เข้าสู่ช่วงหน้าฝนทีไร สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำคงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนักบิดบิ๊กไบค์ แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่นิยมออกทริปในช่วงนี้ แต่คงมีบ้างที่ขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของยางที่ใช้บนถนนสภาพพื้นเปียกลื่น คงเป็นสิ่งที่หลายคนพึงเลือกกระทำเพื่อความสบายใจ แต่ตามหลักความเป็นจริงแล้วจำเป็นหรือไม่...ตอบโจทย์ไขข้อข้องใจโดย ปฏิภาณ ศิริจำรูญวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมเพททิชันนี่ โมโต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายยางพิเรลลี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมให้คำแนะนำ...
ความสำคัญของยาง
อันดับแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ยางเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากและเป็นเพียงส่วนเดียวที่ยึดเกาะกับพื้นถนน โดยการเลือกใช้ยางที่ดีมีคุณภาพจะส่งผลโดยตรงสำหรับความปลอดภัยของผู้ที่ขี่บิ๊กไบค์ ซึ่งส่วนใหญ่จะวิ่งด้วยความเร็วสูงมากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป
บนทางตรงอาจไม่แตกต่าง แต่ขณะวิ่งในทางโค้ง พื้นที่หน้าสัมผัสของยางบิ๊กไบค์จะเทียบเท่าเพียงความสูงของขนาดบัตรประชาชนเท่านั้น หากอุปกรณ์ส่วนอื่นไม่ดียังพอถูไถใช้งานได้บ้าง แต่ถ้ายางไม่ดีหรือเสื่อมสภาพแล้ว เมื่อนำไปใช้ผู้ขี่ย่อมมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยแน่นอน
เปลี่ยนยางรับหน้าฝน
สำหรับพฤติกรรมและความเชื่อของผู้บริโภคที่ว่า เมื่อเข้าสู่หน้าฝนต้องเปลี่ยนใช้ยางที่วิ่งบนพื้นเปียก อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะถ้าเป็นยางที่ใช้วิ่งบนท้องถนนจะไม่มีแบ่งประเภทว่า ใช้บนพื้นแห้งหรือพื้นเปียก ซึ่งจะมีแต่ยางสำหรับใช้ในการแข่งขันเท่านั้นที่แยกประเภทชัดเจน เนื่องจากในสนามต้องเน้นผลการแข่งขัน การเลือกใช้ยางต้องการประสิทธิภาพสูงที่สุดเพียงด้านเดียวหรือเป็นไปในลักษณะเฉพาะ
ส่วนยางที่ใช้วิ่งบนถนน ไม่ว่าพื้นเปียกหรือแห้งก็สามารถใช้งานได้ เพียงแต่คุณสมบัติจะแตกต่างกันตามส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในเนื้อยาง รวมถึงลักษณะของลายดอกยางที่ปรากฎอยู่บนพื้นผิว ยิ่งมีเส้นสายหรือลวดลายมากเท่าไรก็จะยิ่งรีดน้ำได้ดีกว่าพวกที่มีลายน้อยกว่า ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ฝนตกถนนเปียกหรือพื้นแห้งเป็นปกติก็ใช้ยางเดิมวิ่งได้ ส่วนเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนยาง คือ เมื่อดอกยางหมดหรือเสื่อมสภาพการใช้งานแล้ว
ขณะที่ข้อควรระวังหากเปลี่ยนยางใหม่ ต้องดูว่าใส่ยางตามการหมุนของลูกศรที่ระบุไว้หรือไม่ เพราะมีผลต่อการสึกหรอของหน้ายางที่ไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการรีดน้ำจะผิดเพี้ยนไปหมด หรืออาจจะเกิดอันตรายที่ตามมา เนื่องจากกระบวนการผลิตยางจะมีรอยเชื่อมในแนวเฉียง ถ้าใส่ย้อนลายลูกศร โอกาสที่ยางจะฉีกขาดหรือระเบิดสามารถเกิดขึ้นได้
เช็กความพร้อมก่อนเดินทาง
การตรวจสอบความพร้อมของยางเบื้องต้น ทุกคนสามารถทำได้และเป็นสิ่งที่ควรทำด้วย ไม่ว่าจะช่วงฤดูฝนหรือช่วงไหนก็ตาม ก่อนอื่นให้ลองใช้เล็บจิก สังเกตเนื้อยางยังนิ่มหรือไม่ ถือเป็นวิธีตรวจสอบอันดับต้นๆ ที่นิยมใช้กัน หากรู้สึกว่ายังพอกดได้ เนื้อยางยังไม่แข็ง ถือว่าพอใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยน
แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ บางคนจิกแล้วบอกว่ายังกดลงได้ ทั้งนี้ ให้ลองจิกยางใหม่เปรียบเทียบดูความแตกต่างด้วย และต่อมาดูที่พื้นผิว หากเห็นว่าเริ่มแตกลาย โดยลักษณะนี้จะมาพร้อมอาการแข็งของเนื้อยาง ซึ่งแสดงว่ายางเสื่อมสภาพแล้วเช่นกัน
เก็บรักษายืดอายุการใช้งาน
สำหรับยางใหม่ยังไม่ผ่านการใช้งานจะมีอายุขัยประมาณ 5 ปี โดยมีข้อแม้ว่าต้องจัดเก็บอย่างถูกวิธีด้วย ซึ่งถือว่ายังสามารถนำมาใช้งานได้ จุดสังเกตคือ สัปดาห์และปีผลิตที่ระบุบนแก้มยาง แต่ถ้าเป็นยางที่ใส่กับรถไปแล้วจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ขณะเดียวกัน ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บด้วย อย่างบางคนจอดรถในห้องแอร์ แม้ว่าจะนานเกิน 2 ปีแล้วก็ตาม ลองจิกเนื้อยางดูยังนิ่ม แบบนี้ก็ยังใช้งานได้สบาย
คำแนะนำสำหรับนักบิดที่ไม่ค่อยได้ขี่รถ การเติมลมควรเติมมากกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากยางเป็นวัสดุที่มีการซึมของลมผ่านพื้นผิวได้ ส่วนการจอดควรขึ้นสแตนด์ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อป้องกันแรงกดทับบนหน้ายาง หากใช้ขาตั้งข้างให้ขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
ข้อระวังอีกอย่างคือ อย่าให้ตากแดดหรือใกล้ความร้อน รวมทั้งการถูกสารเคมีเวลาล้างรถ ซึ่งยางสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้โดยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างรถ แต่ไม่ควรเคลือบแว็กซ์ เพราะนอกจากจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติแล้ว แม้จะเคลือบแค่ตรงบริเวณแก้มยางก็ตาม แต่เวลาขี่มันจะกระเด็นขึ้นมาตรงหน้ายาง ทำให้ลื่นไถลได้
นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ต้องดูแลควบคู่กันด้วย คือ จุ๊บเติมลม ควรเปลี่ยนทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง และหมั่นตรวจสอบว่ามันเสื่อมสภาพหรือไม่ เพราะเวลาเติมลมองศาจะติดกับจานเบรก เราต้องดึงมันเอียงออกด้านข้าง อาจจะแก้ปัญหาโดยใช้จุ๊บของแต่งแบบหันออกข้างก็ได้
ยางมือสองประหยัดแต่เสี่ยง
สำหรับยางเปอร์เซ็นต์หรือยางมือสอง ไม่แนะนำให้ใช้ แม้จะประหยัดเงินกว่าการซื้อยางใหม่ก็ตาม หากมองที่คุณภาพและความปลอดภัยก็ลดลงมาตามราคาด้วย แต่ถึงที่สุดแล้วถ้ามีความจำเป็นต้องเลือกใช้จริงๆ ควรตัดสินใจจากปีที่ผลิตไม่ควรเกิน 3 ปี ควบคู่กับสภาพภายนอก ดอกยางยังหนา เนื้อยางต้องนิ่ม ไม่แข็งหรือแตกลาย รูปทรงต้องโค้งมนไม่เหลี่ยมหรือเป็นสัน อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้คิด ประหยัดเงินแต่มีความเสี่ยง พิจารณาเอาเองว่าคุ้มค่าหรือไม่
*** ทางเว็บ Motoring แจกบัตรสำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายน 2556 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี หนึ่งท่านรับได้ 2 ใบ (บัตรมีจำนวนจำกัด) รับได้ที่หนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการ” ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่ 8.30 - 17.30 น. เบอร์ติดต่อ 02-629-4488 ***