การเปิดตัวเก๋งคอมแพ็กต์โฉมใหม่ 2 รุ่นไล่ๆ กัน ทั้งรุ่นหลักของตลาดอย่าง “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” และโดยเฉพาะ “มาสด้า3” ที่มากับเทคโนโลยีลือชื่อสกายแอคทีฟ(Skyactiv)ทั้งคัน จึงคาดหวังยอดขายไว้สูงตั้งเป้าปีละไม่ต่ำกว่า 13,000 คัน ขณะที่คู่แข่งในตลาดต่างพากันแต่งหน้าทาปาก-ออกรุ่นพิเศษมาแลกหมัด เหตุนี้ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงส่องกล้องกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์เปรียบเทียบข้อมูลสเปครถ ใครมีดีอะไรบ้าง?…
แน่นอนการเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้นของสเปกเก๋งกลุ่มคอมแพ็กต์ ในส่วนของการออกแบบ หรือลักษณ์หน้าตาคงไม่กล่าวถึง ณ ที่นี้ เพราะเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ขณะที่มิติตัวถังสามารถดูได้จากตารางเปรียบเทียบ และจะเปรียบเทียบเฉพาะข้อมูลเก๋งคอมแพ็กต์รุ่นหลักๆ ในตลาด หรือไม่ใช่รถที่อยู่ในช่วงปลายโมเดลเป็นหลัก ดังนั้นจึงขอเปรียบเทียบเพียง 2 รุ่นปรับโฉมใหม่ และ 3 รุ่นยอดขายอันดับต้นๆ ของตลาด และเพิ่งทำตลาดมาไม่นานมาก นั่นคือ ฮอนด้า ซีวิค, นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์ และฟอร์ด โฟกัสเท่านั้น
เครื่องยนต์และตัวเลือก
ส่วนใหญ่เก๋งคอมแพ็กต์แต่ละรุ่นและยี่ห้อจะทำตลาดด้วยกัน 2 ตัวเลือก มีเพียง “มาสด้า3” ที่คราวนี้หันมาบุกตลาดเพียงเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซีบล็อกเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ว่ากันว่าแรงแต่ประหยัด โดยเฉพาะอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงสุดในตลาด 14 : 1 และหากเทียบกับคู่แข่งขนาดความจุกระบอกสูบเดียวกัน จะมี “ฟอร์ด โฟกัส” ที่มาใกล้เคียง 12 : 1 แต่กำลังของฟอร์ดจะสูงกว่า 170 แรงม้า ขณะที่มาสด้ามีม้าในคอก 165 ตัว เพียงแต่จะมาในรอบต่ำกว่า ส่วน “ฮอนด้า ซีวิค” หากเทียบข้อมูลสมรรถนะนับว่าด้อยกว่าคู่แข่ง ในขนาดเครื่องยนต์นี้ทุกด้าน
สำหรับ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” ยังวางเครื่องบล็อกเดิม แต่ปรับประสิทธิภาพให้ดีขึ้น รวมถึงปรับการทำตลาดเหลือเพียงรุ่น 1,600 ซีซี และ 1,800 ซีซี โดยตัดรุ่น 2,000 ซีซีออกไป ทำให้มีตัวเลือกเครื่องยนต์เช่นเดียวกับ “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” ด้านคู่แข่ง “ฮอนด้า ซีวิค” มีตัวเลือกเป็นรุ่น 1,800 ซีซีเช่นกัน (ดูรายละเอียดข้อมูลเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังจากตารางเปรียบเทียบ)
จากข้อมูลจะเห็นว่าเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ของมาสด้า3 และฟอร์ด โฟกัส ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขณะที่ขุมกำลังขนาด 1,800 ซีซี สองคู่แข่งสำคัญ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค ฟาดฟันกันอย่างสูสี อัลติสอาจจะเหนือกว่าเรื่องเกียร์ ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้เช่นเดียวกับมาสด้า3 ส่วนเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เป็นการแลกหมัดระหว่างโคโรลล่า อัลติส กับฟอร์ด โฟกัส
ราคาจุดตัดสินสำคัญ
แน่นอนราคานับเป็นจุดตัดสินสำคัญในการเลือกซื้อรถ และในกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ราคายังทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อรถที่มีขนาดเครื่องยนต์เดียวกัน อย่างโฉมใหม่ของ “มาสด้า3” เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี แต่เปิดราคาเพียง 8.33 แสนบาท ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ เป็นราคาที่กดลงมาชนตั้งแต่รุ่นบนของเครื่องยนต์ 1,600 ซีซีขึ้นไป โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1,800 ซีซี นี่ถือเป็นราคาท้าชนตรงๆ กันเลย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการได้รับสิทธิ์ทางภาษีจากการใช้น้ำมัน E85 และกลยุทธ์ทางการตลาดของมาสด้า ที่หวังผงาดในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์
ในส่วนของกลุ่มราคาระดับ 8 แสนบาทหรือต่ำลงมา จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี ที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่นย่อยคงเป็น “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” รวมถึงราคาที่เปิดออกมาได้ต่ำสุดของตลาด 7.51 แสนบาท และตามมาด้วย “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” กับทางเลือกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองโมเดลยังมีตัวเลือกรุ่นพลังงานก๊าซธรรมชาติ CNG ให้เลือกด้วย
อุปกรณ์-ความปลอดภัย
เมื่อเลือกราคาและเครื่องยนต์กันแล้ว สิ่งต่อมาเห็นจะเป็นอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใส่เข้ามา ส่วนใหญ่ในกลุ่มราคาหรือเครื่องยนต์เดียวกัน ไม่ค่อยจะแตกต่างกันมากนัก อย่างตัวบนๆ หรือรุ่นท็อปของแต่ละยี่ห้อ ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ยืนพื้น จะมีเพียงนิสสัน ซิลฟี ที่เป็นแบบฮาโลเจนทุกรุ่น แต่จะใส่ LED มารอบคันกันเลย ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่โดดเด่นเห็นจะเป็น ฟอร์ด โฟกัส ที่ให้หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้าในรุ่นบนของทั้งเครื่อง 1,600 และ 2,000 ซีซี
เช่นเดียวกับอุปกรณ์ภายในที่ให้มาคล้ายๆ กัน อย่างเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าที่ปรับได้แตกต่างกันไป สูงสุดเป็นโตโยต้า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค ปรับได้มากถึง 8 ทิศทาง ส่วนระบบความบันเทิง และการเชื่อมต่อ ปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นของรถทุกรุ่นอยู่แล้ว รวมถึงจอแสดงข้อมูลต่างๆ และระบบนำทาง ยิ่งในรุ่นท็อปจัดมาเต็มทุกยี่ห้อ แต่ที่โดดเด่นกว่าเห็นจะเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือ SYNC ของฟอร์ด ซึ่งในมาสด้าจะมีระบบจดจำเสียง (Voice Recognition) มาให้
จุดที่ตัดสินกันอีกอย่างเห็นจะเป็นอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย แน่นอนพวกถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องหลัง รวมถึง ABS/EBD/BA ส่วนใหญ่จะติดมาเป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ที่ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของทุกยี่ห้ออยู่แล้ว
ทั้งนี้ในรุ่นบนของฮอนด้า ซีวิค, ฟอร์ด โฟกัส และมาสด้า3 จะมีม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยด้านข้าง (เฉพาะซีวิคและโฟกัส) ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นฟอร์ด โฟกัส ยังติดตั้งระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) ระบบช่วยจอดรถ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และสัญญาณเตือนระยะเดินหน้า เช่นเดียวกับมาสด้า3 ที่จัดให้ทั้งระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดสายตามองไม่เห็น รวมถึงแป้นเบรกและพวงมาลัยยุบตัวได้ตามการทำงานของถุงลมนิรภัย และระบบควบคุมเกียร์ เป็นต้น
