ข่าวในประเทศ - เอเอเอสฯ ทุ่มเงินลงทุน 350 ล้านบาท ปรับโชว์รูมและศูนย์บริการใหญ่สุดในอาเซียน รวมถึงเดินหน้าเปิดอีก 1 แห่งใหม่ หวังดันยอดขายพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไทย พร้อมเปิดบริการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแผนกรถใช้แล้ว และบริการดูแลปรับปรุงรถปอร์เช่คลาสสิคแห่งแรกของโลกนอกประเทศเยอรมนี
นายวินธร บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสจำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ "ปอร์เช่" ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยจะชะลอตัวในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แต่ความต้องการรถปอร์เช่ในตลาดยังคงมีอยู่มาก ดังจะเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ปอร์เช่ของเอเอเอสฯ ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังจากได้แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด
“ปีนี้เอเอเอสฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 160 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดขายทั้งหมด 130 คัน โดยปัจจุบันมีการส่งมอบรถไปแล้ว 60 คัน และมียอดค้างส่งมอบอีก 40 คัน ระยะเวลาที่เหลือเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้ตามเป้าแน่นอน ซึ่งจะเป็นสถิติยอดขายรถปอร์เช่ของเอเอเอสฯ ในไทย จากที่เคยทำได้สูงสุดเพียง 150 คัน”
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนยอดขายเพิ่มขึ้น มาจากการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพานาเมรา ไฮบริด หรือล่าสุดปอร์เช่ มาคันน์ ที่ลูกค้าชาวไทยให้การตอบรับดีมาก มียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 40 คัน ขณะที่รถไฮบริดก็เป็นกระแสที่กำลังมาแรง ทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อมและราคาที่ไม่สูงมาก จากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของรถไฮบริด
นายวินธรเปิดเผยว่า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการปรับปรุงโชว์รูม Porsche Centre Bangkok บนถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและภาพลักษณ์ ด้วยการปรับขยายพื้นที่โชว์รูมจากเดิมขนาด 500 ตารางเมตร เพิ่มเป็น 1,200 ตารางเมตร ทำให้ปัจจุบันถือเป็นโชว์รูมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการพัฒนาในทุกบริเวณภายในโชว์รูม รวมถึงศูนย์บริการที่มีการปรับขยายพื้นที่และเพิ่มช่องให้บริการจากเดิม 11 ช่องบริการ เพิ่มเป็น 15 ช่อง โดยมีขนาดพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 630 ตารางเมตร จากเดิม 1,340 ตารางเมตร
“การปรับโชว์รูมและศูนย์บริการที่วิภาวดีรังสิต ใช้เงินลงทุนมากถึง 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์ปอร์เช่ได้มากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับการขยายลูกค้าจึงได้ลงทุนเปิดโชว์รูมใหม่บนถนนพัฒนาการ มูลค่าการลงทุนกว่า 250 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปีหน้า ซึ่งจากการมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น รวมถึงการปรับเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ จึงมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายรถยนต์ปอร์เช่ของเอเอสฯ เป็นกว่า 200 คันในปีหน้า” นายวินธรกล่าวและว่า
นอกจากนี้เอเอเอสฯ ยังมีการออกแบบให้มีระบบการให้บริการแบบ One Stop Service ที่ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่การดูแลรักษา การซ่อมบำรุง การดูแลสีและตัวถัง ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยตามมาตรฐานของปอร์เช่ ซึ่งสามารถให้บริการรถยนต์ปอร์เช่ได้ทุกรุ่น พร้อมเปิดตัว AAS Mobile Application แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการสำหรับลูกค้าคนสำคัญ ตามนโยบายของบริษัทฯ “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and you CAR”
ในส่วนของลูกค้าที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ เอเอเอสฯ ได้เปิดให้บริการอีกช่องทางหนึ่ง ด้วยการเปิดแผนก Porsche Approved Pre-Owned Car ซึ่งเป็นการนำรถปอร์เช่ใช้แล้วคุณภาพมาตรฐานมาให้เลือกซื้อ พร้อมกับเปิด Porsche Classic Partner ที่ได้รับสิทธิ์จากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นรถยนต์ปอร์เช่ คลาสสิค (Porsche Classic) แห่งแรกของโลก เพื่อรองรับการบริการและปรับปรุงรถยนต์ปอร์เช่คลาสสิคในไทย
