นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกันกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับอาจารย์จากมหาวิทยาลัย และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องพบว่า การเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารโดยเฉพาะรถโดยสาร 2 ชั้น จะมีความเสียหายค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับการเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารชั้นเดียว เนื่องจากรถโดยสาร 2 ชั้น สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า และพบว่าการเกิดอุบัติเหตุในรถโดยสารส่วนใหญ่ จะเกิดในเส้นทางที่คดเคี้ยว หรือมีความลาดชันต่อเนื่อง เป็นระยะทางยาว ประกอบกับการใช้ความเร็วที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ความไม่ชำนาญเส้นทาง หรือความประมาทของผู้ขับรถ
ดังนั้นกรมการขนส่งทางบก จึงนำข้อสรุปจากการประชุมดังกล่าวมากำหนดมาตรการเร่งด่วนในการคุมเข้มรถโดยสาร 2 ชั้น โดยจะเร่งดำเนินการลดความสูงของรถโดยสารสองชั้นลงให้เหลือ 4.00 เมตร จากเดิม 4.30 เมตร พร้อมกับเพิ่มสมรรถนะระบบห้ามล้อ โดยกำหนดให้ต้องเป็นระบบ ABS และติดตั้งระบบหน่วงความเร็ว (Retarder) กำหนดให้รถโดยสารสองชั้นทั้งรถใหม่ และรถเก่าต้องผ่านการทดสอบการทรงตัวของรถทุกคัน กำหนดให้ผู้ที่จะขับรถโดยสารสองชั้น จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษสำหรับรถโดยสาร 2 ชั้น กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตจะต้องออกแบบโครงสร้างรถโดยสาร 2 ชั้น และผ่านการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ก่อนนำไปประกอบเป็นตัวถังรถ
ส่วนผู้ประกอบการขนส่ง กำหนดให้การขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องผ่านการทดสอบการทรงตัวของรถ เข้มงวดการดูแล และการใช้งานรถโดยสาร 2 ชั้นอย่างใกล้ชิด โดยจะต้องทำการศึกษาเส้นทางที่จะรับจ้าง เพื่อให้รู้ถึงจุดเสี่ยงจุดอันตรายในเส้นทางดังกล่าว ควบคุมคนขับรถมิให้ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยอาจติดตั้งระบบ GPS เพื่อช่วยในการตรวจสอบ
ส่วนเรื่องเส้นทาง มอบให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบททำการสำรวจเส้นทางที่มีจุดเสี่ยงจุดอันตรายที่จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ พร้อมจัดทำเครื่องหมายจราจรเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ขับรถสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และมอบให้กรมการขนส่งทางบกประชาสัมพันธ์เส้นทางจุดเสี่ยงจุดอันตราย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการวางแผนเส้นทางการเดินทาง
ที่ประชุมได้พิจารณาหามาตรการเยียวยาผู้เสียหาย ที่เกิดจากอุบัติเหตุรถโดยสาร โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มวงเงินการชดเชยค่าเสียหาย ค่าปลงศพ และอื่นๆ ให้มีความเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงมากขึ้น
นายอัฌษไธค์ กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบกยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสภาพรถที่วิ่งบนท้องถนน หากพบว่ารถโดยสารไม่มั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะรถโดยสาร 2 ชั้น จะสั่งห้ามใช้รถ พร้อมแจ้งผู้ประกอบการขนส่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไข
ดังนั้นกรมการขนส่งทางบก จึงนำข้อสรุปจากการประชุมดังกล่าวมากำหนดมาตรการเร่งด่วนในการคุมเข้มรถโดยสาร 2 ชั้น โดยจะเร่งดำเนินการลดความสูงของรถโดยสารสองชั้นลงให้เหลือ 4.00 เมตร จากเดิม 4.30 เมตร พร้อมกับเพิ่มสมรรถนะระบบห้ามล้อ โดยกำหนดให้ต้องเป็นระบบ ABS และติดตั้งระบบหน่วงความเร็ว (Retarder) กำหนดให้รถโดยสารสองชั้นทั้งรถใหม่ และรถเก่าต้องผ่านการทดสอบการทรงตัวของรถทุกคัน กำหนดให้ผู้ที่จะขับรถโดยสารสองชั้น จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษสำหรับรถโดยสาร 2 ชั้น กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตจะต้องออกแบบโครงสร้างรถโดยสาร 2 ชั้น และผ่านการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ก่อนนำไปประกอบเป็นตัวถังรถ
ส่วนผู้ประกอบการขนส่ง กำหนดให้การขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องผ่านการทดสอบการทรงตัวของรถ เข้มงวดการดูแล และการใช้งานรถโดยสาร 2 ชั้นอย่างใกล้ชิด โดยจะต้องทำการศึกษาเส้นทางที่จะรับจ้าง เพื่อให้รู้ถึงจุดเสี่ยงจุดอันตรายในเส้นทางดังกล่าว ควบคุมคนขับรถมิให้ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยอาจติดตั้งระบบ GPS เพื่อช่วยในการตรวจสอบ
ส่วนเรื่องเส้นทาง มอบให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบททำการสำรวจเส้นทางที่มีจุดเสี่ยงจุดอันตรายที่จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ พร้อมจัดทำเครื่องหมายจราจรเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ขับรถสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และมอบให้กรมการขนส่งทางบกประชาสัมพันธ์เส้นทางจุดเสี่ยงจุดอันตราย เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการวางแผนเส้นทางการเดินทาง
ที่ประชุมได้พิจารณาหามาตรการเยียวยาผู้เสียหาย ที่เกิดจากอุบัติเหตุรถโดยสาร โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มวงเงินการชดเชยค่าเสียหาย ค่าปลงศพ และอื่นๆ ให้มีความเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงมากขึ้น
นายอัฌษไธค์ กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบกยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสภาพรถที่วิ่งบนท้องถนน หากพบว่ารถโดยสารไม่มั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะรถโดยสาร 2 ชั้น จะสั่งห้ามใช้รถ พร้อมแจ้งผู้ประกอบการขนส่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไข