หลังการทดสอบรถมิว-เอ็กซ์ สื่อมวลชนไทย ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายใหญ่ ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถึง มิว-เอ็กซ์ เรือธงลำใหม่ที่สร้างความฮือฮาในตลาดรถเมืองไทยส่งท้ายปี พร้อมความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ยังคลุมเครือ และทิศทางในปีหน้า
-ตลาดรวมของรถยนต์ปีนี้
ปีที่แล้วมียอดขายรวม 1.4 ล้านคัน ปีนี้คาดว่าคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักน่าจะอยู่ที่ 1.28-1.29 ล้านคัน ถือเป็นตลาดที่ดีปีหนึ่ง สำหรับอีซูซุยังมีเป้าหมายเดิม 2 แสนคัน ส่วนปีหน้าอย่างไรก็ทะลุล้านคันแน่นอน ผมคิดว่าประเทศที่มีขนาดตลาดรถยนต์เกินล้านคันถือว่าเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่และใช้ได้เลย สำหรับอีซูซุเราอยากได้ใกล้เคียงกับปีนี้ 2 แสนคัน ส่วนอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ขอแค่ปีละ 2 หมื่นคันก็พอแล้ว
อีซูซุไม่มีการปรับเป้า ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ที่หลายคนเห็น อาจจะมีบางบริษัทรถยนต์ บางยี่ห้อ ที่ปรับเป้า เนื่องจากมีโอเวอร์ซัปพลาย คือ เขาผลิตมากกว่าปริมาณที่จะขายในตลาด เลยทำให้ต้องมีการปรับเป้า แต่สำหรับอีซูซุ เราปรับปริมาณการผลิตให้สอดคล้องกับยอดขาย จึงไม่มีปรับแต่อย่างใด
-กระแสตอบรับจากการเปิดตัว มิว-เอ็กซ์
หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีมาก โดยเฉพาะผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก สื่อมวลชนต่างชาติ ได้มีโอกาสเห็นรถและทดสอบขับในเมืองไทย ทุกคนพอใจในสมรรถนะและรูปลักษณ์อย่างมาก จนพวกเขา อยากให้เราส่งออกเร็วกว่ากำหนดได้ไหม แต่เนื่องจากประเทศไทยขายดีมาก มียอดจองไปแล้ว 5 พันกว่าคัน จึงไม่สามารถส่งรถไปก่อนกำหนดได้ แต่ประเทศแรกที่จะส่งไปคือ ออสเตรเลีย และทยอยไปยังประเทศต่าง ๆ ในลำดับต่อไป จริงแล้วตลาดเอสยูวีในออสเตรเลียเป็นตลาดที่ใหญ่มาก คือประมาณ 30 % ของตลาดรวม เราคาดหวังไว้สูงพอสมควรสำหรับตลาดประเทศนี้ แม้ช่วงแรกจะตั้งเป้าต่ำกว่าไทยก็ตาม แต่อนาคตจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ
-มิว-เอ็กซ์ จะมาแย่งตลาดปิกอัพ 4 ประตูหรือไม่
ไม่ทำให้ส่วนแบ่งของรถ 4 ประตู ลดลง เพราะว่า ลูกค้าที่ซื้อรถปิกอัพที่ใช้งานจริงก็จะซื้อรุ่นมาตรฐาน แต่ถ้าใช้งานบวกกับใช้ส่วนตัว เขาจะเลือก สแปซแค็บ แต่ถ้าเขามีกำลังมากขึ้นจะเปลี่ยนจากสแปซแค็บเป็น ปิกอัพ 4 ประตู และถ้าฐานะดีมากขึ้น เขาจะเปลี่ยนเป็นมิว-เอ็กซ์ แน่นอน ขณะเดียวกันกลุ่มใหม่เข้ามาเขาจะเริ่มจากสแปซเค็บ มาปิกอัพ 2 ตอน 4 ประตู มันจะเป็นวง มันเลยไม่ลดลง ปัจจุบันปิกอัพยังคงสัดส่วน 45-50 % ของตลาด เพราะว่ามันเป็นรถที่จำเป็นต้องใช้สำหรับลูกค้า
-จองมิว-เอ็กซ์ ตอนนี้ได้รับรถเมื่อไร
ตอนนี้เราขอความร่วมมือจากโรงงานให้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น แต่ตอบไม่ได้ว่าจะเพิ่มสักเท่าไร โรงงานพยายามทำเต็มที่ ในเดือนธันวาคมเป็นต้นไปกำลังการผลิตก็จะเพิ่มสูงขึ้น เราคาดว่าจะส่งมอบให้หมดภายในสิ้นปีนี้ หรือว่าอย่างช้าสุดต้นปีหน้า
-ความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลกระทบไหม
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นประเทศใดในโลกย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และตลาดรถยนต์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตาม
-คาดเดาว่าจะมีผลกระทบมากหรือไม่
ตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะว่าไม่ทราบว่าจะขยายวงกว้างไปมากกว่านี้หรือเปล่า แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความวุ่นวายทางการเมืองบ่อยครั้ง ในที่สุดคนไทยก็จะกลับคืนสู่ความสงบ และช่วงที่ผ่านมาก็ไม่มีผลกระทบอะไรที่ร้ายแรงมากนัก ครั้งนี้ เราก็คาดหวังว่าจะผ่านไปได้เช่นกัน
-ภาวะการเมืองแบบนี้อยากให้รัฐบาลช่วยอะไร
ในฐานะนักธุรกิจไม่อยากให้รัฐบาลมาช่วยยี่ห้อใด ยี่ห้อหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะเราเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าอยู่แล้ว รัฐบาลก็ควรจะสนับสนุนอุตสหกรรมยานยนต์โดยรวมอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้คิดถึงภาพรวม
-ปัจจัยเสี่ยงในการทำธุรกิจ
ผมคิดว่าเศรษฐกิจจีน จะมีผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยมีปัญหา ขณะเดียวกันจีนก็มีปัญหาทางด้านการเมืองด้วย ก็เป็นปัจจัยเสี่ยอีกอันหนึ่ง นอกจากนี้ ก็มีปัจจัยจากภัยธรรมชาติ เดี๋ยวนี้ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมาสร้างความเสี่ยงหายมาก และคาดเดาไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดย่อมส่งผลกระทบมาถึงเราด้วย เรื่องพวกนี้จะว่าไปมีผลกระทบมากกว่าค่าเงินบาทเสียอีก