ข่าวต่างประเทศ-วอลโว่กลายเป็นเสือปืนไวเกาะตามกระแสความฮอตฮิตในแวดวงกีฬาอเมริกัน เมื่อสามารถคว้า เจเรมี่ หลิน พอยต์การ์ดชื่อดังของนิวยอร์ก นิคส์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของตัวเองในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงเมืองจีนและไต้หวัน
วอลโว่ เปิดเผยว่า การเซ็นสัญญาดึงตัวหลินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการขยายตลาดให้กับวอลโว่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงตลาดแห่งอื่นของโลก เพราะในปัจจุบันชื่อของหลินกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังอย่างมาก อีกทั้งการเข้ามาของหลินจะช่วยในการปรับภาพลักษณ์ และสร้างแบรนด์ให้กับวอลโว่ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยหลินเป็นนักบาสเก็ตบอลวัย 23 ปี เชื้อสายอเมริกัน-ไต้หวัน และกลายเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยสามารถทำคะแนนเฉลี่ย 22.5 คะแนน และ 8.7 แอสซิสต์ต่อเกม จนช่วยทำให้ทีมนิคส์มีสถิติในการแข่งขัน 9-3 อยู่ในตอนนี้ อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่า Linsanity และใน Twitter ของเขาก็มีผู้ติดตามมากถึง 664,000 คนแล้ว
ดังนั้น การเข้ามาของหลินจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะภายในปี 2020 วอลโว่ตั้งเป้าว่าจะต้องมียอดขายรถยนต์ทั่วโลกในระดับ 800,000 คันให้ได้ ขณะที่ตลาดจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งของวอลโว่ ที่นี่มียอดขายในปีที่แล้วเพียง 47,000 คัน ส่วนในตลาดสหรัฐอเมริกา เมื่อปีที่แล้ว มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 214% มาอยู่ที่ 67,240 คัน ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วอลโว่มียอดขายเพิ่มขึ้น 7% มาอยู่ที่ 9,724 คัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันวอลโว่ถูกซื้อกิจการจากฟอร์ดมาอยู่ในร่วมเงาของจีลีย์ โฮลดิ้งเมื่อปี 2010 ซึ่งตรงนี้ถูกมองว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้วอลโว่ตัดสินใจดึงหลินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรถยนต์ของวอลโว่
วอลโว่ เปิดเผยว่า การเซ็นสัญญาดึงตัวหลินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการขยายตลาดให้กับวอลโว่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงตลาดแห่งอื่นของโลก เพราะในปัจจุบันชื่อของหลินกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังอย่างมาก อีกทั้งการเข้ามาของหลินจะช่วยในการปรับภาพลักษณ์ และสร้างแบรนด์ให้กับวอลโว่ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยหลินเป็นนักบาสเก็ตบอลวัย 23 ปี เชื้อสายอเมริกัน-ไต้หวัน และกลายเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยสามารถทำคะแนนเฉลี่ย 22.5 คะแนน และ 8.7 แอสซิสต์ต่อเกม จนช่วยทำให้ทีมนิคส์มีสถิติในการแข่งขัน 9-3 อยู่ในตอนนี้ อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่า Linsanity และใน Twitter ของเขาก็มีผู้ติดตามมากถึง 664,000 คนแล้ว
ดังนั้น การเข้ามาของหลินจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะภายในปี 2020 วอลโว่ตั้งเป้าว่าจะต้องมียอดขายรถยนต์ทั่วโลกในระดับ 800,000 คันให้ได้ ขณะที่ตลาดจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งของวอลโว่ ที่นี่มียอดขายในปีที่แล้วเพียง 47,000 คัน ส่วนในตลาดสหรัฐอเมริกา เมื่อปีที่แล้ว มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 214% มาอยู่ที่ 67,240 คัน ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วอลโว่มียอดขายเพิ่มขึ้น 7% มาอยู่ที่ 9,724 คัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันวอลโว่ถูกซื้อกิจการจากฟอร์ดมาอยู่ในร่วมเงาของจีลีย์ โฮลดิ้งเมื่อปี 2010 ซึ่งตรงนี้ถูกมองว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้วอลโว่ตัดสินใจดึงหลินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรถยนต์ของวอลโว่