเด็นนี้ทีมวิศวกรจากไออาร์ซีญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่จะยกทีมกันไปสังเกตการณ์ตามสนามแข่งต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะรายการใหญ่อย่างสนามแข่งที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าให้ฟังว่า ยางน้ำถ้าจะเปลี่ยนนั้น ต้องดูสภาพอากาศให้ดี ถ้าคาดการณ์ได้ว่า เมื่อเปลี่ยนไปแล้วสามารถวิ่งได้จนจบการแข่งขันเพราะยังคงมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนเป็นยางน้ำนั้นถือว่าถูกต้อง เพราะจะทำให้การวิ่งในแต่ละรอบสามารถเกาะถนนและลดการลื่นไถลขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าเปลี่ยนยางน้ำไปแล้ว ทันใดนั้นฝนดันหยุดตกหรือตกแบบพรำๆ อันนี้ถือว่าไม่เป็นผลดีสำหรับทีมงานที่เปลี่ยนเป็นยางน้ำ เพราะคุณสมบัติของยางน้ำหรือที่เรียกว่า Heat build up จะเพิ่มการรีดน้ำออกมาได้อย่างรวดเร็วทำให้ grip ที่ดีอยู่แล้วทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าแทร็คเริ่มแห้ง ยางน้ำก็จะสะสมความร้อนในตัวเพิ่มขึ้นทำให้ยางเริ่มย้วยจนไม่สามารถใช้งานได้เลย และไม่นานก็จะหมดสภาพได้ เพราะคุณสมบัติยางน้ำคือต้องใช้วิ่งขณะฝนตกตลอดการแข่งขัน ดังนั้นทุกทีมจึงต้องมีการเตรียมยางน้ำสำรองไว้ เพราะหากเกิดฝนตกจะได้เปลี่ยนมาใช้ได้ทุกเวลา และหากฝนไม่ตกก็ใช้ยางแข่งกันตามปกติ
สำหรับการแข่งขันในแต่ละรายการ โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะเป็นผู้กำหนดว่าเรซนี้จัดอยู่ในประเภท “เวทเรซ” หรือไม่
อย่างที่กล่าวไว้ว่ายางน้ำจะถูกเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน โดยการซับพอร์ทของบริษัทฯ ยางที่ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ซึ่งในบ้านเราอดีตที่ผ่านมาไม่เป็นที่นิยม เพราะถ้าเกิดฝนตกหนักมากก็จะหยุดแข่งหรือรอให้ฝนซาเม็ดก่อน แต่ในช่วงหลังที่มีการแข่งรถระดับสากลมาจัดแข่งในเมืองไทยมากขึ้น เราก็ได้เห็นการเตรียมยางน้ำมารองรับ “เวทเรซ” มากขึ้นตามไปด้วย
อีกประเด็นที่ทีมวิศวกรญี่ปุ่นไออาร์ซี ฝากบอกกับแฟนบิ๊กไบค์ทั้งหลาย เพราะจากการสำรวจตลาดรถมอเตอร์ไซค์ที่ช่วงนี้ถือว่าพีคพอสมควร สำหรับรถประเภท 600 ซีซี. ถึง 1,000 ซีซี. โดยรถแต่ละคันมีราคาหลักแสนถึงหลักล้านกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่จัดว่าเป็นลูกค้ากลุ่มบน คือ สามารถจับจองเป็นเจ้าของแบบไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ ซึ่งก็มีคำถามว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ทั่วๆ ไปสามารถใส่ยางสลิคที่ใช้ในการแข่งขันได้หรือไม่
คำตอบจากวิศวกรบอกว่า สามารถใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมากคือความปลอดภัย ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าทำไม เพราะสังเกตุให้ดีว่าก่อนการแข่งขัน “ยางสลิค” ต้องสวมอุปกรณ์วอร์มอัพยางก่อน คือ อุ่นให้ยางร้อนก่อนแข่งจะได้สมรรถนะที่เต็มประสิทธิภาพ ถึงแม้อากาศบ้านเราในช่วงตอนเที่ยงๆ จะร้อนและมีแดดเปรี้ยง ทำให้อุณหภูมิขึ้นเกือบสี่สิบองศาเซลเซียส แต่ที่ต้องวอร์มยางให้ร้อนก็ด้วยเหตุผลคือ ยางสลิคถูกออกแบบมาให้เกาะถนนได้ดีเมื่ออุณภูมิในตัวมันอยู่ที่ประมาณเกือบๆ 70 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้น นักบิดบิ๊กไบค์ที่เห็นผู้อื่นใช้และลองซื้อมาใส่รถของตัวเอง โดยไม่มีการวอร์มยางก่อนใช้ ก็ควรระวังเรื่องการเกาะถนนไว้ด้วย
เนื่องจากยางจะไม่เกาะถนนเท่าที่ควร หากอุณหภูมิไม่ถึงค่าที่ควรจะเป็น ซึ่งบางท่านอาจแย้งว่า หากขี่ไปเร็วๆ เรื่อยๆ เดี๋ยวอุณหภูมิมันก็ถึงเอง หรือที่เรียกว่าTire Heat build up กรณีนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องตอบว่ามันใช้เวลานานมาก และที่สำคัญมันไม่คุ้มหากใช้แล้วมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ยางแต่ละประเภทมีเหตุผลของมันอยู่ ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เพราะหากเลือกผิดชีวิตมีความเสี่ยงแน่นอน
หมายเหตุ-ข้อมูลและภาพจากยางไออาร์ซี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring