หลังจากเปิดตัวแบบเงียบๆในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2014 สำหรับ “ซูบารุ ดับเบิลยูอาร์เอ็กซ์” (Subaru WRX) ถัดจากนั้นอีกไม่กี่สัปดาห์ “มอเตอร์ อิมเมจ” บริษัทที่ดูแลการทำตลาดของรถยนต์ซูบารุในอาเซียน ก็ยกทีมงานไปจัดอีเวนต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ(ระดับภูมิภาค) พร้อมเชิญสื่อมวลชนทั่วอาเซียนให้ไปสัมผัสพร้อมลองขับ WRX และ WRX STI ถึงกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
สำหรับซูบารุ WRX ใหม่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2014 ต้นปีที่ผ่านมา โดยจะไม่มีชื่อ “อิมเพรซ่า” (Impreza) ติดมาด้วยเหมือนในเจเนอเรชันก่อนๆ ด้วยความพยายามมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับของตัวแรงรหัสร้อนให้ชัดเจน ขณะเดียวกันทีมวิศวกรจากฟูจิเฮฟวี่ อินดัสตรี้ ยังแจ้งว่า WRX ใหม่ แม้จะมีการใช้ชิ้นส่วนร่วมกับอิมเพรซ่าอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมได้แยกการพัฒนาออกมาต่างกัน ทั้ง โครงสร้างตัวถัง ช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อน
...ในยุคที่คู่แข่งอย่าง “มิตซูบิชิ อีโวลูชัน” ยกเลิกการทำตลาดไป ทีมงานซูบารุก็หวังให้ WRX ไปท้าชนกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส AMG โน่นเลย
ในเมืองไทย WRX ที่มากับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 2.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 2.64 ล้านบาท และเกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 2.74 ล้านบาท ส่วนตัวแรงสุด WRX STI เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.5 ลิตร จะมีแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา 6สปีด คาดว่าจะเปิดตัวช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยราคาประมาณ 3.4 ล้านบาท
สำหรับการทดสอบซูบารุ WRX และ WRX STI ทีมงานเขาจัดให้ขับแบบพอหอมปากหอมคอ ที่สนาม Clark International Speedway ต้องออกไปนอกกรุงมะนิลาประมาณ 100 กิโลเมตร
โดยเริ่มจากการลองนั่งเป็นผู้โดยสารให้ลุง “รัสส์ สวิฟท์” สตันต์โชว์มือเก๋าขาประจำของซูบารุมาขับให้ ลองเปรียบเทียบระหว่าง WRX STI รุ่น ใหม่และรุ่นเก่า(หน้าแมว) ระยะทางสั้นๆครับประมาณ 200 เมตรแล้วยูเทิร์นกลับมา ซึ่งสถานีนี้รับรู้ความแตกต่างของช่วงล่างอิสระ 4 ล้อของ WRX STI ใหม่นั้นออกแนวนุ่มนวลมากขึ้น รวมถึงการเข้าโค้งตัวรถก็เสียอาการปัดเป๋ น้อยกว่ารุ่นเดิมพอสมควร
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายถึงจะมีโอกาสไปขับด้วยตัวเอง ซึ่งสถานีนี้เราจะได้ลองทั้ง WRX,WRX STI และ WRX STI รุ่นเก่า โดยทุกคันเป็นพวงมาลัยซ้ายกับระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร หนึ่งคันหนึ่งรอบ
เริ่มจาก WRX ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Turbo ให้กำลังสูงสุด 268 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง ที่ซูบารุเรียกว่า Sport Lineartronic พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All Wheel Drive
แม้จะไม่มีรหัส STI ต่อท้าย แต่เรี่ยวแรงต้องบอกเหลือกินเหลือใช้ ทางตรงระยะสั้นๆไล่ความเร็วจากเคลื่อนตัวเอื่อยๆ ไปจนถึง 100 กม./ชม.ใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญใครกลัวเกียร์ CVT จะไม่เหมาะกับรถซูบารุ เปลี่ยนความคิดไปได้เลยครับ เพราะการส่งกำลังยังทำได้รวดเร็วต่อเนื่อง มีจังหวะชิฟท์อัพ ชิฟท์ดาวน์ คล้ายบุคลิกของเกียร์อัตโนมัติทั่วไป มีลากรอบบ้างตามน้ำหนักของคันเร่ง ทั้งยังมีแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยมาให้เลือกเปลี่ยนเกียร์เอง ซึ่งทำงานฉับไวและตามใจผู้ขับพอสมควร
ส่วนWRX STI ที่ถือเป็นไฮไลต์ของการจัดงาน ซูบารุคุยว่าพัฒนาพละพลังและการควบคุมให้ตอบสนองได้ดีกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 407 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เคลมไว้ 5.2 วินาที ต่างจาก WRX รุ่นเกียร์CVT ที่ทำได้ 6.3 วินาที (รุ่นเกียร์ธรรมดา 6.0 วินาที)
แน่นอนว่าการขับขี่ดุดันมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า รถที่ทดสอบเป็นพวงมาลัยซ้าย และต้องใช้มือขวาเปลี่ยนเกียร์ ผู้เขียนก็ไม่คุนชิน ดังนั้นจึงขับแบบไม่มุทะลุมากนัก แต่กระนั้นก็พบว่า เรี่ยวแรงและรอบเครื่องยนต์ วูบวาบและดีดสูง บางที่การเปลี่ยนเกียร์ก็ไปเจอกันที่ 5,000-6,000 รอบโน่นเลย
ด้านคันเกียร์สั้น จับมั่นกระชับมือ เช่นเดียวกับแป้นคลัทช์น้ำหนักกำลังดี หรือไม่หนักจนเกินไป ส่งผลให้การเปลี่ยนเกียร์คล่องแคล่ว ตำแหน่งโยกเปลี่ยนเกียร์ทำได้แม่นยำ อัตราเร่งมาติดเท้า แรงแบบกระชากหลังติดเบาะทุกการเปลี่ยนเกียร์
พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียนถูกเซ็ทอัตราทด 13.0:1 หวังให้การควบคุมฉับไวมากขึ้น สอดรับกับน้ำหนักที่ตึงหน่วงมือ ซึ่งการขับจริงการตอบสนองแม่นยำ ทิศทางไปได้ตรงกับการขยับองศาซ้าย-ขวา
อย่างไรก็ตามซูบารุ WRX STI ยังคงระบบSI-DRIVE เลือกการตอบสนองของลิ้นปีกผีเสื้อ-คันเร่ง ได้ตามใจพร้อมระบบ DCCD - Driver Controller Center Differential ปรับการกระจายแรงบิดไปสู่ล้อหน้า-หลัง ได้แบบอัตโนมัติและแมนวล
รวบรัดตัดความ...ได้ขับเพียงน้อยนิด แต่ก็เป็นประสบการณ์ดีๆอีกครั้งกับรถในตระกูลท็อปของซูบารุ ซึ่ง WRX STI ยังมากับพลังที่ดุดัน ขับมันในโค้ง ช่วงล่างนุ่มเนียนกว่าเดิม บุคลิกการขับขี่และพานไปถึงหน้าตาการออกแบบอาจจะดูดิบเถื่อนน้อยลง
สำหรับซูบารุ WRX ใหม่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2014 ต้นปีที่ผ่านมา โดยจะไม่มีชื่อ “อิมเพรซ่า” (Impreza) ติดมาด้วยเหมือนในเจเนอเรชันก่อนๆ ด้วยความพยายามมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับของตัวแรงรหัสร้อนให้ชัดเจน ขณะเดียวกันทีมวิศวกรจากฟูจิเฮฟวี่ อินดัสตรี้ ยังแจ้งว่า WRX ใหม่ แม้จะมีการใช้ชิ้นส่วนร่วมกับอิมเพรซ่าอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมได้แยกการพัฒนาออกมาต่างกัน ทั้ง โครงสร้างตัวถัง ช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อน
...ในยุคที่คู่แข่งอย่าง “มิตซูบิชิ อีโวลูชัน” ยกเลิกการทำตลาดไป ทีมงานซูบารุก็หวังให้ WRX ไปท้าชนกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส AMG โน่นเลย
ในเมืองไทย WRX ที่มากับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 2.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคา 2.64 ล้านบาท และเกียร์อัตโนมัติ CVT ราคา 2.74 ล้านบาท ส่วนตัวแรงสุด WRX STI เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.5 ลิตร จะมีแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา 6สปีด คาดว่าจะเปิดตัวช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยราคาประมาณ 3.4 ล้านบาท
