มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย หรือ “เอ็มจีซี” ของตระกูล “ธรรมชวนวิริยะ” สยายปีกในวงการยานยนต์ไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายรถสปอร์ตหรูจากอังกฤษ “แอสตัน มาร์ติน” คาดจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ พร้อมทำตลาดรถยนต์ 4 รุ่นหลักทั้ง ดีบี9 แวนควิช ราปิด และแวนเทจ เล็งเปิดเอาท์เล็ตใหม่ที่ออโต โซน สยามพารากอน และยึดชั้นสองของโชว์รูม“โรลส์-รอยซ์”ถนนพระราม3 เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ ดูแลการขายและบริการหลังการขายครบวงจร
แบรนด์รถสปอร์ตหรูจากอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่าง “แอสตัน มาร์ติน” (Aston Martin) หรือที่คุ้นชินกันว่า “รถเจมส์ บอนด์” เนื่องจากถูกนำมาใช้เป็นพาหนะคู่ใจของพระเอก 007 ในภาพยนต์หลายยุคหลายสมัย แม้การดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาจะออกแนวลุ่มๆดอนๆ จากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจ จากเจ้าของเดิม“ฟอร์ด” มาสู่ผู้ถือหุ้นหลายราย ทั้ง “อินเวสอินดัสเตรียล” “อินเวสเมนต์ ดาห์” “เดวิด ริชาร์ด” (เจ้าของโปรไดร์ฟบริษัทผู้บริหารทีมแข่งรถยนต์) ฯ
ขณะที่ประเทศไทย “นิชคาร์” ที่เคยประกาศตัวเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็ถอดใจไม่ลุยตลาดต่อ จนเกิดช่วงสูญญากาศที่ความเคลื่อนไหวของ“แอสตัน มาร์ติน”หายไปนาน 2-3 ปี ล่าสุดบริษัท แอสตัน มาร์ติน ลากอนดา จำกัด ประเทศอังกฤษ เจ้าของแบรนด์ “แอสตัน มาร์ติน” ได้พันธมิตรใหม่ในไทยและพร้อมที่จะกลับมาฟื้นธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการแต่งตั้งให้ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย ภายใต้การนำของ “สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” เป็นผู้ได้สิทธิ์นำเข้าและดูแลตลาดในไทยต่อไป
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า “มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย” หรือ “เอ็มจีซี” กำลังอยู่ในช่วงขึ้นหม้อ ด้วยการ ขยายธุรกิจในแวดวงยานยนต์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขายรถมือสอง(มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์),ธุรกิจรถเช่า(Sixt), ศูนย์ดูแล-ซ่อมบำรุงรถครบวงจร (เอ็มเอ็มเอส-บ๊อช คาร์ เซอร์วิส) และธุรกิจสร้างชื่ออย่างการเป็นดีลเลอร์ขาย บีเอ็มดับเบิลยู มินิ ฮอนด้า และอัครยานยนต์โรลส์-รอยซ์
สำหรับโรลส์-รอยซ์ ที่ดูแลงานภายใต้บริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปีที่แล้ว ก็ลุยทำตลาดต่อเนื่องทั้งการเปิดตัวรถใหม่ การเปิดโชว์รูม และล่าสุดยังเปิดโปรแกรมรถมือสอง ซึ่งการบริหารงานโดยรวมถือว่าสร้างภาพลักษณ์ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้กับแบรนด์ดังจากอังกฤษได้ดีพอสมควร
ส่วน“แอสตัน มาร์ติน” แบรนด์ใหม่ในบ้านของ“เอ็มจีซี” คาดว่าจะจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมแจกแจงรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ และเปิดตัวผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามาดูแลในเร็วๆนี้ หรือกำหนดไว้ไม่เกินไตรมาสสามของปี
โดยงานหลักในปีแรกคือ การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่นด้วยโปรดักต์คุณภาพ การบริการหลังการขาย ซึ่งตามแผนงาน “แอสตัน มาร์ติน” เตรียมเปิดเอาท์เล็ตใหม่ที่ ออโตโซน สยามพารากอน หวังดึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และเปรียบเสมือนการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไปในตัว ซึ่งเอาท์เล็ตดังกล่าวจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับ บูติกโชว์รูมของโรลส์-รอยซ์นั่นเอง ขณะเดียวกันยังเตรียมเนรมิตพื้นที่ชั้นสองของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก บนถนนพระราม 3 ให้เป็นโชว์รูมอันทันสมัยและมีเอกลักษณ์ ส่วนด้านล่างก็จะแบ่งพื้นที่ใช้เป็นศูนย์บริการมาตรฐานดูแลการซ่อมบำรุงและสต็อกอะไหล่
