ดูชื่อรุ่นย่อยต่อท้ายบวกกับภาพของคันจริงแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือ การเปิดทางเลือกใหม่ของ โฟล์คสวาเกนที่ทำกับกอล์ฟ แต่ถ้าอ่านเนื้อหาให้ดีๆ แล้วจะพบว่า มันก็คือเหล้าเก่าในขวดใหม่นั่นเอง
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า กอล์ฟ พลัส (ถ้ายังจำกันได้อยู่) ที่ถูกพัฒนาเพื่อเจาะตลาดที่อเนกประสงค์ (ขึ้นจากแฮทช์แบ็ก)กลายเป็นอดีตไปแล้วในตอนนี้ โดยหลังจากถูกเปิดตัวออกมาทำตลาดอยู่เจนเนอเรชั่นหนึ่ง แต่ด้วยเหตุที่หาตลาดลงไม่ชัดเจน บวกกับตัวถังที่ไม่ได้ต่างอะไรกับแฮทช์แบ็ก ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ตอบโจทย์ลูกค้า และทำให้ทีมงานของโฟล์คสวาเกนจำต้องส่งอะไรใหม่ๆ ลงมาแทน และนี่คือ ‘ของใหม่’ ที่ว่า
โฟล์คสวาเกนเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยมาเป็นสปอร์ตแวน พร้อมกับระบุชัดเจนถึงตำแหน่งทางการตลาดว่า พร้อมลุยตลาดอเนกประสงค์เต็มตัว แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกมินิแวนหรือ MPV เพราะมีรุ่นทัวรานเอาไว้รับมืออยู่แล้ว โดยสปอร์ตแวนจะเป็นตัวถังที่ 3 ของกอล์ฟ ใหม่ที่ถูกส่งลงสู่ตลาดต่อจาก แฮทช์แบ็ก และเอสเตท รวมถึงการแชร์พื้นตัวถังในตระกูล MQB สุดอเนกประสงค์ของเครือร่วมกัน แต่ขยายระยะฐานล้ออีก 50 มิลลิเมตร
สปอร์ตแวนถูกพัฒนาให้่เห็นความชัดเจนของตัวถังที่สอดคล้องกับกลุ่มตลาดที่พวกเขาต้องการลุย โดยตัวรถมากับระยะฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตร และตัวถังที่ยาว 4,338 มิลลิเมตร รวมถึงตัวถังที่สูงโปร่งขึ้นในระดับ 1,580 มิลลิเมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการรองรับ การใช้งานในสไตล์อเนกประสงค์ที่เหนือกว่ากอล์ฟธรรมดา
รถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาให้ตอบสนองการใช้งานที่เหนือกว่ารุ่นแฮทช์แบ็ก โดยเฉพาะความอเนกประสงค์ ของเบาะหลังที่สามารถแยกพับ 40/20/40 และจากระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นทำให้พื้นที่วางขาของเบาะนั่งหลังมีมากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องไปยังความสบาย และความกว้างขวางของห้องเก็บสัมภาระในกรณีที่พับเบาะหลังลงมา
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีไม่ต่างจากกอล์ฟรุ่นปกติ โดยมีด้วยกัน 6 แบบและทุกรุ่นติดตั้งระบบดับ เครื่องยนต์อัตโนมัติเวลาจอดติดอยู่กับที่หรือระบบ Stop-Start โดยรุ่นเบนซินจะมีด้วยกัน 4 รุ่นในแบบ Di เทอร์โบ คือ 85, 110, 125 และ 150 แรงม้า ซึ่ง 2 รุ่นแรกมีความจุ 1,200 ซีซี และอีก 2 รุ่นหลังเป็น 1,400 ซีซี ส่วนเทอร์โบดีเซลมีด้วยกัน 2 รุ่นเป็น 1,600 ซีซี 110 แรงม้า และ 2,000 ซีซี 150 แรงม้า เลือกได้ว่าจะส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ Dual-Clutch พร้อมกับระบบ XDS+ ควบคุมการกระจายกำลังของเพลาขับหน้าด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
จากรายละเอียดและการออกแบบที่สร้างความชัดเจน รวมถึงการขยายสเป็กที่เหนือขึ้น จากรุ่นแฮทช์แบ็ก น่าจะทำให้สปอร์ตแวนได้รับการตอบรับที่ดีกว่ากอล์ฟ พลัส ส่วนการทำตลาดจะเริ่มขึ้นในยุโรปกลางปีนี้