สำหรับการทดสอบซูบารุ WRX และ WRX STI ทีมงานเขาจัดให้ขับแบบพอหอมปากหอมคอ ที่สนาม Clark International Speedway ต้องออกไปนอกกรุงมะนิลาประมาณ 100 กิโลเมตร
โดยเริ่มจากการลองนั่งเป็นผู้โดยสารให้ลุง “รัสส์ สวิฟท์” สตันต์โชว์มือเก๋าขาประจำของซูบารุมาขับให้ ลองเปรียบเทียบระหว่าง WRX STI รุ่น ใหม่และรุ่นเก่า(หน้าแมว) ระยะทางสั้นๆครับประมาณ 200 เมตรแล้วยูเทิร์นกลับมา ซึ่งสถานีนี้รับรู้ความแตกต่างของช่วงล่างอิสระ 4 ล้อของ WRX STI ใหม่นั้นออกแนวนุ่มนวลมากขึ้น รวมถึงการเข้าโค้งตัวรถก็เสียอาการปัดเป๋ น้อยกว่ารุ่นเดิมพอสมควร
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายถึงจะมีโอกาสไปขับด้วยตัวเอง ซึ่งสถานีนี้เราจะได้ลองทั้ง WRX,WRX STI และ WRX STI รุ่นเก่า โดยทุกคันเป็นพวงมาลัยซ้ายกับระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร หนึ่งคันหนึ่งรอบ
เริ่มจาก WRX ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Turbo ให้กำลังสูงสุด 268 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง ที่ซูบารุเรียกว่า Sport Lineartronic พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical All Wheel Drive
แม้จะไม่มีรหัส STI ต่อท้าย แต่เรี่ยวแรงต้องบอกเหลือกินเหลือใช้ ทางตรงระยะสั้นๆไล่ความเร็วจากเคลื่อนตัวเอื่อยๆ ไปจนถึง 100 กม./ชม.ใช้เวลาไม่นาน ที่สำคัญใครกลัวเกียร์ CVT จะไม่เหมาะกับรถซูบารุ เปลี่ยนความคิดไปได้เลยครับ เพราะการส่งกำลังยังทำได้รวดเร็วต่อเนื่อง มีจังหวะชิฟท์อัพ ชิฟท์ดาวน์ คล้ายบุคลิกของเกียร์อัตโนมัติทั่วไป มีลากรอบบ้างตามน้ำหนักของคันเร่ง ทั้งยังมีแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัยมาให้เลือกเปลี่ยนเกียร์เอง ซึ่งทำงานฉับไวและตามใจผู้ขับพอสมควร
ส่วนWRX STI ที่ถือเป็นไฮไลต์ของการจัดงาน ซูบารุคุยว่าพัฒนาพละพลังและการควบคุมให้ตอบสนองได้ดีกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 407 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เคลมไว้ 5.2 วินาที ต่างจาก WRX รุ่นเกียร์CVT ที่ทำได้ 6.3 วินาที (รุ่นเกียร์ธรรมดา 6.0 วินาที)
แน่นอนว่าการขับขี่ดุดันมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า รถที่ทดสอบเป็นพวงมาลัยซ้าย และต้องใช้มือขวาเปลี่ยนเกียร์ ผู้เขียนก็ไม่คุนชิน ดังนั้นจึงขับแบบไม่มุทะลุมากนัก แต่กระนั้นก็พบว่า เรี่ยวแรงและรอบเครื่องยนต์ วูบวาบและดีดสูง บางที่การเปลี่ยนเกียร์ก็ไปเจอกันที่ 5,000-6,000 รอบโน่นเลย
ด้านคันเกียร์สั้น จับมั่นกระชับมือ เช่นเดียวกับแป้นคลัทช์น้ำหนักกำลังดี หรือไม่หนักจนเกินไป ส่งผลให้การเปลี่ยนเกียร์คล่องแคล่ว ตำแหน่งโยกเปลี่ยนเกียร์ทำได้แม่นยำ อัตราเร่งมาติดเท้า แรงแบบกระชากหลังติดเบาะทุกการเปลี่ยนเกียร์
พวงมาลัยแบบแรคแอนด์พิเนียนถูกเซ็ทอัตราทด 13.0:1 หวังให้การควบคุมฉับไวมากขึ้น สอดรับกับน้ำหนักที่ตึงหน่วงมือ ซึ่งการขับจริงการตอบสนองแม่นยำ ทิศทางไปได้ตรงกับการขยับองศาซ้าย-ขวา
อย่างไรก็ตามซูบารุ WRX STI ยังคงระบบSI-DRIVE เลือกการตอบสนองของลิ้นปีกผีเสื้อ-คันเร่ง ได้ตามใจพร้อมระบบ DCCD - Driver Controller Center Differential ปรับการกระจายแรงบิดไปสู่ล้อหน้า-หลัง ได้แบบอัตโนมัติและแมนวล
รวบรัดตัดความ...ได้ขับเพียงน้อยนิด แต่ก็เป็นประสบการณ์ดีๆอีกครั้งกับรถในตระกูลท็อปของซูบารุ ซึ่ง WRX STI ยังมากับพลังที่ดุดัน ขับมันในโค้ง ช่วงล่างนุ่มเนียนกว่าเดิม บุคลิกการขับขี่และพานไปถึงหน้าตาการออกแบบอาจจะดูดิบเถื่อนน้อยลง
