ข่าวต่างประเทศ-เฟียตได้มาสด้าเป็นพันธมิตรในการสานฝันโปรเจกต์โรดสเตอร์ไซส์เล็กของแบรนด์ในเครืออย่างอัลฟาแล้ว เมื่อมีการยืนยันว่าทั้งคู่ได้ตกลงเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ โดยจะใช้โรงงานของมาสด้าในญี่ปุ่นเป็นฐานการผลิต
สิ่งที่น่าสนใจคือ โรดสเตอร์รุ่นใหม่ของอัลฟาจะแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับมาสด้า MX-5 หรือมิอาตะ ใหม่ที่จะมีคิวเปิดตัวในปี 2015 ซึ่งทางแซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ ซีอีโอของอัลฟายืนยันว่า โปรเจกต์นี้ถือเป็นบันไดขั้นแรกในการล้างบางและสะสางรุ่นรถยนต์ของอัลฟาที่ทำตลาด และเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของการนำอัลฟากลับสู่ตลาดรถยนต์
นอกจากนั้น มาร์คิออนเน่ กล่าวว่าไอเดียในครั้งนี้ของเขาเป็นการประยุกต์แนวทางการปรับปรุงแบรนด์ออดี้ของโฟล์คสวาเกน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ทางมาสด้ายังไม่ได้เปิดเผยถึงแนวทางในการปรับปรุงไลน์ผลิตของตัวเองที่ฮิโรชิมาว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไร และแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมเดียวกันเพียงระบบแบบขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น แต่ต่างกันที่ตัวถังเปลือกนอก ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ รวมถึงเครื่องยนต์ด้วย โดยทั้งคู่จะมีการยืนยันและประกาศรายละเอียดของสัญญาในครั้งนี้ช่วงเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม มาสด้าจะเปิดตัว MX-5 ก่อนโดยคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2015 จากนั้นจะถึงคิวของอัลฟา โดยทั้งคู่จะเริ่มทำตลาดทั่วโลกในช่วงปี 2016
สิ่งที่น่าสนใจคือ โรดสเตอร์รุ่นใหม่ของอัลฟาจะแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับมาสด้า MX-5 หรือมิอาตะ ใหม่ที่จะมีคิวเปิดตัวในปี 2015 ซึ่งทางแซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ ซีอีโอของอัลฟายืนยันว่า โปรเจกต์นี้ถือเป็นบันไดขั้นแรกในการล้างบางและสะสางรุ่นรถยนต์ของอัลฟาที่ทำตลาด และเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของการนำอัลฟากลับสู่ตลาดรถยนต์
นอกจากนั้น มาร์คิออนเน่ กล่าวว่าไอเดียในครั้งนี้ของเขาเป็นการประยุกต์แนวทางการปรับปรุงแบรนด์ออดี้ของโฟล์คสวาเกน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ทางมาสด้ายังไม่ได้เปิดเผยถึงแนวทางในการปรับปรุงไลน์ผลิตของตัวเองที่ฮิโรชิมาว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไร และแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมเดียวกันเพียงระบบแบบขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น แต่ต่างกันที่ตัวถังเปลือกนอก ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ รวมถึงเครื่องยนต์ด้วย โดยทั้งคู่จะมีการยืนยันและประกาศรายละเอียดของสัญญาในครั้งนี้ช่วงเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม มาสด้าจะเปิดตัว MX-5 ก่อนโดยคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2015 จากนั้นจะถึงคิวของอัลฟา โดยทั้งคู่จะเริ่มทำตลาดทั่วโลกในช่วงปี 2016