ข่าวในประเทศ - “ฟอร์ด” เปิดโรงงานแห่งใหม่ในไทย มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท สร้างเม็ดเงินจากการซื้อชิ้นส่วนไทยปีละ 2.5 หมื่นล้านบาท มั่นใจฟื้นการผลิตปิกอัพจากปัญหาน้ำท่วม และเปิดโรงงานใหม่ ช่วยดันฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในภูมิภาคเอเชีย กลับมามีกำไรได้ภายในสิ้นปีนี้
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/555000005782501.JPEG)
นายโจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา เปิดเผยว่า ฟอร์ดได้เปิดโรงงานระดับโลกแห่งใหม่ในไทย ภายใต้ชื่อ ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ด้วยเงินลงทุน 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ของฟอร์ดในประเทศไทย
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเริ่มผลิตรถยนต์นั่ง ฟอร์ด โฟกัส เป็นโมเดลแรก และในอนาคตโรงงานแห่งนี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญของฟอร์ด ในการดำเนินงานตามแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แผน One Ford จำนวน 8 รุ่นในภูมิภาคอาเซียน ภายในปี พ.ศ.2558
“การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ระดับโลกแห่งใหม่ของฟอร์ด ยังส่งเสริมระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ ผ่านเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ คิดเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี หรือประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท”
![โจ ฮินริคส์](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/555000005782502.JPEG)
ทั้งนี้ เอฟทีเอ็มมีกำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณ 1.5 แสนคันต่อปี มีการจ้างงานถึง 1.1 หมื่นตำแหน่ง แบ่งเป็นการจ้างงานโดยตรงกับฟอร์ด 2,200 ตำแหน่ง และการจ้างงานทางอ้อมผ่านเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้จำหน่าย 8,800 ตำแหน่ง ปัจจุบันได้จ้างพนักงานเข้าทำงานในโรงงานแล้ว 1,600 คน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นผลิต ซึ่งจะเริ่มผลิตฟอร์ด โฟกัส อย่างเป็นทางการปลายเดือนมิถุนายนนี้ และจะส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
นายฮินริคส์ เปิดเผยว่า ภูมิภาคอาเซียนมีการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนที่ดี โดยเฉพาะอนาคตจะมีการเปิดเสรีในอาเซียน หรือ เออีซี (AEC) ซึ่งฟอร์ดเตรียมพร้อมรองรับอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยฟอร์ดได้เข้าไปศึกษาดูยังประเทศอินโดนีเซีย แต่ยังไม่สรุปว่าจะตัดสินใจอย่างโร
ขณะที่ไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี นอกจากประเทศจีน และอินเดีย และเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ดยังเพิ่งประกาศลงทุนในโรงงานออโต อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) ซึ่งเป็นโรงงานร่วมทุนของฟอร์ดแห่งในไทย ด้วยมูลค่าการลงทุน 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 2 หมื่นคันต่อปี
![โรงงานแห่งใหม่จะเริ่มผลิต ฟอร์ด โฟกัส เป็นโมเดลแรก](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/555000005782503.JPEG)
“จากความพร้อมของการผลิตฟอร์ดในไทย จะทำให้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในภูมิภาคเอเชีย ที่มีผลประกอบการขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการไม่สามารถผลิตและส่งมอบปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ จากเหตุการณ์น้ำท่วมในไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันทุกอย่างกลับมาสามารถผลิตได้ปกติ จึงมั่นใจว่า ฟอร์ดจะสามารถกลับมามีผลการดำเนินเป็นกำไรในปีนี้”
สำหรับการป้องกันปัญหาน้ำท่วม หากจะมีขึ้นอีกในอนาคตแม้โรงงานฟอร์ดทั้งสองแห่งในไทยจะไม่อยู่ในพื้นที่โดยตรงแต่มีซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ฟอร์ดจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ หรือเคลื่อนย้ายชิ้นส่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการผลิตเหมือนที่ผ่านมา
นายโจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา เปิดเผยว่า ฟอร์ดได้เปิดโรงงานระดับโลกแห่งใหม่ในไทย ภายใต้ชื่อ ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ด้วยเงินลงทุน 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ของฟอร์ดในประเทศไทย
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเริ่มผลิตรถยนต์นั่ง ฟอร์ด โฟกัส เป็นโมเดลแรก และในอนาคตโรงงานแห่งนี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญของฟอร์ด ในการดำเนินงานตามแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แผน One Ford จำนวน 8 รุ่นในภูมิภาคอาเซียน ภายในปี พ.ศ.2558
“การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ระดับโลกแห่งใหม่ของฟอร์ด ยังส่งเสริมระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ ผ่านเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ คิดเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี หรือประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท”
ทั้งนี้ เอฟทีเอ็มมีกำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณ 1.5 แสนคันต่อปี มีการจ้างงานถึง 1.1 หมื่นตำแหน่ง แบ่งเป็นการจ้างงานโดยตรงกับฟอร์ด 2,200 ตำแหน่ง และการจ้างงานทางอ้อมผ่านเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้จำหน่าย 8,800 ตำแหน่ง ปัจจุบันได้จ้างพนักงานเข้าทำงานในโรงงานแล้ว 1,600 คน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นผลิต ซึ่งจะเริ่มผลิตฟอร์ด โฟกัส อย่างเป็นทางการปลายเดือนมิถุนายนนี้ และจะส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
นายฮินริคส์ เปิดเผยว่า ภูมิภาคอาเซียนมีการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนที่ดี โดยเฉพาะอนาคตจะมีการเปิดเสรีในอาเซียน หรือ เออีซี (AEC) ซึ่งฟอร์ดเตรียมพร้อมรองรับอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยฟอร์ดได้เข้าไปศึกษาดูยังประเทศอินโดนีเซีย แต่ยังไม่สรุปว่าจะตัดสินใจอย่างโร
ขณะที่ไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี นอกจากประเทศจีน และอินเดีย และเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ดยังเพิ่งประกาศลงทุนในโรงงานออโต อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) ซึ่งเป็นโรงงานร่วมทุนของฟอร์ดแห่งในไทย ด้วยมูลค่าการลงทุน 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 2 หมื่นคันต่อปี
“จากความพร้อมของการผลิตฟอร์ดในไทย จะทำให้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในภูมิภาคเอเชีย ที่มีผลประกอบการขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการไม่สามารถผลิตและส่งมอบปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ จากเหตุการณ์น้ำท่วมในไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันทุกอย่างกลับมาสามารถผลิตได้ปกติ จึงมั่นใจว่า ฟอร์ดจะสามารถกลับมามีผลการดำเนินเป็นกำไรในปีนี้”
สำหรับการป้องกันปัญหาน้ำท่วม หากจะมีขึ้นอีกในอนาคตแม้โรงงานฟอร์ดทั้งสองแห่งในไทยจะไม่อยู่ในพื้นที่โดยตรงแต่มีซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ฟอร์ดจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ หรือเคลื่อนย้ายชิ้นส่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการผลิตเหมือนที่ผ่านมา