รุ่นที่แล้วก็ทำเวอร์ชันลักษณะนี้ พอมาเป็นรุ่นใหม่ โฟล์คสวาเกนก็ยังไม่พลาดที่จะเดินตามรอย แต่คำถามคือ จะเป็นแค่ต้นแบบ หรือจะมีการผลิตขายจริงในอนาคตหรือไม่...
เวอร์ชันที่ว่าคือ Dune Concept ซึ่งเป็นการนำบีเทิลรุ่นธรรมดามายกสูงสักนิด และเติมโป่งซุ้มล้อให้ดูดุกันขึ้น เช่นเดียวกับการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูสวยและสปอร์ตมากขึ้น เรียกว่าทั้งซิ่งบนถนน หรือบนทางขรุขระก็ได้ โดยไอเดียดั้งเดิมถูกใช้ไปเมื่อปี 2000 ในฐานะต้นแบบที่โชว์ตัวในงานที่แอลเอ
สำหรับในรุ่นใหม่ใช้พื้นฐานของบีเทิลรุ่นธรรมดาเป็นแม่แบบ และยกสูงขึ้นจากเดิมอีก 50 มิลลิเมตร ก่อนสวมด้วยล้อแม็กขนาด 19 นิ้วพร้อมยางไซส์ 255/45 เติมสปอยเลอร์หลังแบบแบนเรียบ และยึดติดตายตัว สำหรับมิติตัวถังมีความยาว 4,290 มิลลิเมตร กว้าง 1,856 มิลลิเมตร และสูง 1,536 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถ เป็นบล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี พร้อมเทอร์โบ และระบบ Di หรือ Direct Injection ทำให้รีดกำลังออกมาได้ในระดับ 210 แรงม้า และความประหยัด 9.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับวิ่งในเมือง และ 11.75 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับนอกเมือง พร้อมการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ DSG แบบ 6 จังหวะ
ในแง่ของกำลังขับเคลื่อนตอบสนองได้อย่างทันใจระดับหนึ่ง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 227 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แม้ในเอกสารข่าวที่แจกออกมาจะมีการระบุว่า ตัวรถยังเป็นแค่ต้นแบบ แต่จากการที่นำมาเปิดตัวทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2014 ทำให้มีการพูดถึงแนวโน้มของการขึ้นไลน์ผลิตจริง และดูเหมือนว่าจะมีโอกาสสูงถึง 90% เลยทีเดียว เพราะในอดีตชื่อ Dune เคยถูกใช้กับรถยนต์ของโฟล์คสวาเกน และปอร์เช่แบบยกสูงพร้อมลุยทางวิบาก ในสไตล์รถ Buggie มาแล้ว ก็เลยทำให้เชื่อว่า น่าจะมีการปัดฝุ่นนำกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง
ตามข่าวในโลกออนไลน์ ระบุว่าไม่น่าเกินปี 2015 คงจะได้สัมผัสกัน ส่วนเหตุผลหลักที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าฝันจะเป็นจริง เพราะปัจจุบันทางเลือกของบีเทิลที่มีอยู่ในตลาด มีแค่ 2 ตัวถังเท่านั้นเอง
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
เวอร์ชันที่ว่าคือ Dune Concept ซึ่งเป็นการนำบีเทิลรุ่นธรรมดามายกสูงสักนิด และเติมโป่งซุ้มล้อให้ดูดุกันขึ้น เช่นเดียวกับการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูสวยและสปอร์ตมากขึ้น เรียกว่าทั้งซิ่งบนถนน หรือบนทางขรุขระก็ได้ โดยไอเดียดั้งเดิมถูกใช้ไปเมื่อปี 2000 ในฐานะต้นแบบที่โชว์ตัวในงานที่แอลเอ
สำหรับในรุ่นใหม่ใช้พื้นฐานของบีเทิลรุ่นธรรมดาเป็นแม่แบบ และยกสูงขึ้นจากเดิมอีก 50 มิลลิเมตร ก่อนสวมด้วยล้อแม็กขนาด 19 นิ้วพร้อมยางไซส์ 255/45 เติมสปอยเลอร์หลังแบบแบนเรียบ และยึดติดตายตัว สำหรับมิติตัวถังมีความยาว 4,290 มิลลิเมตร กว้าง 1,856 มิลลิเมตร และสูง 1,536 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถ เป็นบล็อก 4 สูบ 2,000 ซีซี พร้อมเทอร์โบ และระบบ Di หรือ Direct Injection ทำให้รีดกำลังออกมาได้ในระดับ 210 แรงม้า และความประหยัด 9.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับวิ่งในเมือง และ 11.75 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับนอกเมือง พร้อมการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ DSG แบบ 6 จังหวะ
ในแง่ของกำลังขับเคลื่อนตอบสนองได้อย่างทันใจระดับหนึ่ง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 227 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แม้ในเอกสารข่าวที่แจกออกมาจะมีการระบุว่า ตัวรถยังเป็นแค่ต้นแบบ แต่จากการที่นำมาเปิดตัวทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2014 ทำให้มีการพูดถึงแนวโน้มของการขึ้นไลน์ผลิตจริง และดูเหมือนว่าจะมีโอกาสสูงถึง 90% เลยทีเดียว เพราะในอดีตชื่อ Dune เคยถูกใช้กับรถยนต์ของโฟล์คสวาเกน และปอร์เช่แบบยกสูงพร้อมลุยทางวิบาก ในสไตล์รถ Buggie มาแล้ว ก็เลยทำให้เชื่อว่า น่าจะมีการปัดฝุ่นนำกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง
ตามข่าวในโลกออนไลน์ ระบุว่าไม่น่าเกินปี 2015 คงจะได้สัมผัสกัน ส่วนเหตุผลหลักที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าฝันจะเป็นจริง เพราะปัจจุบันทางเลือกของบีเทิลที่มีอยู่ในตลาด มีแค่ 2 ตัวถังเท่านั้นเอง
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
