ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า กระแสฮอตที่ว่าใครๆ ก็ต้องมีเอสยูวีขายกลายเป็นเรื่องที่ลุกลามไปทั่ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาเกิดกับลัมบอร์กินี เพราะนักประวัติศาสตร์รถยนต์ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์จากค่ายนี้คงทราบดีว่า ลัมบอร์กินีเคยขายเอสยูวีมาก่อนแล้วในช่วงทศวรรษที่ 1980 เพียงแต่ว่ามาเร็ว (เกิน) ไปหน่อย เอสยูวีก็เลยไม่ได้ช่วยประคับประคองกิจการของบริษัทให้อยู่รอดปลอดภัยเหมือนอย่างที่ทำได้ในหลายๆ บริษัทช่วงทศวรรษที่ 1990 และ 2000
ก็ได้แต่หวังว่าภาพที่เห็นอยู่นี้จะเป็นเรื่องของการมาแบบ ‘ถูกที่ และถูกเวลา’
ลัมบอร์กินีประกาศชัดในเวลาที่ใกล้เคียงกับแบรนด์พี่น้องอย่างเบนท์ลีย์ในการเข้าเจาะตลาดเอสยูวี เพียงแต่ว่าค่ายหลังเผยโฉมผลงานให้เห็นก่อน ส่วนของกระทิงเปลี่ยวยังไม่มา จนกระทั่งในงานออโต้ ไชน่า หรือปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศจีน แบรนด์ดังแห่ง Sant’ Agata ก็เพิ่งจะได้ฤกษ์เผยโฉมออกมาให้เห็น
ต้นแบบรุ่นนี้มีชื่อว่า Urus ซึ่งแน่นอนเป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับกระทิง เพียงแต่ไม่ตรงเด๊ะๆ เหมือนกับที่ผ่านมาๆ เพราะ Urus เป็นชื่อที่ดัดแปลงมาจาก Aurochs หรือชื่อกระทิงโบราณที่มีอายุอานามมากกว่า 500 ปี และวัวกระทิงสเปนที่ถูกนำมาใช้เกมส์กีฬาสู้วัวกระทิงต่างก็ได้รับการพัฒนามาจากวัวสายพันธุ์นี้
Urus มาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวตามแบบฉบับการออกแบบของลัมบอร์กินี โดยตัวถังเป็นแบบ 5 ประตู และเสริมความสวยเร้าใจที่มาพร้อมกับความยาว 4,990 มิลลิเมตร กว้าง 1,990 มิลลิเมตร สูง 1,660 มิลลิเมตร ซึ่งยาวกว่า กว้างกว่า แต่เตี้ยกว่าบีเอ็มดับเบิลยู X6 อยู่ 120, 16 และ 30 มิลลิเมตร
หน้าที่ในการขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์แบบสันดาปภายในที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่ระบุแค่ว่ามีกำลังสูงสุดถึง 600 แรงม้า และมีระดับการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน โดยในตอนนี้แหล่งข่าวภายในระบุว่าอาจจะใช้เครื่องยนต์วี 10 เหมือนกับสปอร์ตรุ่นอื่นๆ หรือไม่ก็บล็อกวี 8 เทอร์โบคู่รุ่นใหม่ ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ของค่ายออดี้
มาแน่ไม่เกินปี 2015 โดยทางลัมบอร์กินีคาดหวังว่าจะมียอดขายมากถึง 3,000 คันต่อปี