บทสรุป… จากเอกสารข้อมูลสเปกรถ ไม่นำเรื่องศูนย์บริการ ภาพลักษณ์แบรนด์ และราคาขายต่อมาพิจารณาร่วม ที่โดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ และเรื่องราคาระดับ 8 แสนบาทต้นๆ ขึ้นไป เห็นจะเป็น “มาสด้า3” เช่นเดียวกับ “ฟอร์ด โฟกัส” แต่ราคาอาจจะไม่หวือหวาเท่า ส่วนที่มาแบบกลางๆ คงต้องเป็น “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” และ “ฮอนด้า ซีวิค” ส่วนฟาก “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” ณ จุดนี้ยังค่อนข้างเสียเปรียบกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ…
แน่นอนการเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้นของสเปกเก๋งกลุ่มคอมแพ็กต์ ในส่วนของการออกแบบ หรือลักษณ์หน้าตาคงไม่กล่าวถึง ณ ที่นี้ เพราะเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ขณะที่มิติตัวถังสามารถดูได้จากตารางเปรียบเทียบ และจะเปรียบเทียบเฉพาะข้อมูลเก๋งคอมแพ็กต์รุ่นหลักๆ ในตลาด หรือไม่ใช่รถที่อยู่ในช่วงปลายโมเดลเป็นหลัก ดังนั้นจึงขอเปรียบเทียบเพียง 2 รุ่นปรับโฉมใหม่ และ 3 รุ่นยอดขายอันดับต้นๆ ของตลาด และเพิ่งทำตลาดมาไม่นานมาก นั่นคือ ฮอนด้า ซีวิค, นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์ และฟอร์ด โฟกัสเท่านั้น
เครื่องยนต์และตัวเลือก
ส่วนใหญ่เก๋งคอมแพ็กต์แต่ละรุ่นและยี่ห้อจะทำตลาดด้วยกัน 2 ตัวเลือก มีเพียง “มาสด้า3” ที่คราวนี้หันมาบุกตลาดเพียงเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซีบล็อกเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ว่ากันว่าแรงแต่ประหยัด โดยเฉพาะอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงสุดในตลาด 14 : 1 และหากเทียบกับคู่แข่งขนาดความจุกระบอกสูบเดียวกัน จะมี “ฟอร์ด โฟกัส” ที่มาใกล้เคียง 12 : 1 แต่กำลังของฟอร์ดจะสูงกว่า 170 แรงม้า ขณะที่มาสด้ามีม้าในคอก 165 ตัว เพียงแต่จะมาในรอบต่ำกว่า ส่วน “ฮอนด้า ซีวิค” หากเทียบข้อมูลสมรรถนะนับว่าด้อยกว่าคู่แข่ง ในขนาดเครื่องยนต์นี้ทุกด้าน
สำหรับ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” ยังวางเครื่องบล็อกเดิม แต่ปรับประสิทธิภาพให้ดีขึ้น รวมถึงปรับการทำตลาดเหลือเพียงรุ่น 1,600 ซีซี และ 1,800 ซีซี โดยตัดรุ่น 2,000 ซีซีออกไป ทำให้มีตัวเลือกเครื่องยนต์เช่นเดียวกับ “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” ด้านคู่แข่ง “ฮอนด้า ซีวิค” มีตัวเลือกเป็นรุ่น 1,800 ซีซีเช่นกัน (ดูรายละเอียดข้อมูลเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังจากตารางเปรียบเทียบ)
จากข้อมูลจะเห็นว่าเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ของมาสด้า3 และฟอร์ด โฟกัส ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขณะที่ขุมกำลังขนาด 1,800 ซีซี สองคู่แข่งสำคัญ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค ฟาดฟันกันอย่างสูสี อัลติสอาจจะเหนือกว่าเรื่องเกียร์ ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้เช่นเดียวกับมาสด้า3 ส่วนเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เป็นการแลกหมัดระหว่างโคโรลล่า อัลติส กับฟอร์ด โฟกัส
ราคาจุดตัดสินสำคัญ
แน่นอนราคานับเป็นจุดตัดสินสำคัญในการเลือกซื้อรถ และในกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ราคายังทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อรถที่มีขนาดเครื่องยนต์เดียวกัน อย่างโฉมใหม่ของ “มาสด้า3” เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี แต่เปิดราคาเพียง 8.33 แสนบาท ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ เป็นราคาที่กดลงมาชนตั้งแต่รุ่นบนของเครื่องยนต์ 1,600 ซีซีขึ้นไป โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1,800 ซีซี นี่ถือเป็นราคาท้าชนตรงๆ กันเลย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการได้รับสิทธิ์ทางภาษีจากการใช้น้ำมัน E85 และกลยุทธ์ทางการตลาดของมาสด้า ที่หวังผงาดในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์
