กลายเป็นตัวถังใหม่ไปแล้ว และเป็นการเดินตามรอยการทำตลาดของซีรีส์ 5 เมื่อค่ายบีเอ็มดับเบิลยูปล่อยรหัส GT ซึ่งเป็นตัวถังท้ายลาดแบบ 5 ประตูที่เน้นความอเนกประสงค์ออกมาทำตลาด เพื่อแทรกกลางระหว่างเก๋งกับแวกอนได้อย่างลงตัว
ใครที่เป็นแฟนของบีเอ็มดับเบิลยูคงจะคุ้นเคยกับตัวถังแบบนี้กันแล้ว เพราะว่าค่ายใบพัดสีฟ้าเซอร์ไพรส์แฟนๆ ทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวรหัส GT ของซีรีส์ในรหัส F01/02 ออกมาก่อนที่ตัวถังหลักอย่างซีดาน และสเตชันแวกอนจะเปิดตัวออกมาเสียอีกจนทำให้เกิดกระแสการคาดเดาว่า บีเอ็มดับเบิลยูกำลังจะเปลี่ยนแนวคิดในการทำตลาดหรือเปล่า...แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่
และแนวคิดนี้ก็ถูกนำมาใช้กับซีรีส์ 3 ด้วยเช่นกัน โดยถือเป็นตัวถังที่ 3 ต่อจากซีดานและแวกอน ซึ่งคำว่า GT ย่อมาจาก Gran Turismo แต่ไม่ได้หมายถึงตัวถังที่เน้นความสปอร์ตเหมือนกับพวกรถสปอร์ตสไตล์ GT แต่เป็นการดัดแปลงตัวถังแบบ 4 ประตูให้มีส่วนผสมที่สวย สปอร์ต และอเนกประสงค์ขึ้น
ในแง่ของมิติตัวถังแล้วรุ่นนี้จะมีความยาวกว่าแวกอนถึง 200 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับระยะฐานล้อที่มีเพิ่มขึ้น 110 มิลลิเมตร และสูงขึ้น 81 มิลลิเมตร ส่วนเรื่องความอเนกประสงค์ของพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย จะมีความจุในระดับ 520 ลิตร เมื่อเบาะนั่งทุกตำแหน่งถูกปรับอยู่ระดับปกติ หรือมากกว่ารุ่นทัวริงอยู่ราวๆ 25 ลิตร
ทางเลือกของเครื่องยนต์จะมีเปลี่ยนไปตามตลาดในแต่ละภูมิภาค เช่น อเมริกาเหนือจะเริ่มกับรุ่น 328i ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ มีกำลังในระดับ 240 แรงม้า และ335i แบบ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ที่มีกำลัง 300 แรงม้า และจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ส่วนตลาดยุโรปจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 320i แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 184 แรงม้า ตามด้วย 328i แบบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 245 แรงม้า และ 335i แบบ 6 สูบ 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 306 แรงม้า ขณะที่ทางเลือกในแบบเทอร์โบดีเซลก็มีทั้งรุ่น 318d แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี 143 แรงม้า และ 184 แรงม้า ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมีอัตโนมัติ 8 จังหวะเป็นออพชั่นที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
การทำตลาดจะมีขึ้นในยุโรปช่วงเดือนมีนาคมนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมา
