ข่าวในประเทศ-ค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นรับศักราชใหม่ปี 2013พร้อมเดินเกมบุก มุ่งสู่ความเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกๆ ด้าน ตั้งเป้ากวาด 1.55 ล้านคันจากตลาดรวม 2.15 ล้านคันภายในสิ้นปีนี้
จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “แม้เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2012 จะมีอุปสรรคบ้างจากความซบเซาของภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากวิกฤตอุทกภัยในปี 2011 อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ ตลอดจนความมุ่งมั่นในการร่วมกันแก้ปัญหาของทุกภาคส่วนในประเทศไทย เศรษฐกิจไทยก็สามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมาย โดยรายงานล่าสุดจากสภาพัฒน์ฯ พบว่าในปี 2012 นั้น ตัวเลขจีดีพีมีการเติบโตสูงขึ้นถึง 5.5% สิ่งนี้ได้ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง”
ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2012 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรวมอยู่ที่ 2.13 ล้านคัน เติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1.485 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% โดยยอดตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการทำสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งยังส่งผลให้ฮอนด้าครองส่วนแบ่งตลาดที่ 70% เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1% นอกจากนี้ สถิติดังกล่าวยังส่งผลให้ฮอนด้าสามารถสร้างยอดจำหน่ายสะสมได้มากถึง 20 ล้านคันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ฮอนด้าในประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ 4 ของโลกรองจากญี่ปุ่น, อินเดีย และอินโดนีเซียที่สามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้
“สำหรับในปี 2013 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ในขณะที่การปรับตัวที่สูงขึ้นของรายได้ของผู้บริโภคเมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการซื้อขายแล้ว ยอดจำหน่ายในตลาดรถจักรยานยนต์ไทยตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.15 ล้านคัน โดยเอ.พี.ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดได้ตั้งเป้าการจำหน่ายในปีนี้ไว้ที่ 1.55 ล้านคัน ถือได้ว่าเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง”
จากเป้าหมายดังกล่าว ฮอนด้าได้วางกลยุทธ์ที่จะสร้างอุปสงค์ใหม่ๆให้เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ดังต่อไปนี้
1.Honda MSX125 รถมินิสตรีทไบค์สายพันธุ์ใหม่ เปิดตัวและวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก ภายใต้คอนเซปต์ “Clutching Adrenaline ปล่อยมันส์ออกมา” ชูจุดเด่นที่การควบคุมการขับเคลื่อนด้วยคลัทช์มือ บนโครงสร้างที่เล็กคล่องตัวแต่แข็งแกร่ง ทะยานแรงเกินตัวด้วยเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 125 ซีซี. โฉบเฉี่ยวด้วยล้อแม็กอะลูมิเนียมขนาด 12 นิ้ว พร้อมยางหน้ากว้างพิเศษ, ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์, ไฟท้ายแบบแอลอีดี, โช้คกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ พร้อมโช้คหลังแบบเดี่ยวเพื่อการทรงตัวที่เหนือกว่า ปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง สนนราคา 66,000 บาท
2.Honda Forza300 รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียม พัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “The Grand Voyage” ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี. ระบบหัวฉีด PGM-FI นับเป็นครั้งแรกที่รถในตระกูลนี้ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่พิเศษ ทำให้ทุกการเดินทางที่ยาวไกล กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดีไซน์รอบคันหรูหราโดดเด่น ออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าคู่พร้อมไฟหรี่, ไฟท้ายแบบบิวท์อินที่รับกับเส้นสายของตัวถังอย่างลงตัว, แผงหน้าปัดดีไซน์เหนือระดับ, ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเสียงนุ่มทุ้มด้วยอุปกรณ์ดูดซับเสียง, แผงคอนโซลด้านหน้าเปิดปิดเพื่อเก็บของได้ทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์, เบาะนั่งขนาดใหญ่พร้อมพนักพิงหลัง นั่งสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายตลอดการเดินทางพร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระขนาดยักษ์ความจุมากกว่า 62 ลิตร ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบพร้อมกันได้ถึง 2 ใบ สำหรับราคายังไม่เปิดเผย
3.Honda CRF250M น้องใหม่ที่ได้รับการพัฒนาจากแฝดคนละฝาอย่าง Honda CRF250L ให้เป็นรถโมตาร์ดสำหรับคนเมือง ภายใต้คอนเซปต์ “โมตาร์ดเต็มขั้น...ลุยทุกพิกัดเมือง” แรงถึงใจด้วยเครื่องยนต์ขนาด 250cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI เท่ถึงใจด้วยล้อสีพิเศษขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์เข้ากับสีตัวถังรถ พร้อมยางทางเรียบหน้ากว้างเพื่อการขับขี่บนถนนในเมือง, รองรับทุกแรงกระแทกด้วยโช้คหัวกลับพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link, ปลอดภัยกว่าด้วยดิสก์เบรคหน้า-หลังลายเวฟ สำหรับราคายังไม่เปิดเผย
ขณะเดียวกัน ได้ปรับโฉมลวดลายใหม่ให้กับ Honda Spacy i และ Honda Wave 110i ใหม่ โดยพร้อมวางจำหน่าย Honda Wave110i ใหม่ พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2556 เป็นต้นไป สนนราคาเริ่มต้นที่ 38,300 บาท (รุ่นสตาร์ทเท้า) ก่อนจะทยอยวางจำหน่ายอีก 4 รุ่นที่เหลือ ประกอบไปด้วย Honda MSX125 ที่ราคาโดยประมาณ 66,000 บาท ภายในเดือนมกราคมนี้ ตามด้วย Honda Forza300 และ Honda Spacy i ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ Honda CRF250M จะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
จิอากิ กล่าวเพิ่มเติมถึงนโยบายประจำปี 2013 ว่า “การเปิดตัวรถทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหมายของตลาด ซึ่งเป็นมาตรการลำดับแรกในแผนระยะกลาง 3 ปี ที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2011 สู่เป้าหมายของการเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของฮอนด้า โดยอีก 2 มาตรการที่เหลือประกอบไปด้วย การมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในทุกๆด้าน และการขยายความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม สำหรับในปี 2013 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนดังกล่าวนี้ ฮอนด้าได้เตรียมที่จะสานต่อกิจกรรมความสนุกต่างๆ มากมายเพื่อผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมความสนุกที่เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลในฐานะที่ฮอนด้าเป็น Official Partner ของทีมลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สองทีมดังของโลกจากประเทศอังกฤษ ภายใต้แนวคิดของแบรนด์แคมเปญ “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหา...อะไรใหม่ๆ” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีตลอดทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา เรารับประกันได้ว่าในปีนี้กิจกรรมความสนุกภายใต้แคมเปญ “ฮอนด้า มันส์ทะลุแมตช์” จะต้องเข้มข้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้เพื่อเป็นการขยายความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม ฮอนด้าได้สร้างเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายฯ รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากมาเสริมกับเครือข่ายเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพื่อนำเสนอบริการที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภคชาวไทยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยฮอนด้าได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนของศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center และร้าน Honda Wing Shop ให้ได้มากถึง 1,250 แห่งภายในปีนี้
ในส่วนของแผนการขยายเครือข่ายธุรกิจรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ ล่าสุดฮอนด้าได้เตรียมเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งใน 3 จุดยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ เมืองพัทยา, อุดรธานี, และภูเก็ต ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการให้บริการในภาคตะวันออก, ภาคอีสาน และภาคใต้ตามลำดับ หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการเปิดสาขาแรกที่กรุงเทพฯ และสาขาที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในภาคเหนือ ทั้งนี้ ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง (Honda BigWing) ทุกๆแห่งจะให้บริการลูกค้าภายใต้มาตรฐาน 6S เหมือนกันทั้งหมด โดยมาตรฐานดังกล่าวประกอบไปด้วย Sales(การขาย), Service(บริการหลังการขาย), Spare Parts(อะไหล่ครบครัน), Safety(อบรมขับขี่ปลอดภัย), Second Hand(ซื้อขายรถมือสอง), และ Society(การทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกฮอนด้าบิ๊กไบค์)
จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “แม้เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2012 จะมีอุปสรรคบ้างจากความซบเซาของภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากวิกฤตอุทกภัยในปี 2011 อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ ตลอดจนความมุ่งมั่นในการร่วมกันแก้ปัญหาของทุกภาคส่วนในประเทศไทย เศรษฐกิจไทยก็สามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมาย โดยรายงานล่าสุดจากสภาพัฒน์ฯ พบว่าในปี 2012 นั้น ตัวเลขจีดีพีมีการเติบโตสูงขึ้นถึง 5.5% สิ่งนี้ได้ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง”
ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2012 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรวมอยู่ที่ 2.13 ล้านคัน เติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1.485 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% โดยยอดตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการทำสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งยังส่งผลให้ฮอนด้าครองส่วนแบ่งตลาดที่ 70% เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1% นอกจากนี้ สถิติดังกล่าวยังส่งผลให้ฮอนด้าสามารถสร้างยอดจำหน่ายสะสมได้มากถึง 20 ล้านคันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ฮอนด้าในประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ 4 ของโลกรองจากญี่ปุ่น, อินเดีย และอินโดนีเซียที่สามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้
“สำหรับในปี 2013 นี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ในขณะที่การปรับตัวที่สูงขึ้นของรายได้ของผู้บริโภคเมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการซื้อขายแล้ว ยอดจำหน่ายในตลาดรถจักรยานยนต์ไทยตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.15 ล้านคัน โดยเอ.พี.ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดได้ตั้งเป้าการจำหน่ายในปีนี้ไว้ที่ 1.55 ล้านคัน ถือได้ว่าเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง”
จากเป้าหมายดังกล่าว ฮอนด้าได้วางกลยุทธ์ที่จะสร้างอุปสงค์ใหม่ๆให้เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ดังต่อไปนี้
1.Honda MSX125 รถมินิสตรีทไบค์สายพันธุ์ใหม่ เปิดตัวและวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก ภายใต้คอนเซปต์ “Clutching Adrenaline ปล่อยมันส์ออกมา” ชูจุดเด่นที่การควบคุมการขับเคลื่อนด้วยคลัทช์มือ บนโครงสร้างที่เล็กคล่องตัวแต่แข็งแกร่ง ทะยานแรงเกินตัวด้วยเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 125 ซีซี. โฉบเฉี่ยวด้วยล้อแม็กอะลูมิเนียมขนาด 12 นิ้ว พร้อมยางหน้ากว้างพิเศษ, ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์, ไฟท้ายแบบแอลอีดี, โช้คกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ พร้อมโช้คหลังแบบเดี่ยวเพื่อการทรงตัวที่เหนือกว่า ปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง สนนราคา 66,000 บาท
2.Honda Forza300 รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียม พัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “The Grand Voyage” ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี. ระบบหัวฉีด PGM-FI นับเป็นครั้งแรกที่รถในตระกูลนี้ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่พิเศษ ทำให้ทุกการเดินทางที่ยาวไกล กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดีไซน์รอบคันหรูหราโดดเด่น ออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าคู่พร้อมไฟหรี่, ไฟท้ายแบบบิวท์อินที่รับกับเส้นสายของตัวถังอย่างลงตัว, แผงหน้าปัดดีไซน์เหนือระดับ, ท่อไอเสียแบบสปอร์ตเสียงนุ่มทุ้มด้วยอุปกรณ์ดูดซับเสียง, แผงคอนโซลด้านหน้าเปิดปิดเพื่อเก็บของได้ทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์, เบาะนั่งขนาดใหญ่พร้อมพนักพิงหลัง นั่งสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายตลอดการเดินทางพร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระขนาดยักษ์ความจุมากกว่า 62 ลิตร ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบพร้อมกันได้ถึง 2 ใบ สำหรับราคายังไม่เปิดเผย
3.Honda CRF250M น้องใหม่ที่ได้รับการพัฒนาจากแฝดคนละฝาอย่าง Honda CRF250L ให้เป็นรถโมตาร์ดสำหรับคนเมือง ภายใต้คอนเซปต์ “โมตาร์ดเต็มขั้น...ลุยทุกพิกัดเมือง” แรงถึงใจด้วยเครื่องยนต์ขนาด 250cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI เท่ถึงใจด้วยล้อสีพิเศษขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์เข้ากับสีตัวถังรถ พร้อมยางทางเรียบหน้ากว้างเพื่อการขับขี่บนถนนในเมือง, รองรับทุกแรงกระแทกด้วยโช้คหัวกลับพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link, ปลอดภัยกว่าด้วยดิสก์เบรคหน้า-หลังลายเวฟ สำหรับราคายังไม่เปิดเผย
ขณะเดียวกัน ได้ปรับโฉมลวดลายใหม่ให้กับ Honda Spacy i และ Honda Wave 110i ใหม่ โดยพร้อมวางจำหน่าย Honda Wave110i ใหม่ พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2556 เป็นต้นไป สนนราคาเริ่มต้นที่ 38,300 บาท (รุ่นสตาร์ทเท้า) ก่อนจะทยอยวางจำหน่ายอีก 4 รุ่นที่เหลือ ประกอบไปด้วย Honda MSX125 ที่ราคาโดยประมาณ 66,000 บาท ภายในเดือนมกราคมนี้ ตามด้วย Honda Forza300 และ Honda Spacy i ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ Honda CRF250M จะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
จิอากิ กล่าวเพิ่มเติมถึงนโยบายประจำปี 2013 ว่า “การเปิดตัวรถทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหมายของตลาด ซึ่งเป็นมาตรการลำดับแรกในแผนระยะกลาง 3 ปี ที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2011 สู่เป้าหมายของการเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของฮอนด้า โดยอีก 2 มาตรการที่เหลือประกอบไปด้วย การมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในทุกๆด้าน และการขยายความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม สำหรับในปี 2013 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนดังกล่าวนี้ ฮอนด้าได้เตรียมที่จะสานต่อกิจกรรมความสนุกต่างๆ มากมายเพื่อผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมความสนุกที่เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลในฐานะที่ฮอนด้าเป็น Official Partner ของทีมลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สองทีมดังของโลกจากประเทศอังกฤษ ภายใต้แนวคิดของแบรนด์แคมเปญ “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหา...อะไรใหม่ๆ” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีตลอดทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา เรารับประกันได้ว่าในปีนี้กิจกรรมความสนุกภายใต้แคมเปญ “ฮอนด้า มันส์ทะลุแมตช์” จะต้องเข้มข้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้เพื่อเป็นการขยายความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้และสังคม ฮอนด้าได้สร้างเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายฯ รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากมาเสริมกับเครือข่ายเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพื่อนำเสนอบริการที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภคชาวไทยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยฮอนด้าได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนของศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center และร้าน Honda Wing Shop ให้ได้มากถึง 1,250 แห่งภายในปีนี้
ในส่วนของแผนการขยายเครือข่ายธุรกิจรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ ล่าสุดฮอนด้าได้เตรียมเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งใน 3 จุดยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ เมืองพัทยา, อุดรธานี, และภูเก็ต ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการให้บริการในภาคตะวันออก, ภาคอีสาน และภาคใต้ตามลำดับ หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการเปิดสาขาแรกที่กรุงเทพฯ และสาขาที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในภาคเหนือ ทั้งนี้ ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง (Honda BigWing) ทุกๆแห่งจะให้บริการลูกค้าภายใต้มาตรฐาน 6S เหมือนกันทั้งหมด โดยมาตรฐานดังกล่าวประกอบไปด้วย Sales(การขาย), Service(บริการหลังการขาย), Spare Parts(อะไหล่ครบครัน), Safety(อบรมขับขี่ปลอดภัย), Second Hand(ซื้อขายรถมือสอง), และ Society(การทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกฮอนด้าบิ๊กไบค์)
