ข่าวในประเทศ-วอลโว่ กรุ๊ป คุยผลการดำเนินงานปี 2554 สามารถดันยอดขายทะลุเป้า พร้อมยืนยันเชื่อมั่นประเทศไทย ยอมควักเงินลงทุนเพิ่ม 4,000 ล้านบาท รุกขยายเครือข่ายงานบริการและเพิ่มไลน์ประกอบ หวังรองรับการเติบโตในกลุ่มอาเซียน
ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การส่งมอบรถบรรทุกวอลโว่ทั่วโลกเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 27% หรือ 11,882 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขการส่งมอบตลอดปีที่แล้วนั้นมีสูงถึง 115,346 คัน คิดเป็นอัตราเติบโต 53%
ในทวีปเอเชีย การส่งมอบรถบรรทุกในเดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้วเติบโตขึ้น 39% โดยมียอดการส่งมอบอยู่ที่ 1,826 คัน ส่วนยอดการส่งมอบรถบรรทุกในประเทศรัสเซียรวม 878 คัน คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 90% ในขณะที่ยุโรปตะวันออก ยอดส่งมอบรถเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมของปี 2553
สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดรถบรรทุกหนักมีศักยภาพที่จะเติบโตสูงมาก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการ รวมตัวเป็นตลาดเดียวของกลุ่มประเทศอาเขียนหรือ AEC (ASEAN Economic Community) ที่จะเริ่มในปี พ.ศ.2558 ซึ่งตลาดรวมของรถบรรทุกหนักในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยในปีที่แล้วราว 7% โดยในส่วนของ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) เองนั้นมีตัวเลขส่งมอบรถบรรทุกปีที่แล้วอยู่ที่ 523 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 5% ในเซ็กเม้นท์ของกลุ่มรถบรรทุกหนัก (Heavy-Duty)
“ประเทศไทยถือเป็นฐานการประกอบสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งนอกจากจะเพื่อจำหน่ายภายในประเทศไทยแล้ว ยังเพื่อส่งออกไปประเทศลาว พม่า และกัมพูชาอีกด้วย เรายังมองไปไกลถึงการรวมตลาดอาเชียนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อโครงการ AEC นั้นจะมีส่วนผลักดันความต้องการในตลาดรถบรรทุกหนัก ให้มีอัตราเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว” ฌาร์ค กล่าวและว่า
“คำตอบของวอลโว่ กรุ๊ป สำหรับตลาดที่กำลังเติบโตนี้ คือการยืนยันการลงทุนในประเทศไทยอีก 4 พันล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการตอกย้ำการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เราได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนราว 2 พันล้านบาทในประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายการบริการเพิ่มเติมอีก 9 แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 6 แห่ง รวมเป็น 15 แห่ง ส่วนอีก 2 พันล้านบาทนั้นจะเป็นการลงทุนขยายกำลังการ ประกอบในโรงงานประกอบของ TSA เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแน่นอนที่สุด การลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้เราต้องเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 1,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันที่เรา มีพนักงานราว 500 คนมาเป็น 1,500 คนภายใน 18 เดือน”
ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การส่งมอบรถบรรทุกวอลโว่ทั่วโลกเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 27% หรือ 11,882 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขการส่งมอบตลอดปีที่แล้วนั้นมีสูงถึง 115,346 คัน คิดเป็นอัตราเติบโต 53%
ในทวีปเอเชีย การส่งมอบรถบรรทุกในเดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้วเติบโตขึ้น 39% โดยมียอดการส่งมอบอยู่ที่ 1,826 คัน ส่วนยอดการส่งมอบรถบรรทุกในประเทศรัสเซียรวม 878 คัน คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 90% ในขณะที่ยุโรปตะวันออก ยอดส่งมอบรถเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมของปี 2553
สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดรถบรรทุกหนักมีศักยภาพที่จะเติบโตสูงมาก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการ รวมตัวเป็นตลาดเดียวของกลุ่มประเทศอาเขียนหรือ AEC (ASEAN Economic Community) ที่จะเริ่มในปี พ.ศ.2558 ซึ่งตลาดรวมของรถบรรทุกหนักในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยในปีที่แล้วราว 7% โดยในส่วนของ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) เองนั้นมีตัวเลขส่งมอบรถบรรทุกปีที่แล้วอยู่ที่ 523 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 5% ในเซ็กเม้นท์ของกลุ่มรถบรรทุกหนัก (Heavy-Duty)
“ประเทศไทยถือเป็นฐานการประกอบสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งนอกจากจะเพื่อจำหน่ายภายในประเทศไทยแล้ว ยังเพื่อส่งออกไปประเทศลาว พม่า และกัมพูชาอีกด้วย เรายังมองไปไกลถึงการรวมตลาดอาเชียนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อโครงการ AEC นั้นจะมีส่วนผลักดันความต้องการในตลาดรถบรรทุกหนัก ให้มีอัตราเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว” ฌาร์ค กล่าวและว่า
“คำตอบของวอลโว่ กรุ๊ป สำหรับตลาดที่กำลังเติบโตนี้ คือการยืนยันการลงทุนในประเทศไทยอีก 4 พันล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการตอกย้ำการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เราได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนราว 2 พันล้านบาทในประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายการบริการเพิ่มเติมอีก 9 แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 6 แห่ง รวมเป็น 15 แห่ง ส่วนอีก 2 พันล้านบาทนั้นจะเป็นการลงทุนขยายกำลังการ ประกอบในโรงงานประกอบของ TSA เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแน่นอนที่สุด การลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้เราต้องเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 1,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันที่เรา มีพนักงานราว 500 คนมาเป็น 1,500 คนภายใน 18 เดือน”