ข่าวในประเทศ-YOKOHAMA รุกตลาดเก๋งเล็ก เปิดตัวยางรุ่นใหม่ บลูเอิร์ธ เออี 01 ชูจุดเด่นรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้สมรรถนะดีเยี่ยม ช่วยประหยัดน้ำมันและตอบสนองทุกการขับขี่ รองรับกลุ่มรถยอดนิยมทั้งอีโคคาร์, ซิตี้คาร์ และซับคอมแพกต์คาร์หลายรุ่น ตั้งเป้าขาย 50,000 เส้นภายในสิ้นปี 2556
ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแนะนำยางรถยนต์รุ่นใหม่ บลูเอิร์ธ เออี 01 (BluEarth AE01) เป็นยางที่เปี่ยมสมรรถนะและให้ประสิทธิภาพสูงสุดในทุกภาวะการขับขี่บนถนนของเมืองไทย รองรับกลุ่มรถยนต์ยอดนิยมหลากหลายรุ่น อาทิ Honda Brio, Honda Brio Amaze, Mitsubishi Mirage, Nissan March และกลุ่มรถซิตี้คาร์และซับคอมแพกต์คาร์ที่สามารถใช้ยางรุ่นนี้ได้คือ Honda Jazz, Honda City, Honda Freed, Toyota Vios, Toyota Yaris, Chevrolet Sonic กลุ่มรถนั่งขนาดกลางหรือคอมแพกต์คาร์คือ Toyota Altis, Honda Civic 1.8
“ยางบลูเอิร์ธ เออี 01 มีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 13 ถึงขอบ 16 นิ้ว รวม 25 ขนาด มีราคาจำหน่าย 1,700-3,400 บาท ตอบสนองความต้องการของตลาดเมืองไทยและในภูมิภาคอาเซียนอย่างครบถ้วน ครอบคลุมรถยนต์อีโคคาร์ ซิตี้คาร์ และซับคอมแพกต์คาร์ เป็นยางที่นำมาทดแทนรุ่น A. drive ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางในกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นที่ 2 ของบริษัทในตลาดเมืองไทย แต่มีคุณสมบัติยึดเกาะถนนเพิ่มขึ้น 20% ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่ยุโรป ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ในหลายประเทศ โดยสถาบันทดสอบยางรถยนต์ชั้นนำของเยอรมนี (TUV) ได้ทดสอบประสิทธิภาพยางบลูเอิร์ธ เออี 01 และออกเอกสารรับรองว่า มีประสิทธิภาพเหนือกว่ายางแบรนด์ดังๆ ระดับโลกที่คนไทยรู้จักทุกยี่ห้อ”
สำหรับยางบลูเอิร์ธ เออี 01 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี “Nano Blend” สูตรใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ด้วยการผสานดีไซน์ลายดอกยาง เป็นทรงครีบโลมาที่โค้งโดดเด่นเข้าหาศูนย์กลางของยาง เพิ่มสมรรถนะการรีดน้ำ ยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียก และป้องกันการเหินน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ดอกยางแบบผสมที่ไหล่ยาง ระหว่างดอกยางขนาดใหญ่และเล็ก
ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ YOKOHAMA หันมาทำตลาดยางรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของเมืองไทยอย่างจริงจัง โดยจะใช้กลยุทธ์สื่อสารทางการตลาดเพื่อให้กลุ่มลูกค้ารับรู้ถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะรวม จุดเด่นในด้านต่างๆ ของยางบลูเอิร์ธ เออี ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี, วิทยุ, สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนี้ เป็นต้นไป ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายยางรถยนต์ YOKOHAMA กว่า 260 แห่ง และศูนย์บริการยางมาตรฐาน YCN หรือ YOKOHAMA Club Network ทั่วประเทศไทย
“ตั้งเป้ายอดขายยางรุ่นนี้ไว้ที่ 50,000 เส้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายที่บริษัทตั้งเป้าไว้ 350,000 เส้นในปีนี้ เนื่องจากยาง A.drive ที่เคยทำตลาดมาก่อนหน้า ไม่เคยเน้นการโปรโมต แต่สามารถประสบความสำเร็จทางยอดขาย อีกทั้งบลูเอิร์ธ เออี 01 เป็นยางที่มีสมรรถนะสูงกว่าในทุกๆ ด้าน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงจัดแคมเปญมอบให้แก่ผู้ใช้ในช่วงเปิดตัวแนะนำ เมื่อเปลี่ยนยางบลูเอิร์ธ เออี 01 จำนวน 4 เส้น รับฟรีกระเป๋าสะพายพรีเมียมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ”
ส่วนสถานการณ์ตลาดยางรถยนต์เมืองไทยที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากยางรถยนต์คุณภาพต่ำราคาถูกจากประเทศจีนที่เข้ามาแข่งขันในตลาดนั้น ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ YOKOHAMA เนื่องจากอยู่คนละเซกเมนท์ แต่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยอย่างแน่นอน
“ยางรถยนต์คุณภาพต่ำราคาถูกจากจีน ทำให้เกิดการแข่งขันรุนแรงในกลุ่มตลาดล่าง ดังนั้นผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ต้องหาทางรับมือ ถ้าเป็นตลาดทั่วไปที่ไม่ใช่ยางพรีเมียมอย่าง YOKOHAMA ควรใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดให้มากเพื่อสร้างการรับรู้ถึงคุณสมบัติและสมรรถนะของผลิตภัณฑ์ว่า มีคุณภาพสูงกว่าในราคาที่คุ้มค่า ไม่ควรลงไปเล่นสงครามราคา ขณะที่ผู้บริโภคต้องไม่ลืมว่า ความปลอดภัยในชีวิตถือเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพ ย่อมช่วยให้ผู้ใช้รถและผู้ใช้ถนนเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น ยางที่ไม่มีคุณภาพย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งหลักการนี้นำมาใช้รับมือกับการเกิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ได้เช่นกัน เนื่องจาก AEC ไม่ใช่จะมีแต่ผู้ประกอบการจากชาติอาเซียนเท่านั้น แต่ยังมีอินเดียและเกาหลีที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น ส่วนการปรับราคายางของบริษัทยังไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ แต่ทราบข่าวจากประเทศญี่ปุ่นว่าผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกสัญชาติยุโรปจะปรับราคายางขึ้นในเร็วๆ นี้ราว 4-7%” ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าว
ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแนะนำยางรถยนต์รุ่นใหม่ บลูเอิร์ธ เออี 01 (BluEarth AE01) เป็นยางที่เปี่ยมสมรรถนะและให้ประสิทธิภาพสูงสุดในทุกภาวะการขับขี่บนถนนของเมืองไทย รองรับกลุ่มรถยนต์ยอดนิยมหลากหลายรุ่น อาทิ Honda Brio, Honda Brio Amaze, Mitsubishi Mirage, Nissan March และกลุ่มรถซิตี้คาร์และซับคอมแพกต์คาร์ที่สามารถใช้ยางรุ่นนี้ได้คือ Honda Jazz, Honda City, Honda Freed, Toyota Vios, Toyota Yaris, Chevrolet Sonic กลุ่มรถนั่งขนาดกลางหรือคอมแพกต์คาร์คือ Toyota Altis, Honda Civic 1.8
“ยางบลูเอิร์ธ เออี 01 มีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 13 ถึงขอบ 16 นิ้ว รวม 25 ขนาด มีราคาจำหน่าย 1,700-3,400 บาท ตอบสนองความต้องการของตลาดเมืองไทยและในภูมิภาคอาเซียนอย่างครบถ้วน ครอบคลุมรถยนต์อีโคคาร์ ซิตี้คาร์ และซับคอมแพกต์คาร์ เป็นยางที่นำมาทดแทนรุ่น A. drive ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางในกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นที่ 2 ของบริษัทในตลาดเมืองไทย แต่มีคุณสมบัติยึดเกาะถนนเพิ่มขึ้น 20% ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่ยุโรป ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ในหลายประเทศ โดยสถาบันทดสอบยางรถยนต์ชั้นนำของเยอรมนี (TUV) ได้ทดสอบประสิทธิภาพยางบลูเอิร์ธ เออี 01 และออกเอกสารรับรองว่า มีประสิทธิภาพเหนือกว่ายางแบรนด์ดังๆ ระดับโลกที่คนไทยรู้จักทุกยี่ห้อ”
