เช็กตลาดโค้งแรก...ดูรถฮอตฮิตของคนไทย

หลังจากเจออุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้คนไทยชะลอการซื้อรถไปหลายเดือน และเมื่อเข้าสู่ปีงูใหญ่ 2555 สถานการณ์ฟื้นกลับมาปกติ คนไทยเริ่มเลือกหาซื้อรถคนใหม่อีกครั้ง ทั้งถอยตามความตั้งใจเดิม หรือซื้อแทนรถคันเก่าที่ถูกน้ำท่วม ดังนั้นจึงน่าสนใจว่า… ช่วงโค้งแรก หรือไตรมาสหนึ่ง (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2555 ในบรรดารถตลาด หรือรถบ้านๆ คนไทยฮอตฮิตรถแบบไหน? ยี่ห้ออะไร? และผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อรถของคนไทยหรือไม่?

คำตอบเรื่องผลกระทบของน้ำท่วม ต่อการเลือกซื้อรถของคนไทย น่าจะมีผลอยู่พอสมควร?! เพราะดูตัวเลขยอดขายตลาดปิกอัพ 1 ตัน พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงถึงกว่า 35% ซึ่งนั่นคงเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องน้ำจะกลับมาท่วมอีก และกลัวรัฐบาล “เอาไม่อยู่” เช่นเดิม ปิกอัพจึงเป็นทางเลือกแรกของผู้บริโภคกลุ่มนี้ และอีกเหตุผลที่สำคัญตลาดปิกอัพมีการเปิดตัวรถโมเดลใหม่มากถึง 4 รุ่น ย่อมส่งผลให้ตลาดกลับมาร้อนแรงเพิ่มไปอีก

แต่ใช่ว่าการเปิดรถโมเดลใหม่ จะทำให้เจ้าตลาด “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” จะถูกโค่นบัลลังก์ลงได้ เพราะถึงจะไม่โมเดลเชนจ์เหมือนคู่แข่งสำคัญ “อีซูซุ ดีแมคซ์” หรือมาสด้า บีที-50, ฟอร์ด เรนเจอร์ และเชฟโรเลต โคโลราโด แต่วีโก้ได้มีการไมเนอร์เชนจ์ไปก่อนไม่นาน บวกกับแคมเปญและกิจกรรมตลาดสู่ฐานลูกค้าตรงในต่างจังหวัด ทำให้ยอดขายโตโยต้า วีโก้ แชมป์ ครองอันดับ 1 เหนียวแน่น ด้วยจำนวนกว่า 5.6 หมื่นคัน มากกว่าปีที่แล้วช่วงเดียวกัน 40% ตามมาด้วย อีซูซุ ดีแมคซ์ โฉมใหม่ ที่ขายไป 4.5 หมื่นคัน หรือเพิ่มขึ้น 23%

ปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ยิ่งทำตลาดนานยิ่งเข้าตาผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อบวกกับแคมเปญ จึงสามารถยึดอันดับ 3 กว่า 1.64 หมื่นคัน ขณะที่ นิสสัน นาวารา ยังคงอาศัยชื่อเสียงที่มีมาก่อน ขายไปกว่า 5.9 พันคัน แม้จะแพ้ปิกอัพโฉมใหม่ เชฟโรเลต โคโลราโด ที่อยู่อันดับ 4 จำนวน 7.9 พันคัน แต่ยังอยู่ในใจคนไทยมากกว่าปิกอัพโฉมใหม่อย่าง มาสด้า บีที-50 และฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ทำได้ 3.6 และ 3.2 พันคัน ตามลำดับ

เก๋งเล็กเป็นอีกตลาดใหญ่ของไทยปัจจุบัน ยังคงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคด้วยดี ยิ่งปัจจุบันมีโครงการรถคันแรก ทำให้ตลาดยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้จะไม่ขยายตัวเท่ากับปิกอัพก็ตาม โดยเก๋งซับคอมแพกต์มียอดขายมากกว่า 4 หมื่นคัน ซึ่งตลาดนี้แบ่งรถเป็น 2 กลุ่มหลักใหญ่ๆ คือ แบบซีดาน 4 ประตู และผู้ครองตลาดนี้ยังคงเป็น โตโยต้า วีออส ที่แม้โฉมนี้จะทำตลาดมาหลายปี แต่ด้วยชื่อชั้นและซื้อแล้วสบายใจ ไม่ต้องห่วงเรื่องศูนย์บริการ อะไหล่ และราคาขายต่อมากนัก ทำให้คนไทยยังเลือกวีออสเป็นหนึ่งในใจเสมอ ด้วยยอดขายกว่า 2.5 หมื่นคัน เพิ่มจากปีที่แล้ว 33%

แต่อันดับสองเปลี่ยนไป! เพราะฮอนด้า ซิตี้ ที่ครองตำแหน่งนี้มาตลอด ในระดับกว่าหมื่นคันขึ้นไป เจอพิษน้ำท่วมโรงงานจมมิดจนไม่สามารถผลิตรถได้ มีเพียงบางรุ่นอย่าง ฮอนด้า แจ๊ซ และแอคคอร์ด ที่ขอโควตาพิเศษรัฐบาลนำเข้าจากญี่ปุ่น จึงพอมีตัวเลขยอดขายบ้าง อันดับสองจึงตกเป็นของ “มาสด้า 2” จำนวนกว่า 5.6 พันคัน ตามมาด้วย เชฟโรเลต อาวีโอ จำนวน 1.9 พันคัน

ส่วนเก๋งซับคอมแพกต์แบบ 5 ประตู หรือแฮทช์แบ็ก ผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้เดิมฮอนด้า แจ๊ซ ที่เคยเป็นเจ้าตลาดมียอดขายกว่า 5 พันคัน ต้องสูญเสียตำแหน่งให้กับ ฟอร์ด เฟียสต้า ขายไปกว่า 4.7 พันคัน (รุ่นซีดานกลับไม่แรงทำได้1.1 พันคัน) เฉือนมาสด้า 2 ที่ทำได้ 4.07 พันคันไปนิดๆ

ในกลุ่มเก๋งเล็กมีรถที่เกิดใหม่ “อีโคคาร์” กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเปิดตัวของ “มิตซูบิชิ มิราจ” และ “ซูซูกิ สวิฟท์” ในงานมอเตอร์โชว์ 2012 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีรถทำตลาดถึง 5 โมเดล แต่ช่วงไตรมาสแรกรถที่ส่งมอบลูกค้ามีเพียง 3 รุ่นเดิม อันดับหนึ่งจึงตกเป็นของ นิสสัน อัลเมร่า ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังนิยมรถแบบ 4 ประตูเช่นเดิม ทำได้กว่า 1.16 หมื่นคัน ตามมาด้วยรุ่นแฮตช์แบ็ก นิสสัน มาร์ช 7.1 พันคัน และฮอนด้า บริโอ้ ที่ขนรถหนีน้ำได้ทันแค่ 40 คัน

มาที่ตลาดเก๋งคอมแพกต์ร่วม 2.1 หมื่นคัน ครองสัดส่วนมากสุด โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ขายไปกว่า 1.3 หมื่นคัน ขณะที่ฮอนด้า ซีวิค เจอพิษน้ำท่วมและเป็นช่วงกำลังปรับเปลี่ยนโมเดล จึงสูญเสียตำแหน่งเบอร์สองให้กับเชฟโรเลต ครูซ ด้วยยอดขาย 2.45 พันคัน ซึ่งต้องมาดูตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพราะซีวิคโฉมใหม่เปิดตัวสู่ตลาด และโรงงานฮอนด้ากลับมาผลิตเต็มกำลัง ว่าจะสามารถไล่ทวงตำแหน่งคืนได้หรือไม่? ส่วนอันดับ 3 โตโยต้า พริอุส รถไฮบริดคว้าไปครอง จำนวน 1.2 พันคัน ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นมาสด้า 3, ฟอร์ด โฟกัส หรือมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ทำได้ในระดับกว่า 800 คัน

