ข่าวต่างประเทศ-ข่าวดีสำหรับคนที่เฝ้ารอความสปอร์ตบนตัวถังเอสยูวีที่มีไซส์ประมาณ X3 เพราะในตอนนี้บีเอ็มดับเบิลยูยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า โปรเจกต์ X4 ที่จะทำตลาดกลุ่มนี้พร้อมเริ่มเปิดตัวปลายปี 2013 และตามด้วยการขายจริงในช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน
ข่าวนี้ได้รับการยืนยันผ่านทางถ้อยแถลงของ Dr. Norbert Reithofer ประธานบอร์ดบริหารของบีเอ็มดับเบิลยู เอจี ที่กล่าวขึ้นในงานประชุมแถลงข่าวประจำปี 2013 ซึ่งเขาระบุว่า X4 ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่โรงงานในเมืองสปาตานเบิร์ก มลรัฐเซาธ์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา จะเริ่มวางขายในช่วงปีหน้า เช่นเดียวกับการเปิดตัวรถยนต์รหัสใหม่อย่างรุ่นซีรีส์ 4
รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นมีความเหมือนกันคือ เป็นการแตกไลน์ทางด้านวิศวกรรรมมาจากรถยนต์ในรหัสซีรีส์ 3 และ X3 เพื่อสร้างความแตกต่างในด้านกลุ่มตลาด โดย X4 จะมีแนวคิดที่คล้ายกับ X6 ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนามาจาก X5 แต่จับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเอสยูวีแบบสปอร์ตที่เน้นความปราดเปรียว ขณะที่ซีรีส์ 4 นั้นเป็นข่าวมานานนับ 10 ปี ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูต้องการแยกตลาดของซีรีส์ 3 ตัวถังต่างๆ ให้ชัดเจน โดยซีรีส์ 4 จะเน้นทำตลาดสปอร์ต และมีตัวถังคูเป้ และเปิดประทุนที่พัฒนามาจากรถยนต์ซีรีส์ 3 ทำตลาด ซึ่งแนวคิดนี้ก็คล้ายกับที่ทำอยู่กับซีรีส์ 5 และ ซีรีส์ 6
ทาง Dr.Reithofer ยังกล่าวอีกว่า เฉพาะในปี 2013 เพียงปีเดียว บีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์รวมกัน 11 รุ่น ขณะที่ในปี 2014 จำนวนจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เพราะจะมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวถึง 25 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวรุ่นขายจริงของรถยนต์ประหยัดพลังงานในตระกูล i ซึ่งจะเริ่มขายด้วยรุ่น i3 ซึ่งพัฒนามาจากต้นแบบรุ่น Mega City และขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า
นอกจากนั้น ยังมีการประกาศกลยุทธ์ในการทำงานที่เรียกว่า Stragtegy Number ONE ซึ่งจะเป็นแนวทางในการทำงานและเป้าหมายที่บีเอ็มดับเบิลยูวางเอาไว้ ตลอดช่วง 3 ปีนับจากนี้จนถึงปี 2016 และจะเป็นปีที่บีเอ็มดับเบิลยูฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท โดยเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การผลิตและคิดค้นนวัตกรรมล้ำสมัยออกสู่ตลาด เช่นเดียวกับการแยกแบรนด์ในการทำตลาดอย่างชัดเจน เช่น กลุ่มรถยนต์ทั่วไปก็จะเป็นแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูปกติ ถ้าเป็นตลาดรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมก็จะเป็นแบรนด์ i และใช้แบรนด์ M สำหรับตลาดรถสปอร์ต
ข่าวนี้ได้รับการยืนยันผ่านทางถ้อยแถลงของ Dr. Norbert Reithofer ประธานบอร์ดบริหารของบีเอ็มดับเบิลยู เอจี ที่กล่าวขึ้นในงานประชุมแถลงข่าวประจำปี 2013 ซึ่งเขาระบุว่า X4 ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่โรงงานในเมืองสปาตานเบิร์ก มลรัฐเซาธ์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา จะเริ่มวางขายในช่วงปีหน้า เช่นเดียวกับการเปิดตัวรถยนต์รหัสใหม่อย่างรุ่นซีรีส์ 4
รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นมีความเหมือนกันคือ เป็นการแตกไลน์ทางด้านวิศวกรรรมมาจากรถยนต์ในรหัสซีรีส์ 3 และ X3 เพื่อสร้างความแตกต่างในด้านกลุ่มตลาด โดย X4 จะมีแนวคิดที่คล้ายกับ X6 ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนามาจาก X5 แต่จับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเอสยูวีแบบสปอร์ตที่เน้นความปราดเปรียว ขณะที่ซีรีส์ 4 นั้นเป็นข่าวมานานนับ 10 ปี ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูต้องการแยกตลาดของซีรีส์ 3 ตัวถังต่างๆ ให้ชัดเจน โดยซีรีส์ 4 จะเน้นทำตลาดสปอร์ต และมีตัวถังคูเป้ และเปิดประทุนที่พัฒนามาจากรถยนต์ซีรีส์ 3 ทำตลาด ซึ่งแนวคิดนี้ก็คล้ายกับที่ทำอยู่กับซีรีส์ 5 และ ซีรีส์ 6
ทาง Dr.Reithofer ยังกล่าวอีกว่า เฉพาะในปี 2013 เพียงปีเดียว บีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์รวมกัน 11 รุ่น ขณะที่ในปี 2014 จำนวนจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เพราะจะมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวถึง 25 รุ่น โดยหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวรุ่นขายจริงของรถยนต์ประหยัดพลังงานในตระกูล i ซึ่งจะเริ่มขายด้วยรุ่น i3 ซึ่งพัฒนามาจากต้นแบบรุ่น Mega City และขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า
นอกจากนั้น ยังมีการประกาศกลยุทธ์ในการทำงานที่เรียกว่า Stragtegy Number ONE ซึ่งจะเป็นแนวทางในการทำงานและเป้าหมายที่บีเอ็มดับเบิลยูวางเอาไว้ ตลอดช่วง 3 ปีนับจากนี้จนถึงปี 2016 และจะเป็นปีที่บีเอ็มดับเบิลยูฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท โดยเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การผลิตและคิดค้นนวัตกรรมล้ำสมัยออกสู่ตลาด เช่นเดียวกับการแยกแบรนด์ในการทำตลาดอย่างชัดเจน เช่น กลุ่มรถยนต์ทั่วไปก็จะเป็นแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูปกติ ถ้าเป็นตลาดรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมก็จะเป็นแบรนด์ i และใช้แบรนด์ M สำหรับตลาดรถสปอร์ต