ในส่วนของโปรดักต์ที่จะนำเข้ามายั่วใจเศรษฐีไทยเท้าหนัก คาดว่าจะมีครบทุกรุ่นหลัก ไล่ตั้งแต่ สปอร์ตคูเป้รุ่นใหญ่ “แวนควิช” (Vanquish) ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว โดดเด่นด้วยสมรรถนะน้องๆซูเปอร์คาร์กับเครื่องยนต์ วี12 ขนาด 6.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 573 แรงม้า ที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63.2 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 295 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังเตรียมนำเข้าสปอร์ตคูเป้ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน อย่างรุ่น “ดีบี9” (DB9) ที่ให้สมรรถนะความเร้าใจไม่แพ้กันกับเครื่องยนต์ วี12 ขณะที่สปอร์ตคูเป้ไซส์เล็กอย่าง “แวนเทจ” (Vantage) น่าจะมากับเครื่องยนต์ วี8 ซึ่งทั้งรุ่น“ดีบี9” กับ “แวนเทจ” อาจจะมีตัวถังให้เลือกทั้งคูเป้และเปิดประทุน
เหนืออื่นใดสำหรับใครชื่นชอบรถสปอร์ตซีดาน ยังมี“แอสตัน มาร์ติน ราปิด” ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันS ตัวแรงที่รีดพลังจากเครื่องยนต์วี12 ขนาด 6.0 ลิตร ออกมาได้ถึง 550 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด305 กม./ชม. ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงน่าจะมีราคาค่าตัวแถวๆ 20 ล้านบาท ส่วนคนที่อยากสัมผัสความแปลกใหม่กับซิตี้คาร์ตัวเล็กรุ่น Cygnet ที่แชร์พื้นฐานเดียวกับ “โตโยต้า ไอคิว” คงต้องผิดหวัง เพราะแอสตัน มาร์ตินยังไม่มีแผนนำเข้ามาขายในไทย
…น่าสนใจว่าการกลับมาของ“แอสตัน มาร์ติน” จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถสปอร์ตหรูระดับไฮเอนด์ได้ขนาดไหน เพราะเมื่อย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่กับ “มาสเตอร์ กรุ๊ป” แล้ว...งานนี้ไม่ธรรมดา และคงต้องดูกันยาวๆต่อไป
แบรนด์รถสปอร์ตหรูจากอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่าง “แอสตัน มาร์ติน” (Aston Martin) หรือที่คุ้นชินกันว่า “รถเจมส์ บอนด์” เนื่องจากถูกนำมาใช้เป็นพาหนะคู่ใจของพระเอก 007 ในภาพยนต์หลายยุคหลายสมัย แม้การดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาจะออกแนวลุ่มๆดอนๆ จากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจ จากเจ้าของเดิม“ฟอร์ด” มาสู่ผู้ถือหุ้นหลายราย ทั้ง “อินเวสอินดัสเตรียล” “อินเวสเมนต์ ดาห์” “เดวิด ริชาร์ด” (เจ้าของโปรไดร์ฟบริษัทผู้บริหารทีมแข่งรถยนต์) ฯ
ขณะที่ประเทศไทย “นิชคาร์” ที่เคยประกาศตัวเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็ถอดใจไม่ลุยตลาดต่อ จนเกิดช่วงสูญญากาศที่ความเคลื่อนไหวของ“แอสตัน มาร์ติน”หายไปนาน 2-3 ปี ล่าสุดบริษัท แอสตัน มาร์ติน ลากอนดา จำกัด ประเทศอังกฤษ เจ้าของแบรนด์ “แอสตัน มาร์ติน” ได้พันธมิตรใหม่ในไทยและพร้อมที่จะกลับมาฟื้นธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการแต่งตั้งให้ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย ภายใต้การนำของ “สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” เป็นผู้ได้สิทธิ์นำเข้าและดูแลตลาดในไทยต่อไป
