เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทยเชิญสื่อมวลชนไทยเยี่ยมชมศูนย์การผลิตฯ ในจังหวัดระยอง เพื่อรับชม ‘หลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต’ (Built-In Quality - BIQ) ของจีเอ็ม โดยหวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มีต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์
“คุณภาพและกระบวนการผลิตของเจนเนอรัล มอเตอร์ส มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 100 ปีของการผลิตยานยนต์ เมื่อหลายปีก่อนเราเลือกวิธีการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดของเราจากแต่ละภูมิภาค และผนวกรวมให้เป็นกลยุทธ์การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน” ไมเคิล เปเรซ รองประธานฝ่ายการผลิต จีเอ็ม ประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวทักทายและว่า
“กลยุทธ์นี้ใช้วิธีการสร้างคุณภาพไว้ในกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อบกพร่องในแต่ละขั้นตอนและทุกกระบวนการผลิต แทนที่จะพยายามตรวจหาข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว”
สำหรับกระบวนการผลิตดั้งเดิมของอุตสาหกรรมยานยนต์ คือ การตรวจสอบคุณภาพก่อนที่รถจะออกจากสายการผลิต หรือออกจากโรงงาน วิธีการควบคุมเช่นนี้มีข้อด้อยมากมาย เนื่องจากต้องอาศัยความสามารถของผู้ตรวจสอบคุณภาพในการตรวจพบปัญหาและแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยการถอดชิ้นส่วนและประกอบใหม่ แต่ด้วยกลยุทธ์การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต ลูกค้าของเราได้รับรถที่มีคุณภาพสูงสุดเนื่องจากทุกกระบวนการผลิตของเรานั้นถูกต้องแม่นยำตั้งแต่เริ่มต้น
“เสาหลักด้านคุณภาพทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้อง และแน่นอนว่าการมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มในทุกขั้นตอนของทุกครั้งที่ผลิตถือว่ามีความสำคัญมาก” รองประธานฝ่ายการผลิต จีเอ็มฯ กล่าว
สำหรับเสาหลักด้านคุณภาพ แบ่งขอบเขตการควบคุมออกเป็นหมวดหมู่บนพื้นฐานของเสียงตอบรับจากลูกค้าภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งจีเอ็มเรียกว่า ‘เสียงของลูกค้า’ หรือ Voice of Customers (VOC) ซึ่งหลักการนี้สามารถสรุปเป็นพันธะสัญญาของพนักงานทุกคนได้ว่า ‘เราจะไม่รับ ไม่ผลิตหรือไม่ส่งต่อข้อบกพร่อง’ ขณะเดียวกันโรงผลิตทั้งสี่โรงภายในศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ต่างมีเสาหลักด้านคุณภาพอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันทุกความบกพร่อง
ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้เยี่ยมชมทุกโรงการผลิต เริ่มจากโรงปั๊มขึ้นรูปตัวถัง (Press Shop) และโรงประกอบตัวถัง (Body Shop) ที่ซึ่งแผ่นโลหะถูกปั๊มขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนตัวถังของแคปติวาและถูกเชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนที่ตัวถังภายนอกจะถูกส่งเข้าไปพ่นสีและเคลือบเงาที่โรงพ่นสี (Paint Shop) ขณะที่การตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารจะเกิดขึ้นที่โรงประกอบทั่วไป (General Assembly Shop) รวมถึงสื่อมวลชนยังได้รับชมกระบวนการรับฟังเสียงของลูกค้า หรือ Voice of Customers ซึ่งเป็นหัวใจของเสาหลักด้านคุณภาพด้วย
อัญชนา ศุรติขจร ผู้อำนวยฝ่ายการรับประกัน ความพึงพอใจลูกค้าและคุณภาพระดับภูมิภาค จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “มีการประชุมร่วมกันหลายๆ แผนกภายในศูนย์การผลิตอยู่เป็นประจำเพื่อค้นหาว่าเราจะสามารถส่งต่อเสียงตอบรับไปถึงฝ่ายผลิตและทำให้เกิดเป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพได้อย่างไร”
การที่เสาหลักด้านคุณภาพมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยังหมายความว่ากระบวนการผลิตจะมีพัฒนาการและการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยยกระดับคุณภาพที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ
นอกจากลูกค้าและผู้จัดจำหน่ายแล้ว เสียงตอบรับยังได้จากการสำรวจของหน่วยงานภายนอก เสียงตอบรับไม่เพียงเน้นย้ำถึงโอกาสในการพัฒนาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนและรับรองจากลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพการผลิตที่ถูกต้อง ด้วยความมุ่งมั่นด้านคุณภาพของเชฟโรเลต ทำให้แคปติวาได้รับรางวัลรถเอสยูวียอดเยี่ยม จากการสำรวจความเห็นของลูกค้า
“เราไม่เพียงต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากข้อบกพร่องโดยทีมพนักงานและสถานีในศูนย์การผลิตของเราเท่านั้น แต่เป้าหมายของเราคือการป้องกันข้อบกพร่องตั้งแต่แรกด้วยกระบวนการผลิตที่ดีเยี่ยม” เปเรซ กล่าวสรุป
สำหรับศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ในจังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์และรถกระบะมาแล้วมากกว่า 1 ล้านคัน เริ่มตั้งแต่รถเอ็มพีวีอย่างเชฟโรเลต ซาฟิร่า ในปี 2543 ซึ่งยังโลดแล่นอยู่บนท้องถนนประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ สะท้อนได้ถึงคุณภาพเป็นหัวใจหลักและองค์ประกอบสำคัญของรถทุกรุ่นที่ออกจากสายการผลิต ตั้งแต่ซาฟิร่าจนถึงแคปติวา 2014 ใหม่ล่าสุด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
