ข่าวในประเทศ - กรมการขนส่งทางบก ตรวจเข้มสมรรถนะรถโดยสาร เน้นปลอดภัยกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะ ที่สูงตั้งแต่ 3.60 เมตรขึ้นไป ต้องผ่านเกณฑ์การทรงตัวไม่ต่ำกว่า 30 องศา พร้อมเตรียมกำหนดมาตรฐานเพิ่มเติม ย้ำไม่ผ่านเกณฑ์ไม่สามารถจดทะเบียนหรือต่อภาษีรถได้
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดเกณฑ์การทรงตัวของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 20 เมษายน 2555 โดยกำหนดให้รถโดยสารที่มีความสูงตั้งแต่ 3.60 เมตรขึ้นไป ต้องมีเกณฑ์การทรงตัวไม่ต่ำกว่า 30 องศา ซึ่งมีผลบังคับใช้กับรถที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 และรถโดยสารที่จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 ซึ่งมีรถโดยสารที่เข้าข่ายต้องเข้ารับการทดสอบประมาณ 17,588 คัน
ในจำนวนนี้มีรถสองชั้น จำนวน 5,741 คัน โดยจะต้องแก้ไขให้เป็นไปตามประกาศนี้ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2561 ทั้งนี้ จากข้อมูลการทดสอบการทรงตัวของรถในปี 2556 ปรากฏว่า ได้ทำการทดสอบรถทั้งหมด 1,250 คัน ผ่านเกณฑ์ 705 คัน คิดเป็น56.4% ไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 545 คัน คิดเป็น43.6% ประกอบด้วย รถโดยสารมาตรฐาน 1 (รถปรับอากาศชั้นเดียว มีห้องน้ำ) จำนวน 188 คัน ผ่าน 107 คัน ไม่ผ่าน 81 คัน, รถโดยสารมาตรฐาน 2 (รถปรับอากาศชั้นเดียว ไม่มีห้องน้ำ) จำนวน 92 คัน ผ่าน 65 คัน ไม่ผ่าน 27 คัน, รถโดยสารมาตรฐาน 3 (รถพัดลมชั้นเดียว) จำนวน 128 คัน ผ่าน 52 คัน ไม่ผ่าน 76 คัน และ รถโดยสารสองชั้น จำนวน 842 คัน ผ่าน 481 คัน ไม่ผ่าน 361 คัน
ทั้งนี้รถที่ไม่ผ่านการทดสอบการทรงตัว จะต้องไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงก่อนนำเข้ามารับการทดสอบอีกครั้ง หากไม่ผ่านก็จะไม่สามารถจดทะเบียนหรือต่ออายุภาษีได้ ซึ่งหากนำไปใช้งานก็จะมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ผู้ประกอบการขนส่ง หรือเจ้าของรถปฏิบัติตามประกาศของกรมการขนส่งทางบกอย่างเคร่งครัดด้วย นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้กำหนดให้รถโดยสารประจำทางหมวด 2 และ 3 รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถโดยสาร ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถโดยสารที่จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ 1 เมษายน 2556 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งภายในวันที่ 1 เมษายน 2557 ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้เช่นกัน
นายอัฌษไธค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกกำลังอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรฐานความแข็งแรงของที่นั่ง จุดยึดที่นั่ง และจุดยึดเข็มขัดนิรภัยรถโดยสาร รวมทั้งมาตรฐานความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังรถโดยสาร ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างประกาศเสร็จแล้วและคาดว่าจะออกประกาศได้ภายในเดือนมิถุนายน 2557
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการเพิ่มสมรรถนะของระบบห้ามล้อรถโดยสาร โดยกำหนดให้ระบบห้ามล้อของรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ต้องเป็นระบบ ABS เพื่อป้องกันการล็อคของล้อและการหมุนปัดของรถเมื่อมีการห้ามล้อรถอย่างกะทันหันหรือในขณะเข้าโค้ง รวมทั้งกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะที่เป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง และรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัด ต้องมีระบบหน่วงความเร็วรถด้วย Retarder เพื่อเป็นระบบช่วยเสริมระบบห้ามล้อให้รถสามารถลดความเร็วของรถในขณะลงเขา หรือที่ลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ผลิตรถ ผู้สร้างประกอบตัวถังรถและผู้ประกอบการขนส่งแล้ว และจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้บังคับต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชน พบรถโดยสารที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย แจ้งที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดเกณฑ์การทรงตัวของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร พ.