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า “มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย” หรือ “เอ็มจีซี” กำลังอยู่ในช่วงขึ้นหม้อ ด้วยการ ขยายธุรกิจในแวดวงยานยนต์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขายรถมือสอง(มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์),ธุรกิจรถเช่า(Sixt), ศูนย์ดูแล-ซ่อมบำรุงรถครบวงจร (เอ็มเอ็มเอส-บ๊อช คาร์ เซอร์วิส) และธุรกิจสร้างชื่ออย่างการเป็นดีลเลอร์ขาย บีเอ็มดับเบิลยู มินิ ฮอนด้า และอัครยานยนต์โรลส์-รอยซ์
สำหรับโรลส์-รอยซ์ ที่ดูแลงานภายใต้บริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปีที่แล้ว ก็ลุยทำตลาดต่อเนื่องทั้งการเปิดตัวรถใหม่ การเปิดโชว์รูม และล่าสุดยังเปิดโปรแกรมรถมือสอง ซึ่งการบริหารงานโดยรวมถือว่าสร้างภาพลักษณ์ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้กับแบรนด์ดังจากอังกฤษได้ดีพอสมควร
ส่วน“แอสตัน มาร์ติน” แบรนด์ใหม่ในบ้านของ“เอ็มจีซี” คาดว่าจะจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมแจกแจงรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ และเปิดตัวผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามาดูแลในเร็วๆนี้ หรือกำหนดไว้ไม่เกินไตรมาสสามของปี
โดยงานหลักในปีแรกคือ การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่นด้วยโปรดักต์คุณภาพ การบริการหลังการขาย ซึ่งตามแผนงาน “แอสตัน มาร์ติน” เตรียมเปิดเอาท์เล็ตใหม่ที่ ออโตโซน สยามพารากอน หวังดึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และเปรียบเสมือนการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไปในตัว ซึ่งเอาท์เล็ตดังกล่าวจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับ บูติกโชว์รูมของโรลส์-รอยซ์นั่นเอง ขณะเดียวกันยังเตรียมเนรมิตพื้นที่ชั้นสองของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก บนถนนพระราม 3 ให้เป็นโชว์รูมอันทันสมัยและมีเอกลักษณ์ ส่วนด้านล่างก็จะแบ่งพื้นที่ใช้เป็นศูนย์บริการมาตรฐานดูแลการซ่อมบำรุงและสต็อกอะไหล่
ในส่วนของโปรดักต์ที่จะนำเข้ามายั่วใจเศรษฐีไทยเท้าหนัก คาดว่าจะมีครบทุกรุ่นหลัก ไล่ตั้งแต่ สปอร์ตคูเป้รุ่นใหญ่ “แวนควิช” (Vanquish) ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปีที่แล้ว โดดเด่นด้วยสมรรถนะน้องๆซูเปอร์คาร์กับเครื่องยนต์ วี12 ขนาด 6.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 573 แรงม้า ที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63.2 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 295 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังเตรียมนำเข้าสปอร์ตคูเป้ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน อย่างรุ่น “ดีบี9” (DB9) ที่ให้สมรรถนะความเร้าใจไม่แพ้กันกับเครื่องยนต์ วี12 ขณะที่สปอร์ตคูเป้ไซส์เล็กอย่าง “แวนเทจ” (Vantage) น่าจะมากับเครื่องยนต์ วี8 ซึ่งทั้งรุ่น“ดีบี9” กับ “แวนเทจ” อาจจะมีตัวถังให้เลือกทั้งคูเป้และเปิดประทุน
เหนืออื่นใดสำหรับใครชื่นชอบรถสปอร์ตซีดาน ยังมี“แอสตัน มาร์ติน ราปิด” ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันS ตัวแรงที่รีดพลังจากเครื่องยนต์วี12 ขนาด 6.0 ลิตร ออกมาได้ถึง 550 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด305 กม./ชม. ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงน่าจะมีราคาค่าตัวแถวๆ 20 ล้านบาท ส่วนคนที่อยากสัมผัสความแปลกใหม่กับซิตี้คาร์ตัวเล็กรุ่น Cygnet ที่แชร์พื้นฐานเดียวกับ “โตโยต้า ไอคิว” คงต้องผิดหวัง เพราะแอสตัน มาร์ตินยังไม่มีแผนนำเข้ามาขายในไทย
…น่าสนใจว่าการกลับมาของ“แอสตัน มาร์ติน” จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถสปอร์ตหรูระดับไฮเอนด์ได้ขนาดไหน เพราะเมื่อย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่กับ “มาสเตอร์ กรุ๊ป” แล้ว...งานนี้ไม่ธรรมดา และคงต้องดูกันยาวๆต่อไป