“คุณภาพและกระบวนการผลิตของเจนเนอรัล มอเตอร์ส มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 100 ปีของการผลิตยานยนต์ เมื่อหลายปีก่อนเราเลือกวิธีการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดของเราจากแต่ละภูมิภาค และผนวกรวมให้เป็นกลยุทธ์การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน” ไมเคิล เปเรซ รองประธานฝ่ายการผลิต จีเอ็ม ประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวทักทายและว่า
“กลยุทธ์นี้ใช้วิธีการสร้างคุณภาพไว้ในกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อบกพร่องในแต่ละขั้นตอนและทุกกระบวนการผลิต แทนที่จะพยายามตรวจหาข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว”
สำหรับกระบวนการผลิตดั้งเดิมของอุตสาหกรรมยานยนต์ คือ การตรวจสอบคุณภาพก่อนที่รถจะออกจากสายการผลิต หรือออกจากโรงงาน วิธีการควบคุมเช่นนี้มีข้อด้อยมากมาย เนื่องจากต้องอาศัยความสามารถของผู้ตรวจสอบคุณภาพในการตรวจพบปัญหาและแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยการถอดชิ้นส่วนและประกอบใหม่ แต่ด้วยกลยุทธ์การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต ลูกค้าของเราได้รับรถที่มีคุณภาพสูงสุดเนื่องจากทุกกระบวนการผลิตของเรานั้นถูกต้องแม่นยำตั้งแต่เริ่มต้น
“เสาหลักด้านคุณภาพทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้อง และแน่นอนว่าการมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมตั้งแต่เริ่มในทุกขั้นตอนของทุกครั้งที่ผลิตถือว่ามีความสำคัญมาก” รองประธานฝ่ายการผลิต จีเอ็มฯ กล่าว
สำหรับเสาหลักด้านคุณภาพ แบ่งขอบเขตการควบคุมออกเป็นหมวดหมู่บนพื้นฐานของเสียงตอบรับจากลูกค้าภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งจีเอ็มเรียกว่า ‘เสียงของลูกค้า’ หรือ Voice of Customers (VOC) ซึ่งหลักการนี้สามารถสรุปเป็นพันธะสัญญาของพนักงานทุกคนได้ว่า ‘เราจะไม่รับ ไม่ผลิตหรือไม่ส่งต่อข้อบกพร่อง’ ขณะเดียวกันโรงผลิตทั้งสี่โรงภายในศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ต่างมีเสาหลักด้านคุณภาพอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันทุกความบกพร่อง
ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้เยี่ยมชมทุกโรงการผลิต เริ่มจากโรงปั๊มขึ้นรูปตัวถัง (Press Shop) และโรงประกอบตัวถัง (Body Shop) ที่ซึ่งแผ่นโลหะถูกปั๊มขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนตัวถังของแคปติวาและถูกเชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนที่ตัวถังภายนอกจะถูกส่งเข้าไปพ่นสีและเคลือบเงาที่โรงพ่นสี (Paint Shop) ขณะที่การตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารจะเกิดขึ้นที่โรงประกอบทั่วไป (General Assembly Shop) รวมถึงสื่อมวลชนยังได้รับชมกระบวนการรับฟังเสียงของลูกค้า หรือ Voice of Customers ซึ่งเป็นหัวใจของเสาหลักด้านคุณภาพด้วย
อัญชนา ศุรติขจร ผู้อำนวยฝ่ายการรับประกัน ความพึงพอใจลูกค้าและคุณภาพระดับภูมิภาค จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “มีการประชุมร่วมกันหลายๆ แผนกภายในศูนย์การผลิตอยู่เป็นประจำเพื่อค้นหาว่าเราจะสามารถส่งต่อเสียงตอบรับไปถึงฝ่ายผลิตและทำให้เกิดเป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพได้อย่างไร”
การที่เสาหลักด้านคุณภาพมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยังหมายความว่ากระบวนการผลิตจะมีพัฒนาการและการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยยกระดับคุณภาพที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ
นอกจากลูกค้าและผู้จัดจำหน่ายแล้ว เสียงตอบรับยังได้จากการสำรวจของหน่วยงานภายนอก เสียงตอบรับไม่เพียงเน้นย้ำถึงโอกาสในการพัฒนาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนและรับรองจากลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพการผลิตที่ถูกต้อง ด้วยความมุ่งมั่นด้านคุณภาพของเชฟโรเลต ทำให้แคปติวาได้รับรางวัลรถเอสยูวียอดเยี่ยม จากการสำรวจความเห็นของลูกค้า
“เราไม่เพียงต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากข้อบกพร่องโดยทีมพนักงานและสถานีในศูนย์การผลิตของเราเท่านั้น แต่เป้าหมายของเราคือการป้องกันข้อบกพร่องตั้งแต่แรกด้วยกระบวนการผลิตที่ดีเยี่ยม” เปเรซ กล่าวสรุป
สำหรับศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ในจังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์และรถกระบะมาแล้วมากกว่า 1 ล้านคัน เริ่มตั้งแต่รถเอ็มพีวีอย่างเชฟโรเลต ซาฟิร่า ในปี 2543 ซึ่งยังโลดแล่นอยู่บนท้องถนนประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ สะท้อนได้ถึงคุณภาพเป็นหัวใจหลักและองค์ประกอบสำคัญของรถทุกรุ่นที่ออกจากสายการผลิต ตั้งแต่ซาฟิร่าจนถึงแคปติวา 2014 ใหม่ล่าสุด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring