xs
xsm
sm
md
lg

Volvo S80 T4 ถอดสูท...กระแทกคันเร่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา “วอลโว่” เป็นอีกค่ายที่รุกตลาดค่อนข้างหนัก เพราะมีการแนะนำรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตแวกอนรุ่น V60 ตามมาด้วยรถอเนกประสงค์รุ่น XC90 D5 เครื่องยนต์ดีเซล และท็อปไลน์โมเดลในรุ่น S80 DRIVe เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ที่ให้พลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย วอลโว่ ประเทศไทย จึงเสริมทัพส่งตัวแรง “วอลโว่ S80 T4” มาเป็นอีกทางเลือก…

โดยเป็นการขยับปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้กับรุ่นท็อปไลน์โมเดลของวอลโว่ หรือรถสำหรับผู้บริหาร ที่ประมาณว่าส่วนใหญ่เจ้าของไม่ได้ขับเองซะมากกว่า และการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นรุ่นใหม่โมเดลปี 2012 ที่มาแทนตัวเดิมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 200 แรงม้า แต่ในส่วนของรูปลักษณ์หน้าตา แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเส้นสายและรูปทรงค่อนข้างเรียบๆ อาจจะเป็นเพราะโมเดลนี้ทำตลาดมานานหลายปี และนี่ก็อยู่ในช่วงท้ายของโมเดลแล้ว

แน่นอนหากเป็นเจนเนอเรชั่นต่อไป คงจะเห็นรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวและทันสมัยกว่านี้ อย่างที่เปิดตัวขายไปในรุ่น C30 หรือรุ่น S/V60 และล่าสุดที่เพิ่งเผยโฉมในต่างประเทศ วอลโว่ V40 ซึ่งโฉมต่อไปของรุ่น S80 คงไม่ได้หนีไปจากนี้มากนัก ไม่ว่าจะเป็นเส้นสาย หรือรูปลักษณ์หน้าตา

ส่วนภายในของวอลโว่ S80 เวอร์ชั่นปี 2012 ยังคงเส้นสายเรียบง่ายไม่ซับซ้อนเช่นเดิม แต่ก็ทำให้ดูสะอาดตาและกลมกลืน ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย คอนโซลแบบลอยตัวไหลต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียว ไปจนถึงที่นั่งด้านหลัง เบาะนั่งและแผงประตูบุหนังแท้ เพิ่มความหรูหราด้วยขอบและปุ่มกดโครเมียม ทำให้ดีไซน์รวมๆ เรียบหรูคลาสสิกทีเดียว ยิ่งได้ระบบ Volvo Sensus มาช่วยควบคุมการทำงานระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมัลติมีเดีย โทรศัพท์ ฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ผ่านดีวีดี ได้ง่ายๆ ผ่านปุ่มพวงมาลัย และแสดงผลหน้าจอสี 7 นิ้ว อีกทั้งใช้สัญญาณบลูทูธ เชื่อมต่อโทรศัพท์และเล่นไฟล์เพลง จากเครื่องเล่นเพลงต่างๆ ด้วยเครื่องเสียงคุณภาพระบบเสียงรอบทิศทาง ส่งผ่านลำโพง 12 ตัว และยังมี USB Port รองรับเครื่องเล่นตระกูล “ไอ” ทั้งหลาย และ USB Thumb Drive ด้วย


สำหรับจุดเด่นของ วอลโว่ S80 T4 นั่นย่อมต้องเป็นขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบไดเรกต์อินเจ็กชัน (GTDI) ที่ใช้ระบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 203 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ที่รอบมาตั้งแต่ 1,750-4,000 รอบต่อนาที

โดยขุมพลังดังกล่าว ส่งกำลังด้วยเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ช่วยให้ส่งกำลังไหลลื่นต่อเนื่อง และจากการเคลมของวอลโว่ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 8.5 วินาที และให้ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.05 กิโลเมตรต่อลิตร


ในการทดลองขับ วอลโว่ S80 T4 จากกรุงเทพฯ-นครนายก-เขาใหญ่ แบบไป-กลับวันเดียวจบ รวมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร แม้จะเป็นรถซีดานหรูขนาดใหญ่ กลับให้ความคล่องตัวและขับสนุกทีเดียว อัตราเร่งเรียกมาได้ดังใจ ยิ่งพวงมาลัยแบบ Speed Sensitive ที่ปรับเปลี่ยนความหนักเบาของพวงมาลัยตามความเร็วรถ ทำให้ง่ายในการควบคุม โดยจะให้ความรู้สึกเบาในช่วงความเร็วต่ำ หรือขับขี่ในช่วงการจราจรหนาแน่น ขณะที่ยามขับขี่ปกติพวงมาลัยจะให้น้ำหนักปานกลาง ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป และจะมีน้ำหนักขึ้นมาทันที เมื่อขับด้วยความเร็วสูง จึงรู้สึกมั่นใจและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

S80 T4 แม้จะมีจุดเด่นเรื่องความแรง แต่เนื่องจากพื้นฐานเป็นรถสำหรับผู้บริหาร จึงทำช่วงล่างออกมาค่อนข้างนุ่มนวล แต่เทียบกับรุ่นก่อนก็ไม่ได้นุ่มมาก หรือหากเทียบกับคู่แข่งจะออกกลางๆ มากกว่า คือ ไม่แข็งเท่ากับบีเอ็มดับเบิลยู แต่ไม่ได้ยืดหยุ่นเท่ากับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประมาณว่านั่งได้สบายๆ แต่หากขับเองก็รู้สึกสนุก เรียกว่าเป็นรถที่นุ่มหนึบใช้ได้ทีเดียว

ระบบความปลอดภัย เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ วอลโว่ S80 T4 หรือจะเรียกว่าแทบจะทุกรุ่นของรถวอลโว่ก็ว่าได้ เพราะนอกจากอุปกรณ์มาตรฐานทั่วไปแล้ว ยังใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยมาให้เต็มพิกัด นับตั้งแต่วินาทีที่สตาร์ทรถไปจนถึงระดับความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชน ไม่ว่าจะเป็น City Safety ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ ซึ่งรถจะหยุดอัตโนมัติหากรถคันหน้าชะลอหรือหยุดกะทันหัน โดยผู้ขับขี่ไม่ได้เหยียบเบรกอย่างทันการณ์

นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับคนเดินถนน พร้อมระบบเบรกแบบเต็มแรงเบรก (Pedestrian Detection Full Auto Brake) ด้วยการใช้เรดาร์บนกระจังหน้ารถ กล้องที่ติดอยู่ด้านหลังกระจกมองหลัง และกล่องควบคุมระบบ ในการตรวจจับและวิเคราะห์ ซึ่งระบบนี้จะทำงานเมื่อรถวิ่งไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อีกระบบที่โดดเด่นเป็นระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นหยุด/ออกตัวรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise control with Queue Assist) เป็นระบบที่ควบคุมช่วงเวลาและระยะห่างกับรถคันหน้า พร้อมเบรกในช่วงเวลาจำกัด และหากรถคันหน้าหยุดหรือออกรถ วอลโว่ S80 คันนี้ก็จะตามไปด้วย ในความเร็วและระยะห่างคงที่ และยังสามารถเลือกระยะและเวลาให้เหมาะสมกับสภาวะขับขี่ได้ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีระบบแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งการเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการชน พร้อมฟังก์ชั่นช่วยในการหยุดรถอัตโนมัติ, ระบบเตือนผู้ขับขี่รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าในทุกระดับความเร็ว, ระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อขาดสมาธิ, ระบบกล้องและสัญญาณเตือเมื่อมียานพาหนะในมุมอับสายตา

ขณะเดียวกันวอลโว่ S80 T4 ยังมีระบบปกป้องผู้โดยสารภายในรถ กับระบบถุงลมนิรภัย โดยเฉพาะด้านข้างแบบ 2 จังหวะ ที่ทำงานควบคู่กับม่านนิรภัยด้านข้าง, ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง, ระบบปกป้องการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลัง ที่เกิดจากการสะบัดของศีรษะ, ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ และระบบจัดการห้องโดยสารที่ปราศจากสิ่งกระตุ้นอาการภูมิแพ้ เป็นต้น

ทั้งหมดนี้จัดเต็มเหนือระดับมาตรฐานรถหรูจริงๆ แต่มากับราคาเบาๆ เพียง 2.84 ล้านบาท ทำให้วอลโว่ S80 T4 เป็นรถระดับผู้บริหารที่ไม่ไกลเกินเอื้อม และที่สำคัญยังถอดสูทมากระแทกคันเร่ง สามารถสนุกด้วยตัวเองอีกต่างหาก...

กำลังโหลดความคิดเห็น