ข่าวในประเทศ - สรุปยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไทยเดือนธันวาคม 2012 ร้อนแรงส่งท้ายปีกว่า 1.5 แสนคัน ส่งผลรวมตลอดปีพุ่ง 2.13 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 6% ฮอนด้ามาแรงโตแซงตลาด พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์ยอดขายสะสมสูงสุดเป็นปีที่ 24 ติดต่อกัน พ่วงด้วยการทำสถิติทะลุหลัก 20 ล้านคัน เป็นรายแรกในประเทศไทย และเป็นรายที่ 4 ของโลก ที่ทำสถิติดังกล่าวได้สำเร็จ
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในเดือนสุดท้ายของปี ยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจรอบด้านที่เป็นไปในทางบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ้างงาน และราคาสินค้าเกษตร ได้ส่งผลให้กำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายโดยทั่วไปยังคงมีสูง โดยตัวเลขล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก พบว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 25% ในขณะที่ยอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปี 2012 อยู่ที่ 2,130,067 คัน เติบโตสูงขึ้นจากปี 2011 ที่ 6% และยังเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการรถจักรยานยนต์ไทยอีกด้วย
โดยตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำเดือนธันวาคม 2012 มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน แบ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. 75,717 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 70,419 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด 2,994 คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 2,239 คัน อัตราส่วน 1%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 1,525 คัน เมื่อตามรายชื่อผู้ผลิต พบว่าฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับแรกในตลาดรวมที่ 109,816 คัน สัดส่วนครองตลาด 72% ตามด้วยยามาฮ่า 31,404 คัน สัดส่วนครองตลาด 21%, ซูซูกิ 5,438 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 3,017 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 3,219 คัน
ในส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำปี 2012 ปรากฏว่ามียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 2,130,067 คัน ประกอบด้วยรถแบบ เอ.ที. 1,062,494 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 981,865 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด 32,726 คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 32,083 คัน อัตราส่วน 2%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 20,899 คัน เมื่อแยกตามรายชื่อผู้ผลิตจะพบว่า ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับหนึ่งที่ 1,485,312 คัน มีสัดส่วนครองตลาด 70% ตามด้วยยามาฮ่า 489,892 คัน สัดส่วนครองตลาด 23%, ซูซูกิ 76,268 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 34,555 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 44,040 คัน
“ทั้งนี้ ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเดือนธันวาคมสูงสุดในตลาดที่ 109,816 คัน เติบโตจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 55% และมียอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,485,312 คัน ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดของฮอนด้าด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ฮอนด้าเติบโตจากปี 2011 ที่ 7% มากกว่าตลาดรวม 1% พร้อมทั้งครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นปีที่ 24 ติดต่อกัน และตัวเลขดังกล่าวยังได้ส่งผลให้ฮอนด้ามียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทะลุหลัก 20 ล้านคันเป็นรายแรกในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากยอดจำหน่ายตั้งแต่ปี 1986 ถึงปี 2012"
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งเป็นปีแรกที่ฮอนด้าได้ก่อตั้งบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จนถึงสิ้นปี 2012 อยู่ที่ 20,062,754 คัน ทำให้ฮอนด้ากลายเป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในไทยที่ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 20 ล้านคัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ 4 ของโลกรองจากญี่ปุ่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ที่สามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าขอขอบคุณชาวไทยทุกคนเป็นอย่างสูง และจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคชาวไทยตลอดไป
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในเดือนสุดท้ายของปี ยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจรอบด้านที่เป็นไปในทางบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ้างงาน และราคาสินค้าเกษตร ได้ส่งผลให้กำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายโดยทั่วไปยังคงมีสูง โดยตัวเลขล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก พบว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 25% ในขณะที่ยอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปี 2012 อยู่ที่ 2,130,067 คัน เติบโตสูงขึ้นจากปี 2011 ที่ 6% และยังเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการรถจักรยานยนต์ไทยอีกด้วย
โดยตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำเดือนธันวาคม 2012 มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน แบ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. 75,717 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 70,419 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด 2,994 คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 2,239 คัน อัตราส่วน 1%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 1,525 คัน เมื่อตามรายชื่อผู้ผลิต พบว่าฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับแรกในตลาดรวมที่ 109,816 คัน สัดส่วนครองตลาด 72% ตามด้วยยามาฮ่า 31,404 คัน สัดส่วนครองตลาด 21%, ซูซูกิ 5,438 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 3,017 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 3,219 คัน
ในส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำปี 2012 ปรากฏว่ามียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 2,130,067 คัน ประกอบด้วยรถแบบ เอ.ที. 1,062,494 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 981,865 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด 32,726 คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 32,083 คัน อัตราส่วน 2%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 20,899 คัน เมื่อแยกตามรายชื่อผู้ผลิตจะพบว่า ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับหนึ่งที่ 1,485,312 คัน มีสัดส่วนครองตลาด 70% ตามด้วยยามาฮ่า 489,892 คัน สัดส่วนครองตลาด 23%, ซูซูกิ 76,268 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 34,555 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 44,040 คัน
“ทั้งนี้ ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเดือนธันวาคมสูงสุดในตลาดที่ 109,816 คัน เติบโตจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 55% และมียอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,485,312 คัน ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดของฮอนด้าด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ฮอนด้าเติบโตจากปี 2011 ที่ 7% มากกว่าตลาดรวม 1% พร้อมทั้งครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นปีที่ 24 ติดต่อกัน และตัวเลขดังกล่าวยังได้ส่งผลให้ฮอนด้ามียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทะลุหลัก 20 ล้านคันเป็นรายแรกในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากยอดจำหน่ายตั้งแต่ปี 1986 ถึงปี 2012"
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งเป็นปีแรกที่ฮอนด้าได้ก่อตั้งบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จนถึงสิ้นปี 2012 อยู่ที่ 20,062,754 คัน ทำให้ฮอนด้ากลายเป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในไทยที่ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 20 ล้านคัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ 4 ของโลกรองจากญี่ปุ่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ที่สามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าขอขอบคุณชาวไทยทุกคนเป็นอย่างสูง และจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคชาวไทยตลอดไป