"ทีเอสแอล" เผยแผนรับมือเออีซี ปี 2558 ประเดิมเปิดศูนย์บริการ SMRT ในประเทศพม่า จัดหนักด้วยเงินลงทุน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30 ล้านบาทไทยให้บริการซ่อมรถยนต์ยุโรปและรถมือสองยี่ห้อโตโยต้า พร้อมบริการแบบครบครัน
นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์แบรนด์หรูจากทั่วโลก เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ Asean Economics Community เรียกสั้นๆ ว่า AEC "การเปิดประตูสู่การค้าเสรีนั้น เปรียบเสมือนการเปิดประตูเชื่อมต่อกันระหว่างประเทศต่างๆ และสำหรับทีเอสแอล เป็นผลบวกกับเรามากๆ ไม่ว่าจะเป็นการหมุนเวียนในเรื่องของแรงงาน การขนส่ง ตัวรถ หรืออะไหล่"
"รัฐบาลพม่าในวันนี้ มีนโยบายเปิดประเทศและพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง ต้องการส่งเสริมการเข้ามาลงทุนในประเทศของนักธุรกิจต่างชาติ ดังจะเห็นได้จากนโยบายปลอดภาษี หรือ 0% Free TAX นานถึง 5 ปี หากจดทะเบียนบริษัทเป็นของชาวต่างชาติ"
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ พม่ามีประชากรมากพอๆ กับประเทศไทย แต่ทรัพยากรทุกอย่างมีมากกว่าเมืองไทยนับเท่าตัว ฉะนั้นในอนาคตข้างหน้ากระแสการพัฒนาและการลงทุนจะแห่กันไหลมาที่ประเทศนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเราในฐานะเพื่อนบ้านน่าจะได้เปรียบในเรื่องของการทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าชาวพม่าได้ง่ายกว่าชาติอื่นๆ เนื่องจากมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่างกันมากนัก
คุณสุรีย์ภรณ์กล่าวต่อว่า "ทีเอสแอล เริ่มต้นธุรกิจในประเทศพม่า ด้วยการเปิดศูนย์บริการ SMRT ซึ่งปัจจุบันลูกค้าที่ใช้รถยนต์ระดับหรูในบ้านเราต่างรู้จักดีในฐานะผู้ชำนาญด้านการดูแลซ่อมแซมรถยนต์นำเข้าโดยเฉพาะ รถยุโรป และรถเก่ายี่ห้อโตโยต้า ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 30 ล้านบาทไทย ให้บริการดูแลเครื่องยนต์ สีและตัวถัง ยิ่งไปกว่านั้น เราวางรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ของ SMRT ในลักษณะของศูนย์บริการแบบครบวงจร โดยรวบรวมสินค้าและบริการทีิ่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ฟิล์มติดรถยนต์ ชุดตกแต่งประดับยนต์ ยางรถยนต์ อะไหล่ และน้ำมันเครื่อง เป็นต้น
"บริษัทใหม่เปิดภายใต้ชื่อ SMRTจำกัดในเมืองย่างกุ้ง โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นนักธุรกิจชาวพม่า 2 คน แบ่งเป็นทีเอสแอส 40 % ที่เหลือแบ่งเป็น 30% ช่วงแรกตั้งเป้าไว้ประมาณเดือนละ 1.5-2 ล้านบาท และคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2 ปี
ตลาดรถยนต์นำเข้าในประเทศพม่าค่อนข้างใหญ่ เศรษฐีที่ใช้รถยนต์ระดับไฮ-เอ็น (HI END) มีมาก ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถมือสองที่นำเข้ามาขาย แต่ด้วยความที่ศักยภาพของช่างและศูนย์บริการที่นั่นยังไม่ดีพอ ตรงจุดนี้เอง คือโอกาสทางธุรกิจที่ทีเอสแอลมองเห็น
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า” เรามีความถนัดในเรื่องการให้บริการรถยนต์นำเข้าที่ได้มาตรฐาน เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถครองใจผู้ใช้รถชาวพม่าได้อย่างแน่นอน เพราะเราเข้าใจคนรักรถ รู้ว่าเค้าต้องการช่างที่รู้จักรถเป็นอย่างดี ช่างที่รู้ว่าจะดูแลรถที่เค้ารักให้ดีที่สุดได้อย่างไร และนี่คือจุดแข็งที่ ทีเอสแอลทำและรักษามาตรฐานมาตลอด มาตรฐานการบริการเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ SMRT ในประเทศไทยเช่นกัน"
ตอนนี้ทิศทางธุรกิจโลก หันมาจับตาเอเซียมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจของยุโรปและอเมริกาเริ่มระส่ำระสาย แต่ของโซนเอเซียดูมั่นคงกว่า ในอนาคตข้างหน้าเงินทุน แรงงาน น่าจะวิ่งมาหาประเทศในแถบทวีปเอเซียมากขึ้น และวันนี้ ทีเอสแอลเริ่มเปิดตลาดก่อนใคร เราก็เชื่อว่าเรามีโอกาสสำเร็จเร็วกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน"
สำหรับยอดขายของบริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น ตั้งเป้าปีนี้ 800 คัน ครึ่งปีแรกจำหน่ายไปได้ 380 คัน สุรีย์ภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
