ค่ายรถเปิดเกมรุกรถพลังงานทดแทนในไทย ดังจะเห็นได้จากการทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ(CNG-NGV), น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85(E85) และรถไฮบริด โดยเฉพาะรถยนต์ฮอนด้า 2 รุ่นใหม่ล่าสุด “ฮอนด้า ซีวิค” ที่ใช้น้ำมันอี 85 และ “แจ๊ซ ไฮบริด” ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่ได้มีการบุกเบิกรถไฮบริดมาก่อน รวมถึงรถซีเอ็นจี เตรียมจะเพิ่มทางเลือกรถใช้พลังงานทดแทน เพื่อรับมือตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ ที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เกือบทุกค่าย
ทั้งนี้การพัฒนารถใช้พลังงานทดแทน นอกจากเพื่อใช้พลังงานใหม่ๆ มาทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ที่นับวันจะลดน้อยลงเรื่อยๆ แล้ว ยังมาจากเรื่องของปัญหามลพิษไอเสีย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนารถของแต่ละยี่ห้อ ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ ในเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทำให้รถเหล่านี้มีราคาที่ต่ำลง ผู้บริโภคเป็นเจ้าของได้ง่าย หรือมีราคาเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า รถพลังงานทดแทนจึงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับประเทศไทยที่มีนโยบายด้านพลังงานและเรื่องสิ่งแวดล้อม เดินไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลก และเพื่อจูงใจให้ผลิตรถใช้พลังงานทดแทนในไทย จึงให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ รถใช้เชื้อเพลิงทดแทน โดยมีภาษีสรรพสามิตต่ำกว่ารถปกติทั่วไป ทำให้ค่ายรถมองเห็นโอกาสทางการตลาดตรงนี้ จึงได้เริ่มมีการผลิตรถใช้พลังงานทดแทนในไทย ไม่ว่าจะเป็นรถใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือรถใช้น้ำมันอี85 อย่างมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์, รถยนต์ไฮบริดของโตโยต้าในรุ่นคัมรี และพริอุส รวมถึงล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค อี85 และฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด
แน่นอนว่าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะผู้บริหารของฮอนด้าแย้มออกมาแล้วว่า การเปิดตัวรถพลังงานทดแทนดังกล่าว เป็นสัญญาณและจุดเริ่มต้น ที่จะเปิดโอกาสให้มีรถรุ่นอื่นๆ ตามมาอีก ซึ่งหากตามกระแสข่าวก็คงพอจะรับทราบกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี, ฮอนด้า แอคคอร์ด และซีวิค ไฮบริด ที่จะเปิดตัวช่วง 1-2 ปีจากนี้ หรืออย่างมิตซูบิชิที่กำลังศึกษาแผนการผลิต มิตซูบิชิ มิราจ ในเวอร์ชั่นใช้พลังงานไฟฟ้า หรือ EV เช่นเดียวกับนิสสันที่มีทั้งรถไฮบริด และอีวี
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ค่ายยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่เป็นผู้นำในเรื่องของรถพลังงานทดแทน จากการเปิดตัวรถซีเอ็นจี (โตโยต้า อัลติส และล่าสุดปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ ซีเอ็นจี และโดยเฉพาะรถไฮบริด โตโยต้า คัมรี และรุ่นพริอุส ซึ่งยังไม่รวมรถนำเข้าอีกหลายรุ่นของโตโยต้า และในเครืออย่างยี่ห้อ “เลกซัส” ย่อมต้องไม่นิ่งอยู่เฉยๆ แน่ในฐานะผู้นำโตโยต้า
จากรายงานล่าสุดโตโยต้ากำลังพัฒนา และปรับปรุงเครื่องยนต์บางรุ่น เพื่อให้สามารถรองรับน้ำมันอี85 เพื่อเปิดตัวสู่ตลาดช่วงปลายปีนี้ และจากการเปิดเผยของผู้บริหารโตโยต้า ระบุว่าเป็นรถที่มีในตลาด แต่ไม่ใช่รถเล็กที่มีความประหยัดอยู่แล้ว
นั่นก็หมายความว่า น่าจะเป็นเก๋งคอมแพ็กต์ “โตโยต้า อัลติส” ที่จะมีการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ในช่วงปลายปี พร้อมกับถือโอกาสนี้ปรับปรุงเครื่องยนต์และระบบให้รองรับน้ำมันอี85 (มีส่วนผสมของเอทานอลที่มาจากพืช 85%) ได้ เหมือนกับคู่แข่งในตลาด “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป หรือ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ที่เป็นรายแรกในตลาดคอมแพ็กต์คาร์ ขณะที่โตโยต้า คัมรี นั่นเพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่ และมีรุ่นไฮบริดอยู่แล้ว
โดยผู้บริหารของโตโยต้าให้ความเห็นว่า สาเหตุที่โตโยต้าเปิดตัวรถใช้เชื้อเพลิงน้ำมันอี85 แม้จะมีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่าน้ำมันอื่นๆ แต่ราคาที่ต่ำกว่ามาก ทำให้ผู้บริโภคประหยัดได้มากกว่าน้ำมันอื่นๆ และที่สำคัญมีการปล่อยไอเสียต่ำกว่าด้วย ส่วนปัญหาสถานีบริการน้ำมันอี85 จะยังมีน้อย แต่เชื่อว่าในอนาคตน่าจะมีเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม รถที่ใช้น้ำมันอี85 จะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีลดลงอีก 3% จากอัตราภาษีสรรพสามิตของรถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 ที่ลดลงจากอัตราปกติแล้ว 5% ทำให้โตโยต้า อัลติส ใหม่ ย่อมมีราคาที่ลดลงหรือเท่าเดิมในบางรุ่น แต่ได้มีอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ ฮอนด้า ซีวิค ที่เพิ่งเปิดตัวไป
การเตรียมไมเนอร์เชนจ์ และปรับเครื่องยนต์ให้รองรับน้ำมันอี85 ของโตโยต้า อัลติส ใหม่ นอกจากเพิ่มทางเลือกใช้พลังงานให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการรับมือคู่แข่งในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ ซึ่งมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นโฉมใหม่ของ ฮอนด้า ซีวิค, ฟอร์ด โฟกัส ที่มีจุดเด่นเรื่องอุปกรณ์ทันสมัย หรือการเปิดตัวโฉมใหม่ของ มาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มาเสริมทัพรุ่น 2.0 ลิตร และการเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ของ เชฟโรเลต ครูซ ซึ่งในต่างประเทศได้มีการเผยภาพไมเนอร์เชนจ์ของครูซออกมาแล้ว และในไทยน่าจะเปิดตัวอย่างเร็วปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า แถมยังมีรถนำเข้าอย่าง ฮุนได เอลันตร้า ที่เพิ่งเปิดตัวไป และที่จะมาเร็วๆ นี้เป็นคอมแพ็กต์ตัวใหม่ของค่ายโปรตอน
พูดถึงรถที่จะเปิดตัว...เชื่อว่าทุกสายตากำลังเฝ้ารอ “นิสสัน ซิลฟี” เก๋งคอมแพ็กต์ซีดานรุ่นใหม่ ที่จะมาแทน “นิสสัน ทีด้า ลาติโอ” ซึ่งล่าสุดมีรานงานข่าวจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยืนยันเปิดตัวรถยนต์นั่งระดับกลางแบบ 4 ประตู รุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อรุ่น “นิสสัน ซิลฟี” พร้อมกันทั่วประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณนี้ของนิสสัน หรือไตรมาสสามของปีปฏิทิน 2555
ในรายงานข่าวระบุว่า ชื่อรุ่นนิสสัน ซิลฟี ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณแห่งการผสมผสาน ของธาตุดิน ไฟ และน้ำ และถูกถ่ายทอดผ่านความสมบูรณ์แบบ จากการออกแบบที่เหนือชั้น โดยเตรียมพบกับรถยนต์รุ่นใหม่เร็ว ๆ นี้ และสำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล สิทธิพิเศษ และรับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวก่อนใคร ได้ที่ www.nissan.co.th ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป ส่วนวันที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการคาดว่าจะเป็นปลายเดือนสิงหาคม นี้
แม้คำแถลงของนิสสันจะไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ แต่จากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ตามสื่อต่างๆ ระบุว่านิสสัน ซิลฟี จะมีทำตลาดด้วยกัน 2 โมเดลหลัก เป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร โดยจะมีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งสามารถสอบรายละเอียดคร่าวๆ จากตัวแทนจำหน่ายได้แล้ว และต่อจากนิสสัน ซิลฟี โมเดลที่จะตามมา จะเป็นรุ่นแฮ็ทช์แบ็ก หรือ 5 ประตู “นิสสัน ทีด้า” โฉมใหม่เปิดตัวสู่ตลาด
จะเห็นว่าในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ มีการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้ตลาดเก๋งเล็ก ที่สำคัญยังมีแนวโน้มให้ได้เลือก ใช้พลังงานเชื้อเพลิงหลากหลายด้วย…