บีเอ็มดับเบิลยู เจาะตลาดรถยนต์ระดับหรูครั้งใหม่ เพื่อเอาใจสาวกของซีรีส์ 7 ด้วยการผลิต SE หรือ Special Edition ในวาระครบ 25 ปี ของการทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ V 12 ให้กับรถยนต์รุ่นนี้ โดยจัดเต็มกับเครื่องยนต์ V12 พร้อมกับราคาสตาร์ทแบบเร้าใจเฉียด 160,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.8 ล้านบาท
เวอร์ชันพิเศษนี้ จะทำตลาดกับุร่น 760iL ตัวถังปัจจุบันในรหัส F01 ซึ่งเป็นรุ่นฐานล้อยาวและมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 535 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 75.9 กก.-ม.ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที สำหรับอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.และความเร็วปลายถูกจำกัดเอาไว้ที่ 209 แต่สามารถขยับเป็น 250 กม./ชม.หากมีการติดตั้งชุดแต่งพิเศษ M Package เพิ่มเติมเข้ามา โดยจะขายภายใต้ชื่อรุ่นว่า “V-12 25 Years Edition”
รถยนต์รุ่นนี้จะมีขายทั่วโลก แต่ก็มีจำนวนที่ไม่มากนัก อย่างสหรัฐอเมริกาได้โควตามา 15 คัน และทุกคันได้รับการผลิตและตกแต่งจากหน่วยงาน BMW Individual มากับสีดำ ที่เรียกว่า Critine Black พร้อมกับล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ขณะที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มความพิเศษด้วยการสลักคำว่า V-12 25 Years Edition เอาไว้บนหมอนรองศีรษะของเบาะทุกที่นั่ง เช่นเดียวกับแผงลายไม้บนแผงหน้าปัด และหัวปุ่มกดของระบบ i-Drive ก็มีคำว่า V12
ซีรีส์ 7 ถือเป็น Flagship ของค่ายใบพัดสีฟ้า โดยเปิดตัวในตลาดครั้งแรกเมื่อปี 1971 กับรหัส E23 ก่อนที่จะมาโด่งดังในการเป็นเก๋งระดับหรูรุ่นแรกๆ ของโลก ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งเปิดตัวในปี 1987 กับรุ่น 750iL รหัสตัวถัง E32 ซึ่งเป็นที่มาของการผลิตรุ่นพิเศษในครั้งนี้
ขุมพลังของซีรีส์ 7 รุ่นนี้ ใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ของสปอร์ตรุ่นซีรีส์ 8 เป็นบล็อก V12 ขนาด 5,000 ซีซี แบบ NA ซึ่งมีกำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 45.5 กก.-ม. ที่ 4,100 รอบ/นาที
จากนั้นซีรีส์ 7 มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มกับรุ่นที่ 3 ในรหัส E38 ตามด้วยรุ่นที่ 4 ในรหัส E60 และรุ่นปัจจุบันเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ในรหัส F01/02 ส่วนเวอร์ชันฉลอง 25 ปี ของซีรีส์ 7 ในครั้งนี้ จะตั้งราคาขายเอาไว้ที่ 159,695 เหรียญสหรัฐฯ
เวอร์ชันพิเศษนี้ จะทำตลาดกับุร่น 760iL ตัวถังปัจจุบันในรหัส F01 ซึ่งเป็นรุ่นฐานล้อยาวและมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,000 ซีซี เทอร์โบคู่ 535 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 75.9 กก.-ม.ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที สำหรับอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.และความเร็วปลายถูกจำกัดเอาไว้ที่ 209 แต่สามารถขยับเป็น 250 กม./ชม.หากมีการติดตั้งชุดแต่งพิเศษ M Package เพิ่มเติมเข้ามา โดยจะขายภายใต้ชื่อรุ่นว่า “V-12 25 Years Edition”
รถยนต์รุ่นนี้จะมีขายทั่วโลก แต่ก็มีจำนวนที่ไม่มากนัก อย่างสหรัฐอเมริกาได้โควตามา 15 คัน และทุกคันได้รับการผลิตและตกแต่งจากหน่วยงาน BMW Individual มากับสีดำ ที่เรียกว่า Critine Black พร้อมกับล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ขณะที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มความพิเศษด้วยการสลักคำว่า V-12 25 Years Edition เอาไว้บนหมอนรองศีรษะของเบาะทุกที่นั่ง เช่นเดียวกับแผงลายไม้บนแผงหน้าปัด และหัวปุ่มกดของระบบ i-Drive ก็มีคำว่า V12
ซีรีส์ 7 ถือเป็น Flagship ของค่ายใบพัดสีฟ้า โดยเปิดตัวในตลาดครั้งแรกเมื่อปี 1971 กับรหัส E23 ก่อนที่จะมาโด่งดังในการเป็นเก๋งระดับหรูรุ่นแรกๆ ของโลก ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งเปิดตัวในปี 1987 กับรุ่น 750iL รหัสตัวถัง E32 ซึ่งเป็นที่มาของการผลิตรุ่นพิเศษในครั้งนี้
ขุมพลังของซีรีส์ 7 รุ่นนี้ ใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ของสปอร์ตรุ่นซีรีส์ 8 เป็นบล็อก V12 ขนาด 5,000 ซีซี แบบ NA ซึ่งมีกำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 45.5 กก.-ม. ที่ 4,100 รอบ/นาที
จากนั้นซีรีส์ 7 มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มกับรุ่นที่ 3 ในรหัส E38 ตามด้วยรุ่นที่ 4 ในรหัส E60 และรุ่นปัจจุบันเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ในรหัส F01/02 ส่วนเวอร์ชันฉลอง 25 ปี ของซีรีส์ 7 ในครั้งนี้ จะตั้งราคาขายเอาไว้ที่ 159,695 เหรียญสหรัฐฯ
