xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดรถยนต์เดือน ก.ค.ทุบสถิติใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - ตลาดรถยนต์เมืองไทยเดือนกรกฎาคม ทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 131,646 คัน พร้อมดันยอดขายสะสม 7 เดือนพุ่ง 738,169 คัน โต 46.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2555 ว่า มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 131,646 คัน เพิ่มขึ้น 80.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 64,430 คัน เพิ่มขึ้น 99.6% รถเพื่อการพาณิชย์ 67,216 คัน เพิ่มขึ้น 65.5% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนต์นี้ จำนวน 58,868 คัน เพิ่มขึ้น 68.1%

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม ที่มีปริมาณการขาย 131,646 คัน ถือเป็นสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์สูงสุดต่อเดือนในประเทศไทย ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 80.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 64,430 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายต่อเดือนในตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 99.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีปริมาณการขาย 67,216 คัน เพิ่มขึ้น 65.5% เป็นผลจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐและความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ ประกอบกับการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่าย ทำให้สามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือน มีปริมาณการขาย 738,169 คัน เพิ่มขึ้น 46.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 42.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 49.1% เป็นผลจากความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่มีอยู่สูงตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับกำลังการผลิตที่กลับเข้าสู่ระดับปกติและปรับเพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์

นายวุฒิกร ยังคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตของทุกค่าย ส่งผลทำให้สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และจากเดือนสิงหาคมไปจนถึงสิ้นปี คาดว่าตลาดรถยนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากความชัดเจนของภาครัฐเรื่องกรอบเวลาในการซื้อและส่งมอบ ของนโยบายรถยนต์คันแรก อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในทวีปยุโรป มิได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น