สำหรับยางบลูเอิร์ธ เออี 01 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี “Nano Blend” สูตรใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ด้วยการผสานดีไซน์ลายดอกยาง เป็นทรงครีบโลมาที่โค้งโดดเด่นเข้าหาศูนย์กลางของยาง เพิ่มสมรรถนะการรีดน้ำ ยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียก และป้องกันการเหินน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ดอกยางแบบผสมที่ไหล่ยาง ระหว่างดอกยางขนาดใหญ่และเล็ก
ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ YOKOHAMA หันมาทำตลาดยางรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของเมืองไทยอย่างจริงจัง โดยจะใช้กลยุทธ์สื่อสารทางการตลาดเพื่อให้กลุ่มลูกค้ารับรู้ถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะรวม จุดเด่นในด้านต่างๆ ของยางบลูเอิร์ธ เออี ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี, วิทยุ, สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนี้ เป็นต้นไป ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายยางรถยนต์ YOKOHAMA กว่า 260 แห่ง และศูนย์บริการยางมาตรฐาน YCN หรือ YOKOHAMA Club Network ทั่วประเทศไทย
“ตั้งเป้ายอดขายยางรุ่นนี้ไว้ที่ 50,000 เส้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายที่บริษัทตั้งเป้าไว้ 350,000 เส้นในปีนี้ เนื่องจากยาง A.drive ที่เคยทำตลาดมาก่อนหน้า ไม่เคยเน้นการโปรโมต แต่สามารถประสบความสำเร็จทางยอดขาย อีกทั้งบลูเอิร์ธ เออี 01 เป็นยางที่มีสมรรถนะสูงกว่าในทุกๆ ด้าน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงจัดแคมเปญมอบให้แก่ผู้ใช้ในช่วงเปิดตัวแนะนำ เมื่อเปลี่ยนยางบลูเอิร์ธ เออี 01 จำนวน 4 เส้น รับฟรีกระเป๋าสะพายพรีเมียมที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ”
ส่วนสถานการณ์ตลาดยางรถยนต์เมืองไทยที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง เนื่องจากยางรถยนต์คุณภาพต่ำราคาถูกจากประเทศจีนที่เข้ามาแข่งขันในตลาดนั้น ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ YOKOHAMA เนื่องจากอยู่คนละเซกเมนท์ แต่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยอย่างแน่นอน
“ยางรถยนต์คุณภาพต่ำราคาถูกจากจีน ทำให้เกิดการแข่งขันรุนแรงในกลุ่มตลาดล่าง ดังนั้นผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ต้องหาทางรับมือ ถ้าเป็นตลาดทั่วไปที่ไม่ใช่ยางพรีเมียมอย่าง YOKOHAMA ควรใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดให้มากเพื่อสร้างการรับรู้ถึงคุณสมบัติและสมรรถนะของผลิตภัณฑ์ว่า มีคุณภาพสูงกว่าในราคาที่คุ้มค่า ไม่ควรลงไปเล่นสงครามราคา ขณะที่ผู้บริโภคต้องไม่ลืมว่า ความปลอดภัยในชีวิตถือเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพ ย่อมช่วยให้ผู้ใช้รถและผู้ใช้ถนนเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น ยางที่ไม่มีคุณภาพย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งหลักการนี้นำมาใช้รับมือกับการเกิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ได้เช่นกัน เนื่องจาก AEC ไม่ใช่จะมีแต่ผู้ประกอบการจากชาติอาเซียนเท่านั้น แต่ยังมีอินเดียและเกาหลีที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น ส่วนการปรับราคายางของบริษัทยังไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ แต่ทราบข่าวจากประเทศญี่ปุ่นว่าผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกสัญชาติยุโรปจะปรับราคายางขึ้นในเร็วๆ นี้ราว 4-7%” ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าว