ในส่วนของกลุ่มราคาระดับ 8 แสนบาทหรือต่ำลงมา จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,600 ซีซี ที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่นย่อยคงเป็น “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” รวมถึงราคาที่เปิดออกมาได้ต่ำสุดของตลาด 7.51 แสนบาท และตามมาด้วย “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” กับทางเลือกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองโมเดลยังมีตัวเลือกรุ่นพลังงานก๊าซธรรมชาติ CNG ให้เลือกด้วย
อุปกรณ์-ความปลอดภัย
เมื่อเลือกราคาและเครื่องยนต์กันแล้ว สิ่งต่อมาเห็นจะเป็นอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใส่เข้ามา ส่วนใหญ่ในกลุ่มราคาหรือเครื่องยนต์เดียวกัน ไม่ค่อยจะแตกต่างกันมากนัก อย่างตัวบนๆ หรือรุ่นท็อปของแต่ละยี่ห้อ ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ยืนพื้น จะมีเพียงนิสสัน ซิลฟี ที่เป็นแบบฮาโลเจนทุกรุ่น แต่จะใส่ LED มารอบคันกันเลย ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่โดดเด่นเห็นจะเป็น ฟอร์ด โฟกัส ที่ให้หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้าในรุ่นบนของทั้งเครื่อง 1,600 และ 2,000 ซีซี
เช่นเดียวกับอุปกรณ์ภายในที่ให้มาคล้ายๆ กัน อย่างเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าที่ปรับได้แตกต่างกันไป สูงสุดเป็นโตโยต้า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค ปรับได้มากถึง 8 ทิศทาง ส่วนระบบความบันเทิง และการเชื่อมต่อ ปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นของรถทุกรุ่นอยู่แล้ว รวมถึงจอแสดงข้อมูลต่างๆ และระบบนำทาง ยิ่งในรุ่นท็อปจัดมาเต็มทุกยี่ห้อ แต่ที่โดดเด่นกว่าเห็นจะเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือ SYNC ของฟอร์ด ซึ่งในมาสด้าจะมีระบบจดจำเสียง (Voice Recognition) มาให้
จุดที่ตัดสินกันอีกอย่างเห็นจะเป็นอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย แน่นอนพวกถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องหลัง รวมถึง ABS/EBD/BA ส่วนใหญ่จะติดมาเป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ที่ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของทุกยี่ห้ออยู่แล้ว
ทั้งนี้ในรุ่นบนของฮอนด้า ซีวิค, ฟอร์ด โฟกัส และมาสด้า3 จะมีม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยด้านข้าง (เฉพาะซีวิคและโฟกัส) ซึ่งไม่เพียงเท่านั้นฟอร์ด โฟกัส ยังติดตั้งระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) ระบบช่วยจอดรถ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และสัญญาณเตือนระยะเดินหน้า เช่นเดียวกับมาสด้า3 ที่จัดให้ทั้งระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดสายตามองไม่เห็น รวมถึงแป้นเบรกและพวงมาลัยยุบตัวได้ตามการทำงานของถุงลมนิรภัย และระบบควบคุมเกียร์ เป็นต้น
บทสรุป… จากเอกสารข้อมูลสเปกรถ ไม่นำเรื่องศูนย์บริการ ภาพลักษณ์แบรนด์ และราคาขายต่อมาพิจารณาร่วม ที่โดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ และเรื่องราคาระดับ 8 แสนบาทต้นๆ ขึ้นไป เห็นจะเป็น “มาสด้า3” เช่นเดียวกับ “ฟอร์ด โฟกัส” แต่ราคาอาจจะไม่หวือหวาเท่า ส่วนที่มาแบบกลางๆ คงต้องเป็น “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” และ “ฮอนด้า ซีวิค” ส่วนฟาก “นิสสัน ซิลฟี-พัลซาร์” ณ จุดนี้ยังค่อนข้างเสียเปรียบกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ…
