ข่าวในประเทศ - ค่าย“ฮอนด้า” ส่งรถยนต์ 10 รุ่นลุยงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2012 โดยไฮไลต์อยู่ที่การเผยโฉม “ซีวิค ใหม่” ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมขายเดือนพฤษภาคมนี้ ยันราคาใกล้เคียงรุ่นเดิมหรือปรับเพิ่มไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งยังนำเข้ารถจากญี่ปุ่นมาเสริมทัพอีก 3 รุ่น โอดิสซีย์,สเตปแวกอน สปาด้า และ ซีอาร์-ซีร์ ไฮบริด
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าเตรียมยนตรกรรมหลากหลายไว้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งยังขยายฐานธุรกิจไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ที่มีระดับมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมให้ฮอนด้าในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยเริ่มจากการเผยโฉม ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยแนวคิด “ความเป็นที่สุดของรถซีดาน” ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ในยุคนี้ พร้อมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้า ซึ่งมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้นในบางรุ่น แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
นอกจากนี้ฮอนด้ายังได้นำเข้ารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอีก 3 รุ่น เพื่อรองรับตลาดให้ครอบคลุมสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (MUV) ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว 2 รุ่น คือ โอดิสซีย์ (ODYSSEY) และ สเตปแวกอน สปาด้า (STEP WGN SPADA) ส่วนอีก 1 รุ่น คือ ซีอาร์-ซีร์ (CR-Z) นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตไฮบริดที่เหมาะกับการใช้งานได้ทุกวัน
สำหรับโอดิสซีย์ มาพร้อมเครื่องยนต์ DOHC i-VTEC 2.4 ลิตร 180 แรงม้า ประกบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมถุงลม 6 ตำแหน่ง ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง
โดยโอดิสซีย์รุ่น 2.4 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีเทาโพลิช และสีดำคริสตัล ราคา 2,557,000 บาท
ส่วน “สเตปแวกอน สปาด้า” เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ในแบบมินิแวนสปอร์ตหรู ด้านหน้าได้รับการออกแบบอย่างลงตัวตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้าและ ไฟหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟท้ายแบบ LED พร้อมสปอยเลอร์หลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวางรองรับได้ถึง 8 ที่นั่ง เบาะผ้าสีดำสไตล์สปอร์ต สามารถปรับเบาะให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ประตูด้านข้างสไลด์แบบอัตโนมัติ ซ้าย-ขวา ให้ความสะดวกสบายและความอิสระในการก้าวขึ้น-ลง
พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เครื่องเล่นดีวิดีพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องส่องภาพด้านหลัง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านเครื่องยนต์แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 2.0 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
สเตปแวกอน สปาด้า รุ่น 2.0 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีน้ำเงินโคบอลต์ และสีดำพรีเมียม แบล็คคิช ราคา 2,174,000 บาท
ขณะที่“ซีอาร์-ซีร์” (CR-Z) สปอร์ตไฮบริด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมตอบสนองการขับขี่ที่สนุกเร้าใจได้ทุกวัน รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ด้วยดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์รถแข่ง
ภายในห้องโดยสารสไตล์สปอร์ต ล้ำสมัยด้วยเทคนิคการออกแบบเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต โอบกระชับ เบาะที่นั่งด้านหลัง สามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย ให้ประโยชน์ในการใช้งานยิ่งขึ้น คอนโซลหน้าและสวิตช์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมกับการใช้งาน มาตรวัดเรืองแสง 3 มิติ ให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน ล้ำสมัยด้วยไฟสีฟ้า ในโหมดการขับขี่แบบปกติ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในโหมดการขับขี่สปอร์ต และเปลี่ยนเป็นสีเขียวในโหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูล (Multi Information Display)ที่ใช้งานง่าย เสาอากาศวิทยุเครื่องเสียงแบบครีบ พร้อม
เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ให้ประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่แรงและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควมคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS เพิ่มความมั่นใจในระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบช่วยควบคุมการทรงตัวแบบ VSA
ซีอาร์-ซีร์ รุ่น 1.5 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีดำคริสตัล และสีเทาสตอร์ม จำหน่ายในราคา 1,975,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรถแต่งต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ ที่เพิ่มความเร้าใจจากการแต่งรถใน 2 สไตล์ คือ Day Life Concept ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยวเต็มรูปแบบ ลงตัวกับสีพิเศษ ส้ม โซล่าร์ เมทัลลิก และ Night Life Concept
ตลอดจนยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ได้แก่ แจ๊ซ ซิตี้ แอคคอร์ด ซีอาร์-วี และฟรีด รวมทั้งสิ้น 10 รุ่น และเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น จึงมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์ 3 รุ่น อาทิ ซีอาร์-วี ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ฟรีด รุ่น E Limited ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% และ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ส่วนบริโอ้ มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79%
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮอนด้าเตรียมยนตรกรรมหลากหลายไว้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งยังขยายฐานธุรกิจไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ที่มีระดับมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมให้ฮอนด้าในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยเริ่มจากการเผยโฉม ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยแนวคิด “ความเป็นที่สุดของรถซีดาน” ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ในยุคนี้ พร้อมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้า ซึ่งมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้นในบางรุ่น แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
นอกจากนี้ฮอนด้ายังได้นำเข้ารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นอีก 3 รุ่น เพื่อรองรับตลาดให้ครอบคลุมสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (MUV) ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว 2 รุ่น คือ โอดิสซีย์ (ODYSSEY) และ สเตปแวกอน สปาด้า (STEP WGN SPADA) ส่วนอีก 1 รุ่น คือ ซีอาร์-ซีร์ (CR-Z) นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตไฮบริดที่เหมาะกับการใช้งานได้ทุกวัน
สำหรับโอดิสซีย์ มาพร้อมเครื่องยนต์ DOHC i-VTEC 2.4 ลิตร 180 แรงม้า ประกบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมถุงลม 6 ตำแหน่ง ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง
โดยโอดิสซีย์รุ่น 2.4 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีเทาโพลิช และสีดำคริสตัล ราคา 2,557,000 บาท
ส่วน “สเตปแวกอน สปาด้า” เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ในแบบมินิแวนสปอร์ตหรู ด้านหน้าได้รับการออกแบบอย่างลงตัวตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้าและ ไฟหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟท้ายแบบ LED พร้อมสปอยเลอร์หลัง ภายในห้องโดยสารกว้างขวางรองรับได้ถึง 8 ที่นั่ง เบาะผ้าสีดำสไตล์สปอร์ต สามารถปรับเบาะให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ประตูด้านข้างสไลด์แบบอัตโนมัติ ซ้าย-ขวา ให้ความสะดวกสบายและความอิสระในการก้าวขึ้น-ลง
พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เครื่องเล่นดีวิดีพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องส่องภาพด้านหลัง ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ปุ่ม ECON Mode ที่ช่วยให้การขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านเครื่องยนต์แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 2.0 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
สเตปแวกอน สปาด้า รุ่น 2.0 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีน้ำเงินโคบอลต์ และสีดำพรีเมียม แบล็คคิช ราคา 2,174,000 บาท
ขณะที่“ซีอาร์-ซีร์” (CR-Z) สปอร์ตไฮบริด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมตอบสนองการขับขี่ที่สนุกเร้าใจได้ทุกวัน รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ด้วยดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์รถแข่ง
ภายในห้องโดยสารสไตล์สปอร์ต ล้ำสมัยด้วยเทคนิคการออกแบบเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต โอบกระชับ เบาะที่นั่งด้านหลัง สามารถพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย ให้ประโยชน์ในการใช้งานยิ่งขึ้น คอนโซลหน้าและสวิตช์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมกับการใช้งาน มาตรวัดเรืองแสง 3 มิติ ให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน ล้ำสมัยด้วยไฟสีฟ้า ในโหมดการขับขี่แบบปกติ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในโหมดการขับขี่สปอร์ต และเปลี่ยนเป็นสีเขียวในโหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูล (Multi Information Display)ที่ใช้งานง่าย เสาอากาศวิทยุเครื่องเสียงแบบครีบ พร้อม
เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ให้ประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่แรงและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบควมคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS เพิ่มความมั่นใจในระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ทั้งระบบถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบช่วยควบคุมการทรงตัวแบบ VSA
ซีอาร์-ซีร์ รุ่น 1.5 L JP มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียม สีดำคริสตัล และสีเทาสตอร์ม จำหน่ายในราคา 1,975,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรถแต่งต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ ที่เพิ่มความเร้าใจจากการแต่งรถใน 2 สไตล์ คือ Day Life Concept ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยวเต็มรูปแบบ ลงตัวกับสีพิเศษ ส้ม โซล่าร์ เมทัลลิก และ Night Life Concept
ตลอดจนยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ได้แก่ แจ๊ซ ซิตี้ แอคคอร์ด ซีอาร์-วี และฟรีด รวมทั้งสิ้น 10 รุ่น และเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายขึ้น จึงมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์ 3 รุ่น อาทิ ซีอาร์-วี ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ฟรีด รุ่น E Limited ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% และ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ส่วนบริโอ้ มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79%