ขณะที่เก๋งขนาดกลาง (D-segment) ค่อนข้างเงียบเหงาพอสมควร เพราะล้วนเป็นโมเดลเก่า โตโยต้า คัมรี่ จะเปิดโฉมใหม่ทำตลาดเป็นทางการเมษายนนี้ ขณะที่ฮอนด้า แอคคอร์ด นอกจากโรงงานถูกน้ำท่วมจนผลิตไม่ได้ ยังเหลือเวลาทำตลาดอีกเพียงปีเดียว เหมือนกับนิสสัน เทียน่า แต่ถึงอย่างนั้นยังไม่สามารถโค่นรถที่จะตกรุ่นอย่างคัมรี่ลงได้ (ดูตาราง)

สำหรับตลาดรถอเนกประสงค์ ที่ได้รับความนิยมคงจะเป็นกลุ่มพีพีวี(PPV) ที่พัฒนามาจากพื้นฐานปิกอัพ การเร่งกำลังการผลิตของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทำให้ทิ้งห่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มากขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถูกไล่ตามมาจนมีระยะห่างเพียงไม่กี่ร้อยคัน ตอนนี้ทิ้งห่างกว่า 2 พันคัน (ดูตารางประกอบ) แต่ถึงอย่างนั้นลูกค้าที่จองซื้อฟอร์จูนเนอร์ในปัจจุบัน ยังต้องรอรถนาน 4-5 เดือน

ด้านรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ในเมื่อฮอนด้าต้องหยุดกิจกรรมการขายจากพิษน้ำท่วม ทำให้ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของ “ซีอาร์-วี” ถูกคู่แข่ง “เชฟโรเลต แคปติวา” ชิงไป แต่ก็ไม่แน่หากซีอาร์-วียังขายปกติ อาจจะไม่สามารถรักษาบัลลังก์ไว้ได้เช่นกัน เพราะตัวเลขยอดขายแคปติวากว่า 3 พันคัน ชนะฮอนด้าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วด้วย แถมยังเป็นช่วงท้ายโมเดลของซีอาร์-วี ขณะที่แคปติวาปรับโฉม และมีเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ทำตลาดอีก ส่วนอันดับสามตกเป็นของ ฟอร์ด เอสเคป ที่อยู่ช่วงท้ายโมเดลเช่นกัน

นี่เป็นรถฮอตฮิตของคนไทย ในช่วงไตรมาสแรกปีงูใหญ่ แต่จากนี้ไปตำแหน่งอาจจะเปลี่ยน เมื่อบริษัทรถกลับมาผลิตทุกยี่ห้อ เร่งส่งมอบรถเร็วขึ้น และรถโมเดลใหม่ลุยเต็มตัว ทีนี้ค่อยมาดูกันในช่วงครึ่งปี และสิ้นปีว่า... ใครจะอยู่? หรือใครจะไป?

ตารางแสดง 3 อันดับรถขายดีแต่ละประเภท เดือน ม.ค.-มี.ค. ปี 2555

ประเภทรถ	อันดับ 1	จำนวน (คัน)	อันดับ 2	จำนวน (คัน)	อันดับ 3	จำนวน (คัน)
ปิกอัพ 1 ตัน	โตโยต้า วีโก้	56,199	อีซูซุ ดีแมคซ์	45,082	มิตซูบิชิ ไทรทัน	16,470
ขนาดกลาง (D-Car)	โตโยต้า คัมรี่	3,571	นิสสัน เทียน่า	1,944	ฮอนด้า แอคคอร์ด	45
คอมแพกต์ (C-Car)	โตโยต้า อัลติส	13,834	เชฟโรเลต ครูซ	2,449	โตโยต้า พริอุส	1,225
ซับคอมแพกต์ (B-Car)
แบบซีดาน	โตโยต้า วีออส	25,770	มาสด้า 2	5,668	เชฟโรเลต อาวีโอ	1,904
ซับคอมแพกต์ (B-Car)
แบบแฮทช์แบ็ก	ฟอร์ด เฟียสต้า	4,749	มาสด้า 2	4,073	โตโยต้า ยาริส	3,386
อีโคคาร์	นิสสัน อัลเมร่า	11,620	นิสสัน มาร์ช	7,186	ฮอนด้า บริโอ้	40
เอสยูวี	เชฟโรเลต แคปติวา	3,032	ฟอร์ด เอสเคป	150	นิสสัน เอ็กซ์-เทรล	148
พีพีวี	โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์	8,819	มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต	6,529	อีซูซุ มิว-7	983