ข่าวในประเทศ-“ทีเอสแอล” มั่นใจสามารถปิดยอดขายปีนี้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แย้มกลยุทธ์ปี 2556 เตรียมรุกตลาดแบบ 360 องศา เดินหน้าก่อสร้างศูนย์ SMRT ในประเทศพม่า พร้อมเปิดให้บริการช่วงต้นปีหน้ารองรับ AEC
สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “ด้วยความมั่นคงและรากฐานที่แข่งแกร่งของทีเอสแอล ในการดำเนินธุรกิจด้านนี้มายาวนานกว่า 30 ปี ส่งผลให้แผนการดำเนินธุรกิจในแต่ละภาคส่วนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะฝ่ายขายที่ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่จำนวน 900 คัน ซึ่งจนถึงปัจจุบันทีเอสแอลมียอดส่งมอบรถยนต์ไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 720 คัน ขณะที่ยอดขายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. จนถึงวันที่ 3 ธ.ค.55 รวมเป็นเวลา 5 วัน ทีเอสแอลมียอดจองอยู่ที่ 44 คัน จากเป้าหมาย 150 คันที่ตั้งไว้ ซึ่งเชื่อว่ากว่าจะถึงวันสุดท้ายของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรืออีกประมาณ 7 วัน ทีเอสแอลจะมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อรถยนต์ตามเป้าที่ตั้งไว้ และหากนำยอดขายตลอดทั้งปี 2555 มานับรวมกันแล้วเชื่อได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน”
“ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในส่วนของยอดขายข้างต้นนั้น ในแง่กลยุทธ์การตลาดก็คือ การนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าอยู่เป็นระยะ ซึ่งโปรโมชั่นทั้งหมดก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่น ผ่อน 0% นาน 60 เดือน หรือการ Warrantee แบบไม่จำกัดระยะทางนาน 3 ปี เป็นต้น ขณะเดียวกัน ด้านการบริการหลังการขายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเรื่องการตัดสินใจของลูกค้าให้มาซื้อรถที่ทีเอสแอล โดยเราเชื่อว่าด้วยสิทธิประโยชน์ของบัตร “มิราเคิล การ์ด” ที่มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ ความสะดวกสบายในการนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์ SMRT บวกกับความรวดเร็วในการตรวจเช็คและการซ่อมบำรุงรักษาต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ยอดขายในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” สุรีย์ภรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ทีเอสแอลจะยึดแนวคิดการ “รุกตลาด 360 องศา” เป็นหลัก เริ่มต้นจากการรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุกคนให้มากขึ้น และการปรับเปลี่ยนขั้นตอนของการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องกันในทุกๆ ฝ่าย โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิผลของหน่วยงานทุกฝ่ายในองค์กรให้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่”ฝ่ายขาย”ที่จะคัดสรรยนตรกรรมที่ดีที่สุด ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะที่เป็นเลิศมาให้ลูกค้าของทีเอสแอลได้เลือกสรร
ส่วนฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจก็จะเดินหน้าสร้างสรรค์โปรโมชั่นดีๆ ที่คู่ควรกับลูกค้าของทีเอสแอลมานำเสนอให้อย่างเต็มอิ่มและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย หรือศูนย์บริการ SMRT ที่ยึดมั่นในความรวดเร็วและมาตรฐานการดูแลและการส่งมอบรถคืนแก่ลูกค้า เฉกเช่นการดูแลคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ที่พร้อมนำเสนอโครงการดีๆ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าและสมาชิกในครอบครัวมาให้ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ เพื่อรองรับนโยบายการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน หรือ AEC ของประเทศไทยในปี 2558 บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท ในการลงทุนก่อสร้าง “ศูนย์บริการหลังการขาย SMRT” ในประเทศพม่า ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างดังกล่าวดำเนินแล้วเสร็จไปประมาณ 90% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2556
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำสัญญาของชาวทีเอสแอลทุกคนที่มีต่อลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ เราจะเดินหน้าสร้างสรรและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบยนตรกรรมนำเข้า” สุรีย์ภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “ด้วยความมั่นคงและรากฐานที่แข่งแกร่งของทีเอสแอล ในการดำเนินธุรกิจด้านนี้มายาวนานกว่า 30 ปี ส่งผลให้แผนการดำเนินธุรกิจในแต่ละภาคส่วนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะฝ่ายขายที่ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่จำนวน 900 คัน ซึ่งจนถึงปัจจุบันทีเอสแอลมียอดส่งมอบรถยนต์ไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 720 คัน ขณะที่ยอดขายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. จนถึงวันที่ 3 ธ.ค.55 รวมเป็นเวลา 5 วัน ทีเอสแอลมียอดจองอยู่ที่ 44 คัน จากเป้าหมาย 150 คันที่ตั้งไว้ ซึ่งเชื่อว่ากว่าจะถึงวันสุดท้ายของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรืออีกประมาณ 7 วัน ทีเอสแอลจะมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อรถยนต์ตามเป้าที่ตั้งไว้ และหากนำยอดขายตลอดทั้งปี 2555 มานับรวมกันแล้วเชื่อได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน”
“ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในส่วนของยอดขายข้างต้นนั้น ในแง่กลยุทธ์การตลาดก็คือ การนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าอยู่เป็นระยะ ซึ่งโปรโมชั่นทั้งหมดก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่น ผ่อน 0% นาน 60 เดือน หรือการ Warrantee แบบไม่จำกัดระยะทางนาน 3 ปี เป็นต้น ขณะเดียวกัน ด้านการบริการหลังการขายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเรื่องการตัดสินใจของลูกค้าให้มาซื้อรถที่ทีเอสแอล โดยเราเชื่อว่าด้วยสิทธิประโยชน์ของบัตร “มิราเคิล การ์ด” ที่มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ ความสะดวกสบายในการนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์ SMRT บวกกับความรวดเร็วในการตรวจเช็คและการซ่อมบำรุงรักษาต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ยอดขายในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” สุรีย์ภรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ทีเอสแอลจะยึดแนวคิดการ “รุกตลาด 360 องศา” เป็นหลัก เริ่มต้นจากการรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุกคนให้มากขึ้น และการปรับเปลี่ยนขั้นตอนของการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องกันในทุกๆ ฝ่าย โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิผลของหน่วยงานทุกฝ่ายในองค์กรให้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่”ฝ่ายขาย”ที่จะคัดสรรยนตรกรรมที่ดีที่สุด ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะที่เป็นเลิศมาให้ลูกค้าของทีเอสแอลได้เลือกสรร
ส่วนฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจก็จะเดินหน้าสร้างสรรค์โปรโมชั่นดีๆ ที่คู่ควรกับลูกค้าของทีเอสแอลมานำเสนอให้อย่างเต็มอิ่มและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย หรือศูนย์บริการ SMRT ที่ยึดมั่นในความรวดเร็วและมาตรฐานการดูแลและการส่งมอบรถคืนแก่ลูกค้า เฉกเช่นการดูแลคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ที่พร้อมนำเสนอโครงการดีๆ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าและสมาชิกในครอบครัวมาให้ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ เพื่อรองรับนโยบายการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน หรือ AEC ของประเทศไทยในปี 2558 บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ใช้งบประมาณกว่า 35 ล้านบาท ในการลงทุนก่อสร้าง “ศูนย์บริการหลังการขาย SMRT” ในประเทศพม่า ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างดังกล่าวดำเนินแล้วเสร็จไปประมาณ 90% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2556
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำสัญญาของชาวทีเอสแอลทุกคนที่มีต่อลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ เราจะเดินหน้าสร้างสรรและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบยนตรกรรมนำเข้า” สุรีย์ภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
