บริษัท อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Indian และ Victory รถบิ๊กไบค์จากประเทศสหรัฐอเมริกา จัดกิจกรรม “Indian-Victory Exclusive Press Trip 2014” เพื่อร่วมเปิดประสบการณ์วัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของการขับขี่รถบิ๊กไบค์ทั้ง 2 แบรนด์ โดยเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์และสมาชิก “Indian Riders Group of Thailand” ร่วมขับขี่ทดสอบในเส้นทางกรุงเทพฯ-บางแสน-กรุงเทพฯ ระยะทางรวมประมาณ 180 กิโลเมตร
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ได้นำรถบิ๊กไบค์มาให้ทดสอบสมรรถนะจำนวน 5 คัน แบ่งเป็น Victory Motorcycle 3 คัน ประกอบด้วยรุ่น Judge, Cross Country และ Hammer S รวมทั้ง Indian Motorcycle อีก 2 คัน ประกอบด้วยรุ่น Chief Classic และ Chieftain พร้อมทั้งจัดเตรียมรถโมบายเซอร์วิส มาคอยดูแลในระหว่างทริปขับขี่ท่องเที่ยว
ทั้งนี้เพื่อให้สื่อมวลชนรับรู้ถึงวัฒนธรรมและเห็นถึงแนวทางการทำตลาดของบริษัท ที่มุ่งเน้นนโยบายสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในทุกๆ ด้าน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสูงสุด นอกเหนือจากการเปิดคอร์สฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยให้กับลูกค้า และผู้ที่มีรสนิยมการขับขี่แบบเดียวกัน
ขณะที่การทดลองขี่หรือสัมผัสสมรรถนะทั้งอินเดียนและวิคตอรี่ ด้วยจำนวนรถทดสอบที่มีจำกัดไม่เพียงพอต่อผู้ร่วมทริป จึงต้องมีการหมุนเวียนสลับกันขี่ หรือต้องเลือกว่าจะขี่ขาไปหรือขากลับ
สำหรับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” เลือกขี่ขากลับ โดยประจำการบนวิคตอรี่ Cross Country ซึ่งเป็นสุดยอดของรถสำหรับเดินทางไกลของแบรนด์นี้
ด้านตำแหน่งท่านั่งถูกออกแบบให้นั่งสบาย เบาะนั่งมีความกระชับรองรับสรีระผู้ขี่ สามารถเข้ากับช่วงสะโพกและหลัง ช่วยให้ผู้ควบคุมขี่ได้อย่างสนุกสนานและสะดวกสบาย แม้ตัวรถจะมีน้ำหนักมากถึง 384 กิโลกรัม(ไม่รวมของเหลว) ซึ่งส่งผลต่อการเข็นขณะจอดอยู่บ้าง แต่เมื่อติดเครื่องล้อหมุนแล้วสำหรับประเด็นนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวล
ส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 1,731 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ให้แรงบิด 106 ปอนด์-ฟุต ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด อัตราเร่งทำได้ประทับใจ สมรรถนะความแรงเหมาะสมกับขนาด รูปร่าง และจุดขายของรถในสไตล์นี้ เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อซิ่งหรือทำความเร็วเหมือนอย่างพวกรถสปอร์ต ขณะที่จังหวะเปลี่ยนเกียร์เสียงดังฟังชัด ส่งกำลังได้ไหลลื่นต่อเนื่อง
สำหรับออฟชันที่โดดเด่นอยู่ที่ระบบ Cruise Control เมื่อต้องการรักษาระดับความเร็วคงที่ ทำให้เพิ่มอรรถรสการขี่ในด้านความสะดวกสบายและผ่อนคลายยิ่งขึ้น โดยสามารถเปิดและตั้งค่าการใช้งานได้ง่าย หรือหากต้องการเลิกใช้งาน ก็แค่กดปุ่ม “Off” หรือกำคลัตช์หรือแตะเบรกมือเท่านั้นเอง
เมื่อได้เวลาเปลี่ยนรถ ขยับมาลองขี่รุ่น Hammer S รถในสไตล์ American Drag Bike ดูบ้าง ด้วยจุดขายของล้อหลังขนาดใหญ่ถึง 250 มิลลิเมตร จากโรงงาน แต่ยังคงให้ความคล่องตัวในการขี่เข้าโค้งเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง โดยน้ำหนักตัวน้อยกว่าคันแรกที่ลองมากทีเดียวอยู่ที่ 305 กิโลกรัม ซึ่งส่งผลให้ขณะเข็นจอดรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง
ขณะที่เครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 1,731 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ให้แรงบิด 104 ปอนด์-ฟุต ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด อัตราเร่งมีความเร้าใจกว่าอย่างรู้สึกได้ ด้วยน้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่า การกระแทกคันเร่งแรงๆ บางจังหวะมีอาการล้อหน้ายกได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะเวลาที่ได้สัมผัสรถแต่ละคันมีจำกัด หรือเฉลี่ยแล้วได้ขี่แค่คันละ 40 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น รวมถึงมีแต่ทางตรงยาวอย่างเดียว ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่าบุคลิกที่แท้จริงของวิคตอรี่ Cross Country และ Hammer S เป็นอย่างไร โดยเฉพาะสมรรถนะด้านการเข้าโค้ง ขี่ทางไกลแล้วเมื่อยหรือไม่ ตลอดจนปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่วิ่งใช้งานจริงบนถนนเมืองไทย
แม้หลายสิ่งยังไม่พบคำตอบ แต่ที่แน่ๆ ระยะทางพิสูจน์สมรรถนะครั้งนี้ดูเหมือนจะสั้นเกินไป จนทำให้ผู้ร่วมทดสอบเกิดอารมณ์ค้างไปตามๆ กัน
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring