หลายคนคงกำลังรอลุ้น “อีซูซุ มิว-7” โฉมใหม่ ว่าจะเปิดตัวบุกตลาดในไทยเมื่อไหร่? ท่ามกลางกระแสข่าวมาแน่ภายในสิ้นปีนี้ และเป็นการพัฒนาใหม่ ไม่ใช่ปรับปรุงจาก เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ขณะที่รถอเนกประสงค์รุ่นอื่นๆ ยังไม่มีการขยับโมเดลเชนจ์ เพราะต้องรอปิกอัพโฉมใหม่ ทั้งโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หรือมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งตามกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปีแน่ๆ หรือที่น่าจะมาแล้วอย่าง “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” ยังต้องรออีกเป็นปี หรือเร็วสุดน่าจะเป็นปลายปีหน้า ช่วงนี้จึงเห็นในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเอเวเรสต์และปาเจโร สปอร์ต ปรับโฉมเวอร์ชันประจำปีไปก่อน
เริ่มจากบ้านใกล้เรือนเคียงประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนที่ผ่านมา ฟอร์ดได้แนะนำรถอเนกประสงค์ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” เวอร์ชั่นประจำปี 2013 สู่ตลาด ซึ่งเป็นการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ โดยรูปลักษณ์ใหม่นี้คงเห็นเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ไปบ้างแล้ว เพราะเป็นเวอร์ชันเดียวกับที่เปิดตัวในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนก่อน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงใหม่จะเป็นกระจังหน้า แต่ที่เห็นชัดเจนย่อมเป็นกันชนหน้าใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเอสยูวีเล็ก ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ที่กำลังจะเปิดตัวในไทยปลายปีนี้
ขณะที่ภายในได้มีการปรับแผงคอนโซลตรงกลาง และพวงมาลัยใหม่ เป็นต้น ส่วนขุมพลังวางเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร TDCI VGT กำลัง 143 แรงม้า ที่ 3,5000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 รอบต่อนาที โดยในอินโดนีเซียทำตลาด 4 รุ่น ทั้งแบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD ราคาเริ่มต้นที่ 356,800,000 รูเปีย
ข้ามไปยังประเทศออสเตรเลีย มิตซูบิชิได้แนะนำรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ชาลเลนเจอร์ หรือ “ปาเจโร สปอร์ต” เวอร์ชั่นปี 2014 สู่ตลาดเมื่อเดือนที่ผ่านมาเช่นกัน โดยได้มีการปรับรูปลักษณ์ที่เห็นชัดเจน เป็นในส่วนของกระจังหน้าใหม่ ที่ดูแล้วเหมือนกับกำลังพนมมือมาก และเป็นไปตามธรรมเนียมนิยม ย่อมต้องเปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ และไฟตัดหมอกด้วย โดยตลาดออสเตรเลียได้ถอดรุ่น 2 WD เหลือทำตลาดเพียงรุ่น 4WD เท่านั้น
ขุมพลังมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ในตลาดออสเตรเลีย มาจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร เทอร์โบ 176 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที (เกียร์ธรรมดา) และ 1,800 รอบต่อนาที(อัตโนมัติ) ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 42,490 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
การปรับแต่งหน้าตาของรถอเนกประสงค์ทั้งสองโมเดลนี้ในต่างประเทศ เป็นเรื่องปกติทางการตลาด ซึ่งโมเดลนี้จะต้องทำตลาดไปอีกสักเกือบ 2 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะต้องรอให้ไทยเปิดตัวรุ่นโมเดลเชนจ์ก่อน ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตรถประเภทนี้ และกว่าโฉมใหม่ทั้งสองรุ่นจะลงสู่ตลาด อย่างเร็วสุดคงอีกเป็นปี ดังนั้นระหว่างรอนี้มาลุ้นกัน ว่าฟอร์ดและมิตซูบิชิจะนำเวอร์ชั่นปรับโฉมดังกล่าว มาแนะนำสู่ตลาดเป็นครั้งสุดท้ายอีกหรือไม่?
ที่มาและภาพ... thecardriving
เริ่มจากบ้านใกล้เรือนเคียงประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนที่ผ่านมา ฟอร์ดได้แนะนำรถอเนกประสงค์ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” เวอร์ชั่นประจำปี 2013 สู่ตลาด ซึ่งเป็นการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ โดยรูปลักษณ์ใหม่นี้คงเห็นเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ไปบ้างแล้ว เพราะเป็นเวอร์ชันเดียวกับที่เปิดตัวในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนก่อน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงใหม่จะเป็นกระจังหน้า แต่ที่เห็นชัดเจนย่อมเป็นกันชนหน้าใหม่ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเอสยูวีเล็ก ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ที่กำลังจะเปิดตัวในไทยปลายปีนี้
ขณะที่ภายในได้มีการปรับแผงคอนโซลตรงกลาง และพวงมาลัยใหม่ เป็นต้น ส่วนขุมพลังวางเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร TDCI VGT กำลัง 143 แรงม้า ที่ 3,5000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 รอบต่อนาที โดยในอินโดนีเซียทำตลาด 4 รุ่น ทั้งแบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD ราคาเริ่มต้นที่ 356,800,000 รูเปีย
ข้ามไปยังประเทศออสเตรเลีย มิตซูบิชิได้แนะนำรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ชาลเลนเจอร์ หรือ “ปาเจโร สปอร์ต” เวอร์ชั่นปี 2014 สู่ตลาดเมื่อเดือนที่ผ่านมาเช่นกัน โดยได้มีการปรับรูปลักษณ์ที่เห็นชัดเจน เป็นในส่วนของกระจังหน้าใหม่ ที่ดูแล้วเหมือนกับกำลังพนมมือมาก และเป็นไปตามธรรมเนียมนิยม ย่อมต้องเปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ และไฟตัดหมอกด้วย โดยตลาดออสเตรเลียได้ถอดรุ่น 2 WD เหลือทำตลาดเพียงรุ่น 4WD เท่านั้น
ขุมพลังมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ในตลาดออสเตรเลีย มาจากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร เทอร์โบ 176 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที (เกียร์ธรรมดา) และ 1,800 รอบต่อนาที(อัตโนมัติ) ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 42,490 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
การปรับแต่งหน้าตาของรถอเนกประสงค์ทั้งสองโมเดลนี้ในต่างประเทศ เป็นเรื่องปกติทางการตลาด ซึ่งโมเดลนี้จะต้องทำตลาดไปอีกสักเกือบ 2 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะต้องรอให้ไทยเปิดตัวรุ่นโมเดลเชนจ์ก่อน ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตรถประเภทนี้ และกว่าโฉมใหม่ทั้งสองรุ่นจะลงสู่ตลาด อย่างเร็วสุดคงอีกเป็นปี ดังนั้นระหว่างรอนี้มาลุ้นกัน ว่าฟอร์ดและมิตซูบิชิจะนำเวอร์ชั่นปรับโฉมดังกล่าว มาแนะนำสู่ตลาดเป็นครั้งสุดท้ายอีกหรือไม่?
ที่มาและภาพ... thecardriving