หลังจากบิ๊กไบค์สัญชาติอิตาเลียน “ดูคาติ” ปล่อยผลผลิตที่ประกอบในไทย หรือ “อาเซียนโมเดล” กวาดยอดขายทล่มทลายชนิดก้าวกระโดด ด้วยปัจจัยบวกราคาลงมาหลักแสนบาท ทว่า สิ่งที่ตามติดยอดขายเหมือนเงาตามตัว สำหรับเสียงสะท้อนจากกลุ่มลูกค้าใหม่ระดับชนชั้นกลาง ซึ่งมองว่าราคาอะไหล่และบริการยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าปกติ...บอสใหญ่ “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด พร้อมให้คำตอบ...
“อาเซียนโมเดล” ราคาลงหลักแสนบาท
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับยอดขายดูคาติปีก่อน (2554) ทะลุเป้าที่เคยตั้งไว้ 340 คัน ด้วยตัวเลขการขายทั้งหมด 368 คัน ในจำนวนนี้มีมอนสเตอร์ 795 หรืออาเซียนโมเดลอยู่ประมาณ 90 คัน แบ่งเป็นสัดส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ไม่เคยขี่บิ๊กไบค์มาก่อน 20% กลุ่มลูกค้าเดิม 10% และกลุ่มที่เปลี่ยนมาจากยี่ห้ออื่นอีก 70% จากการประกอบในประเทศไม่ต้องคิดภาษีนำเข้า ทำให้ราคาลดจากเดิม 6.5 แสนบาท ลงมาอยู่ที่ 3.99 แสนบาท
รวมทั้งล่าสุดเพิ่งเปิดตัวอาเซียนโมเดลอีกหนึ่งรุ่น “แดเวล” เครื่องยนต์ขนาด 1198 ซีซี 162 แรงม้า ในงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ตัวธรรมดาจากเดิมนำเข้า 1.1 ล้านบาท ลงมาที่ 7.99 แสนบาท และรุ่นคาร์บอน เรด จากเดิม 1.25 ล้านบาท ลงมาที่ 9.28 แสนบาท โดยรวมแล้วราคาลงมาประมาณ 27% และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มียอดจองไปแล้วรวมกัน 140 คัน ซึ่งจะเริ่มทยอยส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ในกลางเดือนกรกฎาคมนี้
ตั้งเป้ายอดขายทะลุพันคัน
สำหรับยอดขายครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ส่งมอบรถไปแล้ว 730 คัน และมียอดจองค้างอยู่กว่า 300 คัน ทั้งนี้ เราเพิ่มเป้ายอดขายจากเดิมอยู่ที่ 600-700 คัน ปรับใหม่เป็น 1,300 คัน แบ่งสัดส่วนอาเซียนโมเดล 70% สำหรับมอนสเตอร์ 795 อีก 15% สำหรับแดเวล และที่เหลืออีก 15% เป็นรถนำเข้า และเชื่อว่าจะสามารถทำได้ไม่ยาก เพราะจากตลาดโดยรวมที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนเคยใช้บิ๊กไบค์ญี่ปุ่นก็อยากลองเปลี่ยนมาใช้รถยุโรปบ้าง โดยเฉพาะแบรนด์ดูคาติที่ราคาลดลงมาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ย้ำราคาอะไหล่(ไม่)แพง
ประเด็นนี้จะเป็นความรู้สึกในกลุ่มลูกค้าใหม่ คงต้องบอกว่าค่าบำรุงรักษาเท่าเดิม เพียงแต่เมื่อก่อนราคารถ 6.5แสนบาท ยกตัวอย่างเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกละ 7,000 บาท หรือเทียบเท่า 1% ของราคารถ ขณะที่ปัจจุบันราคารถลงมาอยู่ที่ 3.99 แสนบาท แต่แบตเตอรี่ยังราคาเท่าเดิม ลูกค้ากลุ่มนี้จึงรู้สึกว่าแพง ซึ่งจริงๆ แล้วค่าอะไหล่มันก็ไม่ได้สูงขึ้น
กรณีดังกล่าวได้รับเสียงสะท้อนจากลูกค้าพอสมควร บางคนผ่อนรถเดือนละ 1.2 หมื่นบาท เข้ามาเซอร์วิสครั้งละ 5,000 บาท อาจไม่รู้สึกว่าแพง แต่บางคนผ่อนรถเดือนละ 6,000 บาท พอเข้ามารับบริการเจอราคาแบบนี้ก็ว่าสูงเกินไป ทั้งนี้ เรามีการสำรวจราคาอะไหล่ในตลาดและมียี่ห้ออื่นตั้งราคาสูงกว่าเราด้วย แต่ก็ยอมรับว่าของเราก็ไม่ได้ราคาถูก เรียกว่าสมเหตุสมผล โดยอ้างอิงจากต่างประเทศ มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ทางเราได้เจรจากับเจ้าของแบรนด์มานานแล้วว่า คุณจะขายเท่าเดิมไม่ได้ เพราะกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนไป ดังนั้น เราจึงปรับราคาใหม่ และกำลังแจ้งให้ลูกค้าทราบภายในกลางสัปดาห์นี้ว่า ราคาจะลดลง 19-25% ครอบคลุมอะไหล่สิ้นเปลืองที่เจ้าของรถจำเป็นต้องเปลี่ยน
เล็งขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการ
ด้านงานบริการจากปีที่แล้วมีโชว์รูมและศูนย์ฯ 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ, อุดรธานี และภูเก็ต ล่าสุดเพิ่มอีก 2 แห่ง แถวพระราม3และพัทยา ส่วนแผนขยายเพิ่มภายในปีนี้อีก 5 แห่ง โคราช, หัวหิน, เชียงใหม่, สยามพารากอน(เฉพาะโชว์รูม) และย่านวิภาวดี-รังสิต ซึ่งที่สุดท้ายถ้าไม่ทันอาจจะเลื่อนเป็นต้นปีหน้า และสำหรับโปรโมชั่นงานบริการที่กำลังจะเกิดขึ้น ในช่วงหน้าฝนหรือเรนนิ่งซีซั่นเซอร์วิส 3 เดือนนี้จะมีส่วนลดสูงสุด 20% ในด้านอะไหล่และแอคเซสซอรี่ด้วย
นอกจากขยายศูนย์บริการแล้ว ดูคาติยังเน้นการอบรมขับขี่ปลอดภัยเช่นเดิม เราพยายามจัดให้ใกล้เคียงกับไรดิ้งคอร์สที่อิตาลีมากที่สุด เพราะการใช้รถมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเสมอ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์มีโอกาสเข้าร่วมอย่างน้อย 1-2 คอร์ส ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของเราหรือไม่ก็ตาม
คาดโมเดลใหม่มาแน่
จากที่บริษัทแม่เข้ามาลงทุนกว่า 879 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานผลิตในไทย เชื่อว่าคงจะไม่ทำเพียงแค่ “มอนสเตอร์ 795” หรือ “แดเวล” เท่านั้น คาดว่าจะมีรุ่นอื่นๆ ที่ประกอบเพิ่มตามมาแน่นอน ส่วนจะเป็นรุ่นอะไร ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางโรงงาน และยิ่งปัจจุบันโฟล์คฯ กรุ๊ป เทกโอเวอร์ดูคาติเรียบร้อยแล้ว การที่จะปล่อยให้ดูคาติมียอดขายปกติเพียงแค่ 4 หมื่นกว่าคันต่อปีทั่วโลก คงไม่ใช่แนวทางของโฟล์คฯ ผมมองว่าอย่างน้อยต้องหวังดันยอดขายถึงหลักแสนคัน ซึ่งคงต้องใช้โมเดลใหม่มาช่วยในการขยายตลาดด้วย
