ตลาดรถยนต์ไทยมีรายใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์จากจีน ซึ่งล่าสุดเป็นการเปิดตัวรถแบรนด์ “แม็คซัส” (MAXUS) หวังเจาะตลาดรถตู้อเนกประสงค์ ส่วนจะมีจุดเด่นหรือแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร? มาทำความรู้จักกับรถยนต์แม็คซัส และแผนการรุกตลาดไทย ผ่าน “อภิเชต สีตกะลิน” ประธานบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
- ที่มาของรถยนต์“แม็คซัส”
แม็คซัสเดิมเป็นรถยนต์ของบริติช เลย์แลนด์ ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังของอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 100 ปี โดยทางเซียงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอรชั่น หรือ SAIC ผู้ผลิตรถรายใหญ่ของจีนได้ไปซื้อเทคโนโลยีมา เมื่อ SAIC ได้เข้ามาในตลาดไทย ผลิตและทำตลาดเก๋ง “เอ็มจี” (MG) ด้วยการจับมือกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ทั้งสองฝ่ายจึงได้นำแบรนด์แม็คซัส ที่เป็นรถยนต์ตู้อเนกประสงค์ขนาดใหญ่เข้ามาทำตลาดด้วย เพียงแต่แม็คซัสฝ่ายซีพีจะเป็นแกนหลักในการบริหาร ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายใต้ชื่อบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
- แม็คซัสรุ่นที่ขาย-จุดเด่น
เบื้องต้นเปิดตัวทำตลาดในไทยรุ่นแรก ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซลส์ 2014 เป็นต้นไป กับ “แม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร” เครื่องยนต์คอมมอนเรล 2.5 ลิตร 136 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีความทนทาน แรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้ประหยัดน้ำมัน พร้อมโครงสร้างตัวรถแบบแอร์โรไดนามิกที่แข็งแรง ส่วนหน้าลู่ลมแนวฝากระโปรงลาดต่ำ พร้อมชุดโคมไฟหน้าแบบ Crystal - Diamond และชุดไฟ Day Light แบบ LED เพิ่มความส่องสว่างขับขี่ปลอดภัย ขับสบายเหมือนรถเก๋ง และติดตั้งระบบวัดความดันลมยางและอุณหภูมิทั้ง 4 ล้อ (TPMS : Tire Pressure Monitoring System) ที่สำคัญตัวถังมีขนาดใหญ่กว่ารถตู้ในไทยทั่วไป กับขนาดความยาว 5,700 มม. กว้าง 1,998 มม. สูง 2,345 มม. และระยะฐานล้อ 3,850 มม. จึงสามารถรองรับการขนส่งที่คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า และในปีหน้าจะมีการนำรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 2 รุ่น
- ราคาและกลุ่มเป้าหมาย
แม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร มีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน 16 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท และรุ่นวีไอพี 12 ที่นั่ง ราคา 1.59 ล้านบาท และลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มด้วย ซึ่งราคาปรับตามอุปกรณ์นั้นๆ นับเป็นรถตู้ที่จะเปิดตลาดใหม่ GPV (Grand Passenger Van) ด้วยขนาดใหญ่ที่คุ้มค่าคุ้มราคา แต่แพงกว่ารถตู้ญี่ปุ่นทั่วไปไม่มาก โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มรถเช่า บริษัททัวร์ กลุ่มโรงพยาบาล รถโรงเรียน ใช้ในกองทัพ รัฐวิสาหกิจ และรถตู้ที่วิ่งขนส่งพนักงานตามนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มใช้งานส่วนตัวรถครอบครัว เป็นต้น เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับดี เพราะเป็นรถตู้สไตล์ยุโรป ที่เน้นความปลอดภัย ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายกว่ารถตู้ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป เป้าหมายการขายถึงสิ้นปีนี้จึงตั้งไว้ 500-600 คัน หรือปีแรกคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาด 3% จากตลาดรถตู้ทั้งหมดเฉลี่ย 2.5 หมื่นคันต่อปี ซึ่งกลยุทธ์จะเน้นเจาะเข้ากลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมถึงการจัดทำกิจกรรม และสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์
- เครือข่ายขายและบริการ
ปัจจุบันแม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร ได้มีการเปิดจำหน่ายอย่างไม่เป็นทางการ ตามโชว์รูมและศูนย์บริการ 16 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ หัวเมืองใหญ่ๆ และเมืองท่องเที่ยว อย่างปทุมธานี, ขอนแก่น เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้งานรถตู้-ค่อนข้างสูง คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีทั้งหมด 65 แห่งทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการบุกตลาดรถตู้ คือการเน้นหนักในเรื่องของการบริการหลังการจำหน่าย โดยเฉพาะการจัดเตรียมสต็อคอะไหล่ การอบรมช่างอย่างเข้มงวด ด้วยการส่งไปอบรมด้านเทคนิคที่บริษัทแม่ และมีการอบรมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