ศ. 2555 ลงวันที่ 20 เมษายน 2555 โดยกำหนดให้รถโดยสารที่มีความสูงตั้งแต่ 3.60 เมตรขึ้นไป ต้องมีเกณฑ์การทรงตัวไม่ต่ำกว่า 30 องศา ซึ่งมีผลบังคับใช้กับรถที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 และรถโดยสารที่จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 ซึ่งมีรถโดยสารที่เข้าข่ายต้องเข้ารับการทดสอบประมาณ 17,588 คัน
ในจำนวนนี้มีรถสองชั้น จำนวน 5,741 คัน โดยจะต้องแก้ไขให้เป็นไปตามประกาศนี้ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2561 ทั้งนี้ จากข้อมูลการทดสอบการทรงตัวของรถในปี 2556 ปรากฏว่า ได้ทำการทดสอบรถทั้งหมด 1,250 คัน ผ่านเกณฑ์ 705 คัน คิดเป็น56.4% ไม่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 545 คัน คิดเป็น43.6% ประกอบด้วย รถโดยสารมาตรฐาน 1 (รถปรับอากาศชั้นเดียว มีห้องน้ำ) จำนวน 188 คัน ผ่าน 107 คัน ไม่ผ่าน 81 คัน, รถโดยสารมาตรฐาน 2 (รถปรับอากาศชั้นเดียว ไม่มีห้องน้ำ) จำนวน 92 คัน ผ่าน 65 คัน ไม่ผ่าน 27 คัน, รถโดยสารมาตรฐาน 3 (รถพัดลมชั้นเดียว) จำนวน 128 คัน ผ่าน 52 คัน ไม่ผ่าน 76 คัน และ รถโดยสารสองชั้น จำนวน 842 คัน ผ่าน 481 คัน ไม่ผ่าน 361 คัน
ทั้งนี้รถที่ไม่ผ่านการทดสอบการทรงตัว จะต้องไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงก่อนนำเข้ามารับการทดสอบอีกครั้ง หากไม่ผ่านก็จะไม่สามารถจดทะเบียนหรือต่ออายุภาษีได้ ซึ่งหากนำไปใช้งานก็จะมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ผู้ประกอบการขนส่ง หรือเจ้าของรถปฏิบัติตามประกาศของกรมการขนส่งทางบกอย่างเคร่งครัดด้วย นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้กำหนดให้รถโดยสารประจำทางหมวด 2 และ 3 รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถโดยสาร ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถโดยสารที่จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ 1 เมษายน 2556 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งภายในวันที่ 1 เมษายน 2557 ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้เช่นกัน
นายอัฌษไธค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกกำลังอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรฐานความแข็งแรงของที่นั่ง จุดยึดที่นั่ง และจุดยึดเข็มขัดนิรภัยรถโดยสาร รวมทั้งมาตรฐานความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังรถโดยสาร ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างประกาศเสร็จแล้วและคาดว่าจะออกประกาศได้ภายในเดือนมิถุนายน 2557
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการเพิ่มสมรรถนะของระบบห้ามล้อรถโดยสาร โดยกำหนดให้ระบบห้ามล้อของรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ต้องเป็นระบบ ABS เพื่อป้องกันการล็อคของล้อและการหมุนปัดของรถเมื่อมีการห้ามล้อรถอย่างกะทันหันหรือในขณะเข้าโค้ง รวมทั้งกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะที่เป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง และรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัด ต้องมีระบบหน่วงความเร็วรถด้วย Retarder เพื่อเป็นระบบช่วยเสริมระบบห้ามล้อให้รถสามารถลดความเร็วของรถในขณะลงเขา หรือที่ลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ผลิตรถ ผู้สร้างประกอบตัวถังรถและผู้ประกอบการขนส่งแล้ว และจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้บังคับต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชน พบรถโดยสารที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย แจ้งที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง