xs
xsm
sm
md
lg

Jaguar Lightweight E-Type ต้นแบบรถผลิตจริง 6 คันทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในวาระของการฉลองครบ 53ปีของการก่อกำเนิกรถสปอร์ตที่ถือว่า Sexy ที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกจากัวร์ก็เลยทำอะไรที่มันมีความพิเศษให้กับ E-Type ด้วยการเผยโปรเจ็กต์ต้นแบบที่เรียกว่า Lightweight ขึ้นมาโดยจะมีการเปิดตัวให้่คนทั่วไปได้สัมผัสก่อนที่จะผลิตออกมาขายแค่ 6 คันเท่านั้นในโลก

งานนี้เป็นการสร้างขึ้นจากรุ่นดั้งเดิมโดยหน่วยงานที่เรียกว่า Jaguar Heritage ซึ่งถือว่า้เป็นหน่วยงานพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษ และเป็นการบ่งบอกนัยๆว่าต่อไปนี้จากัวร์อาจจะเริ่มหากินกับความสำเร็จในอดีตและ Lightweight ก็น่าจะเป็นโปรเจ็กต์นำร่องของเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามโปรเจ็กต์นี้ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆก็เกิดแต่มีที่มาที่ไปของมันโดยรถยนต์ใหม่ทั้ง 6 คันคือ Missing Car ของรุ่นพิเศษ Special GT E-Type ที่มีจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1963 โดยมีเป้าหมายในการผลิตขึ้นมาทั้งสิ้น 18 คันแต่ก็มีแค่ 12 คันเท่านั้นที่ผลิตออกมาโดยใช้ตัวถังอะลูมิเนียมทั้งคันส่วนอีก 6 คันที่เหลือมีการตีหมายเลขแชสซีส์ออกมาแล้วแต่ยังไม่มีการผลิตโครงการก็ถูกพับไปเสียก่อนซึ่งรถใหม่ทั้งหมดจะสวมเลขแชสซีส์ดั้งเดิมเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว

Lightweight จะได้รับการพัฒนาตามสเป็กดั้งเดิมของโครงการนี้และมีการผลิตแบบแฮนด์เมดออกมาขายให้กับลูกค้าคนพิเศษซึ่งผลผลิตจากโรงงาน Brown Lane แห่งเมืองโคเวนตรี้ได้ถูกวางขายเพื่อสอดครองกับกฎ Homologation ของ FIA ในแง่ของการผลิตรถสปอร์ตรุ่นคลาสสิคเพื่อการใช้งานด้านมอเตอร์สปอร์ต

แน่นอนว่าไฮไลต์เด่นของรถรุ่นนี้คือความเบาตามชื่อโดยโครงสร้างตัวถังหลักผลิตจากอะลูมิเนียมแทนที่เหล็กแบบปกติที่ใช้ในการผลิต E-Type รุ่นปกติและนั่นทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาขึ้นราวๆ 114 กิโลกรัม

หลายคนอาจจะตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะรถยนต์ในยุคปัจจุบันการนำอะลูมิเนียมมาใช้ถือเป็นเรื่องปกติเพราะแม้แต่รถสปอร์ตของจากัวร์เองอย่างรุ่น F-Type และ XJ ก็มีการใช้อยู่แต่ถ้ามองในแง่ของการเป็นรถยนต์เมื่อ50 ปีที่แล้วตรงนี้น่าจะช่วยอธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดได้แบบไม่ต้องพูดมากเพราะในยุคนั้นอะลูมิเนียมถือเป็นวัสดุระดับไฮเอนด์ที่มีใช้เฉพาะรถแข่งหรือรถสปอร์ตรุ่นพิเศษเท่านั้นไม่ได้แพร่หลายเหมือนอย่างปัจจุบัน

จากัวร์เผยว่า 75% ของชิ้นส่วนที่ผลิตจากอะลูมิเนียมจะได้รับการผลิตที่โรงงานของจากัวร์เองใน Whitley ประเทศอังกฤษส่วนที่เหลือจะส่งให้กับซัพพลายเออร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดของวิศวกรจากจากัวร์

สำหรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเป็นการนำขุมพลังแบบ 6 สูบเรียง XK Engine กลับมาพัฒนาและปรับปรุงใหม่ ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกนี้โด่งดังมากในสนามแข่งและเปิดตัวครั้งแรกกับรุ่น XK120 ในปี 1948 และเป็นขุมพลังที่ติดตั้งอยู่ในรุ่น C และ D-Type ที่นำจากัวร์คว้าแชมป์เลอมังส์ในช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยบล็อกที่วางใน Lightweight มีความจุ 3,868 ซีซีซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับที่วางในรุ่น D-Type ตัวแข่งที่คว้าชัยเลอมังส์ในปี 1957

เครื่องยนต์บล็อกนี้มาพร้อมกับระบบ Dry Sump ปรับอัตราส่วนกำลังอัดเอาไว้ที่ 10:1 พร้อมกับคาบูเรเตอร์ 45DCO3 ของเว็บเบอร์อีก 3 ตัวเรียกกำลังออกมาใช้งานได้ 300 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 38.6 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาทีส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะแบบอัตราทดชิด Close Ratio ระบบกันสะเทือนยังยึดรูปแบบเดิมคือปีกนก2 ชั้นสำหรับด้านหน้าและอิสระปีกนกสำหรับด้านหลังรวมถึงการใช้ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียนและตัววงพวงมาลัยผลิตจากไม้พร้อมดิสก์เบรกด้านหน้าและหลังขนาด 12.2 นิ้ว

ไลน์การผลิตของ Lightweight จะกระจายอยู่ตามฐานการผลิตของจากัวร์โดยจะเริ่มผลิตโครงสร้างตัวถังที่ Whitley จากนั้นจะส่งมาที่โรงงานในเมืองGaydonเพื่อทำสีและประกอบชิ้นส่วนอื่นๆในขั้นสุดท้่ายรวมถึงตกแต่งที่โรงงานในเมืองโคเวนตรี้6 คันเท่านั้นที่จะมีการผลิตแต่จากัวร์ไม่ได้บอกว่าราคาอยู่ที่เท่าไรและสถานะในการจองเป็นอย่างไรบ้างแล้วในตอนนี้

หมายเหตุ...ผู้อ่านท่านใดสนใจเที่ยวชม ซื้อรถในงาน "Big Motor Sale " สามารถรับบัตรฟรีท่านละ 4 ใบได้ที บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ 8.00น.-18.00น. งานจะเริ่มในวันที่ 16-24 สิงหาคม 2557 ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา เบอร์โทร 02-6294488



กำลังโหลดความคิดเห็น