- ที่มาของรถยนต์“แม็คซัส”
แม็คซัสเดิมเป็นรถยนต์ของบริติช เลย์แลนด์ ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังของอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 100 ปี โดยทางเซียงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอรชั่น หรือ SAIC ผู้ผลิตรถรายใหญ่ของจีนได้ไปซื้อเทคโนโลยีมา เมื่อ SAIC ได้เข้ามาในตลาดไทย ผลิตและทำตลาดเก๋ง “เอ็มจี” (MG) ด้วยการจับมือกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ทั้งสองฝ่ายจึงได้นำแบรนด์แม็คซัส ที่เป็นรถยนต์ตู้อเนกประสงค์ขนาดใหญ่เข้ามาทำตลาดด้วย เพียงแต่แม็คซัสฝ่ายซีพีจะเป็นแกนหลักในการบริหาร ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายใต้ชื่อบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
- แม็คซัสรุ่นที่ขาย-จุดเด่น
เบื้องต้นเปิดตัวทำตลาดในไทยรุ่นแรก ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซลส์ 2014 เป็นต้นไป กับ “แม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร” เครื่องยนต์คอมมอนเรล 2.5 ลิตร 136 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีความทนทาน แรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้ประหยัดน้ำมัน พร้อมโครงสร้างตัวรถแบบแอร์โรไดนามิกที่แข็งแรง ส่วนหน้าลู่ลมแนวฝากระโปรงลาดต่ำ พร้อมชุดโคมไฟหน้าแบบ Crystal - Diamond และชุดไฟ Day Light แบบ LED เพิ่มความส่องสว่างขับขี่ปลอดภัย ขับสบายเหมือนรถเก๋ง และติดตั้งระบบวัดความดันลมยางและอุณหภูมิทั้ง 4 ล้อ (TPMS : Tire Pressure Monitoring System) ที่สำคัญตัวถังมีขนาดใหญ่กว่ารถตู้ในไทยทั่วไป กับขนาดความยาว 5,700 มม. กว้าง 1,998 มม. สูง 2,345 มม. และระยะฐานล้อ 3,850 มม. จึงสามารถรองรับการขนส่งที่คุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า และในปีหน้าจะมีการนำรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 2 รุ่น
- ราคาและกลุ่มเป้าหมาย
แม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร มีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน 16 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท และรุ่นวีไอพี 12 ที่นั่ง ราคา 1.59 ล้านบาท และลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มด้วย ซึ่งราคาปรับตามอุปกรณ์นั้นๆ นับเป็นรถตู้ที่จะเปิดตลาดใหม่ GPV (Grand Passenger Van) ด้วยขนาดใหญ่ที่คุ้มค่าคุ้มราคา แต่แพงกว่ารถตู้ญี่ปุ่นทั่วไปไม่มาก โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มรถเช่า บริษัททัวร์ กลุ่มโรงพยาบาล รถโรงเรียน ใช้ในกองทัพ รัฐวิสาหกิจ และรถตู้ที่วิ่งขนส่งพนักงานตามนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มใช้งานส่วนตัวรถครอบครัว เป็นต้น เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับดี เพราะเป็นรถตู้สไตล์ยุโรป ที่เน้นความปลอดภัย ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายกว่ารถตู้ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป เป้าหมายการขายถึงสิ้นปีนี้จึงตั้งไว้ 500-600 คัน หรือปีแรกคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาด 3% จากตลาดรถตู้ทั้งหมดเฉลี่ย 2.5 หมื่นคันต่อปี ซึ่งกลยุทธ์จะเน้นเจาะเข้ากลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมถึงการจัดทำกิจกรรม และสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์
- เครือข่ายขายและบริการ
ปัจจุบันแม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร ได้มีการเปิดจำหน่ายอย่างไม่เป็นทางการ ตามโชว์รูมและศูนย์บริการ 16 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ หัวเมืองใหญ่ๆ และเมืองท่องเที่ยว อย่างปทุมธานี, ขอนแก่น เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้งานรถตู้-ค่อนข้างสูง คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีทั้งหมด 65 แห่งทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการบุกตลาดรถตู้ คือการเน้นหนักในเรื่องของการบริการหลังการจำหน่าย โดยเฉพาะการจัดเตรียมสต็อคอะไหล่ การอบรมช่างอย่างเข้มงวด ด้วยการส่งไปอบรมด้านเทคนิคที่บริษัทแม่ และมีการอบรมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย