ข่าวในประเทศ - มิชลินเปิดตัวยางออฟโรดสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ ‘บีเอฟ กู๊ดริช’ 2 รุ่น “ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ” และ “มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู” ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อการใช้งานในไทยและประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ
อเล็กซองด์ อองนิยง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถปิคอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทส่งยางออฟโรด 2 รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์จ้าวตำนานออฟโรดพันธุ์แท้ ‘บีเอฟ กู๊ดริช’ (BF Goodrich) รุ่น “ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ” (All Terrain T/A KO) และ “มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู” (Mud Terrain T/A KM2) ยางออฟโรด รุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีเสริมสมรรถนะเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันท่ามกลางสภาพถนน อุณหภูมิ และความชื้นของประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เจาะกลุ่มลูกค้ายางออฟโรดที่มีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของตลาดยาง SUV และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วางตลาดครั้งนี้เป็นการสร้างทางเลือกใหม่สำหรับยางออฟโรดสมรรถนะสูงให้กับลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ นักขับออฟโรดมืออาชีพ ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสมบุกสมบัน และผู้ที่ชอบการแต่งรถสไตล์ออฟโรด โดยยางออฟโรดของ ‘บีเอฟ กู๊ดริช’ ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเทคโนโลยีเชิงโครงสร้างที่ล้ำหน้า ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพการใช้งานในประเทศไทย รวมทั้งมีสมรรถนะและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์
ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ (All Terrain T/A KO) เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพถนน ทั้งบนเส้นทางสมบุกสมบันแบบออฟโรดและบนถนนทั่วไป โดยมีจุดเด่นอยู่ที่
- โครงสร้างยางแบบ 3 ชั้น หรือ “ไทรการ์ด®” (TriGuard®) ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับแก้มยาง ทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับหน้ายางเพื่อการควบคุมรถที่แม่นยำทั้งทางตรงและทางโค้ง
- หน้าสัมผัสขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้สามารถกระจายแรงกดได้กว้างและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการสึกไม่สม่ำเสมอและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมตัวรถได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 12%
- เทคโนโลยี “โชลเดอร์ ล็อก™” (ShoulderLock™) ซึ่งเพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะทุกสภาพถนน โดยเฉพาะถนนเปียก ด้วยการออกแบบร่องบากแบบใหม่ให้ไหล่ยางและแก้มยางมีความกว้างของร่องดอกยางเพิ่มขึ้น 40% ทั้งยังใช้สูตรเนื้อยางแบบคู่ที่ไม่เพียงช่วยควบคุมอุณหภูมิบริเวณไหล่ยางให้คงที่จึงเพิ่มความทนทานให้กับยาง แต่ยังให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการยึดเกาะและควบคุมรถบนถนนที่มีความทุรกันดาร เช่น ดิน โคลน หรือบนพื้นทราย
มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู (Mud Terrain T/A KM2) เน้นการใช้งานหนักแบบขับตะลุยบุกป่าฝ่าดงบนเส้นทางหฤโหดและทุรกันดารโดยเฉพาะ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่
- เทคโนโลยี “ครอว์เลอร์-เทค” (Krawler-Tek) ผสานโครงสร้างยางแบบ TriGuard® ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก้มยางอีก 33% จากรุ่นเดิม โดยมีการเพิ่มขนาดของเส้นใยโครงสร้างแก้มยางและเพิ่มเนื้อยางที่บริเวณไหล่ยางส่วนเชื่อมต่อจากดอกยางเพื่อปกป้องและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งานออฟโรด นอกจากนี้ยังใช้สูตรเนื้อยางที่ทนต่อการหลุดร่อนและบาดตำเพื่อให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์
- เทคโนโลยี “ลิเนียร์ เฟล็กซ์ โซน” (Linear Flex Zone) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะทุกสภาพถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานด้วยลมอ่อนขณะขับขี่แบบออฟโรด ด้วยการออกแบบให้มีร่องแนวขวางขนาดใหญ่บนดอกยางช่วยเพิ่มความสามารถในการโอบรัดสิ่งกีดขวางและสลัดโคลนออกจากดอกยาง
- ลายดอกยางรูปลักษณ์ดุดันแบบ “ครอว์เลอร์” (Krawler) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักและสมบุกสมบันอย่างแท้จริง ผสานความสามารถในการสลัดโคลนออกจากดอกยางได้ง่าย
สำหรับยาง บีเอฟ กู๊ดริช 2 รุ่น จะวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินซึ่งกระจายครอบคลุมอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศ และให้การรับประกันคุณภาพจากบริษัทฯ ตามเกณฑ์มาตรฐานระดับโลก โดยยางรุ่น “ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ” มีให้เลือก 7 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 15-22 นิ้ว ราคา 7,500 - 21,800 บาทต่อเส้น และยางรุ่น “มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู” มีให้เลือก 11 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 15-17 นิ้ว ราคา 7,500 - 11,800 บาทต่อเส้น
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
อเล็กซองด์ อองนิยง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถปิคอัพ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทส่งยางออฟโรด 2 รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์จ้าวตำนานออฟโรดพันธุ์แท้ ‘บีเอฟ กู๊ดริช’ (BF Goodrich) รุ่น “ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ” (All Terrain T/A KO) และ “มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู” (Mud Terrain T/A KM2) ยางออฟโรด รุ่นปรับปรุงใหม่ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีเสริมสมรรถนะเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันท่ามกลางสภาพถนน อุณหภูมิ และความชื้นของประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เจาะกลุ่มลูกค้ายางออฟโรดที่มีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของตลาดยาง SUV และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วางตลาดครั้งนี้เป็นการสร้างทางเลือกใหม่สำหรับยางออฟโรดสมรรถนะสูงให้กับลูกค้า 3 กลุ่มหลัก คือ นักขับออฟโรดมืออาชีพ ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสมบุกสมบัน และผู้ที่ชอบการแต่งรถสไตล์ออฟโรด โดยยางออฟโรดของ ‘บีเอฟ กู๊ดริช’ ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเทคโนโลยีเชิงโครงสร้างที่ล้ำหน้า ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพการใช้งานในประเทศไทย รวมทั้งมีสมรรถนะและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์
ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ (All Terrain T/A KO) เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพถนน ทั้งบนเส้นทางสมบุกสมบันแบบออฟโรดและบนถนนทั่วไป โดยมีจุดเด่นอยู่ที่
- โครงสร้างยางแบบ 3 ชั้น หรือ “ไทรการ์ด®” (TriGuard®) ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับแก้มยาง ทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับหน้ายางเพื่อการควบคุมรถที่แม่นยำทั้งทางตรงและทางโค้ง
- หน้าสัมผัสขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้สามารถกระจายแรงกดได้กว้างและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการสึกไม่สม่ำเสมอและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมตัวรถได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 12%
- เทคโนโลยี “โชลเดอร์ ล็อก™” (ShoulderLock™) ซึ่งเพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะทุกสภาพถนน โดยเฉพาะถนนเปียก ด้วยการออกแบบร่องบากแบบใหม่ให้ไหล่ยางและแก้มยางมีความกว้างของร่องดอกยางเพิ่มขึ้น 40% ทั้งยังใช้สูตรเนื้อยางแบบคู่ที่ไม่เพียงช่วยควบคุมอุณหภูมิบริเวณไหล่ยางให้คงที่จึงเพิ่มความทนทานให้กับยาง แต่ยังให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการยึดเกาะและควบคุมรถบนถนนที่มีความทุรกันดาร เช่น ดิน โคลน หรือบนพื้นทราย
มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู (Mud Terrain T/A KM2) เน้นการใช้งานหนักแบบขับตะลุยบุกป่าฝ่าดงบนเส้นทางหฤโหดและทุรกันดารโดยเฉพาะ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่
- เทคโนโลยี “ครอว์เลอร์-เทค” (Krawler-Tek) ผสานโครงสร้างยางแบบ TriGuard® ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก้มยางอีก 33% จากรุ่นเดิม โดยมีการเพิ่มขนาดของเส้นใยโครงสร้างแก้มยางและเพิ่มเนื้อยางที่บริเวณไหล่ยางส่วนเชื่อมต่อจากดอกยางเพื่อปกป้องและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งานออฟโรด นอกจากนี้ยังใช้สูตรเนื้อยางที่ทนต่อการหลุดร่อนและบาดตำเพื่อให้พร้อมลุยทุกสถานการณ์
- เทคโนโลยี “ลิเนียร์ เฟล็กซ์ โซน” (Linear Flex Zone) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะทุกสภาพถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานด้วยลมอ่อนขณะขับขี่แบบออฟโรด ด้วยการออกแบบให้มีร่องแนวขวางขนาดใหญ่บนดอกยางช่วยเพิ่มความสามารถในการโอบรัดสิ่งกีดขวางและสลัดโคลนออกจากดอกยาง
- ลายดอกยางรูปลักษณ์ดุดันแบบ “ครอว์เลอร์” (Krawler) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักและสมบุกสมบันอย่างแท้จริง ผสานความสามารถในการสลัดโคลนออกจากดอกยางได้ง่าย
สำหรับยาง บีเอฟ กู๊ดริช 2 รุ่น จะวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินซึ่งกระจายครอบคลุมอยู่ในทุกภาคทั่วประเทศ และให้การรับประกันคุณภาพจากบริษัทฯ ตามเกณฑ์มาตรฐานระดับโลก โดยยางรุ่น “ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ” มีให้เลือก 7 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 15-22 นิ้ว ราคา 7,500 - 21,800 บาทต่อเส้น และยางรุ่น “มัด เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็มทู” มีให้เลือก 11 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 15-17 นิ้ว ราคา 7,500 - 11,800 บาทต่อเส้น
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring