เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วมาก เพราะถ้ายังจำกันได้ รถสปอร์ตโดยเฉพาะพวกซูเปอร์คาร์กว่าจะเปลี่ยนสักโมเดลต้องรอกันนานมาก อย่างการเปลี่ยนโฉมของ 550M (หรือ 575M) มาเป็น 599GTB ต้องใช้เวลานานร่วม 10 ปี แต่สำหรับ 599GTB มาเป็นรุ่นใหม่ กลับรวดเร็วขึ้นจนน่าประหลาดใจ
นั่นก็เลยทำให้ 599 กลายเป็นรถสปอร์ตที่มีอายุสั้นไปโดยปริยาย เพราะนับจากเริ่มขายในปี 2006 ได้เพิ่ง 6 ปีก็เตรียมเลิกขายแล้ว เนื่องจากในตอนนี้ทางค่ายม้าป่าลำพองจัดการเผยโฉมตัวแทนออกมา โดยมีชื่อว่า F12 Berlinetta
สปอร์ตรุ่นนี้เป็นแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง สำหรับใช้ในการขับเคี่ยวกับสปอร์ตในแบบ GT อย่างแอสตัน มาร์ติน DB9 หรือแม้แต่พวกพันธ์ดุอย่างลัมบอร์กินี อะเวนทาดอร์ LP700-4 ซึ่งในตอนแรกมีข่าวว่าสปอร์ตรุ่นนี้จะใช้ชื่อ F620GT ในการทำตลาด แต่ไปๆ มาๆ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงจนได้ โดยเฟอร์รารี่หันมาใช้ชื่อ F12 แทน และคล้ายกับชื่อรุ่นรถแข่ง F1 ที่ใช้ในการแข่งขันปีนี้อย่าง F2012
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่มีการเคลมว่า F12 เป็นสปอร์ตคูเป้ที่มีกำลัง และฝีเท้าเดิมๆ จากโรงงานเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารี่ เพราะเครื่องยนต์แบบ NA ซึ่งไม่ต้องพึ่งเทอร์โบช่วยในการอัดอากาศอย่างบล็อกวี12 ที่มีความจุ 6300 ซีซี (ความจุจริง 6262 ซีซี) สามารถรีดกำลังออกมาได้ถึง 730 แรงม้าในหน่วย HP และเป็น 740 แรงม้า ในหน่วย PS ที่ 8,500 รอบ/นาที เพิ่มขึ้นจากรุ่น 599GTB ถึง 118 แรงม้า
หรือเรียกง่ายๆ ว่าความจุ 1000 ซีซี สามารถเค้นพลังออกมาได้ถึง 116 แรงม้ากันเลยทีเดียว ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ในระดับ 70.3 กก.-ม. ที่ 6,000 รอบ/นาที โดย 80% ของแรงบิดสูงสุดถูกถ่ายทอดออกมาในช่วงระหว่าง 2,500-8,700 รอบ/นาที
ในแง่ของตัวรถนอกจากชื่อที่ระบุมาว่าเป็น Berlinetta บรรดาแฟนๆ ของเฟอร์รารี่คงทราบดีแล้วว่ามีความหมายถึงตัวถังคูเป้ 2 ประตู ซึ่งในรุ่นนี้มาพร้อมกับความยาว 4,618 มิลลิเมตร กว้าง 1,942 มิลลิเมตร สูง 1,273 มิลลิเมตร สั้นกว่า 599GTB 47 มิลลิเมตร แคบกว่า 19 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่าถึง 63 มิลลิเมตร ขณะที่ระยะฐานล้อสั้นกว่ารุ่น 599GTB แต่ไม่ได้ระบุว่าสั้นกว่าเท่าไร ส่วนในเรื่องการออกแบบเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์ Ferrari Design Center กับสำนักออกแบบพินินฟารินาเจ้าเก่า
ตัวรถเป็นแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง อยู่ที่ 46-54% และน้ำหนักตัว 1,525 กิโลกรัม เบากกว่า 599GTB อยู่ 70 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อคิดเป็นแรงม้าต่อน้ำหนักตัวแล้ว ม้าป่ารุ่นนี้แบกน้ำหนักเพียงแค่ 2.1 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้าเท่านั้นเอง โดยเป็นผลมาจากการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาบวกกับการเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์
ในด้านสมรรถนะเมื่อจับคู่กับเกียร์แบบ Dual-Clutch F1 ที่มีอัตราทดชิดแล้ว การถ่ายทอดกำลังถือว่ายอดเยี่ยมมาก ใช้เวลาแค่ 3.1 วินาที สำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 8.5 วินาทีในย่าน 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วสูงสุดเกิน 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง และที่สำคัญเมื่อขับทดสอบในสนาม โดยใช้ในการอ้างอิงสำหรับรถสปอร์ตจากค่ายเฟอร์รารี่ทุกรุ่นที่ออกจากไลน์ผลิตในมาราเนลโล อย่างสนามฟิออราโนแล้ว F12 ใช้เวลาในการแล่นต่อรอบเพียง 1.23 นาที ถือว่าดีที่สุดในบรรดารถสปอร์ตที่เฟอร์รารี่ผลิตเพื่อจำหน่ายเลยก็ว่าได้
ส่วนระดับความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นไม่ต้องห่วง เพราะแม้ว่าจะลดลงจาก 599GTB ถึง 30% แต่ตัวเลขก็ยังสะท้านเงินในกระเป๋าอยู่ดี ด้วยค่าเฉลี่ย 5.9 กิโลเมตร/ลิตร แต่ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ ระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียลดลงจาก 415 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร มาอยู่ที่ 350 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร
ใครที่เป็นแฟนๆ เตรียมตัวให้พร้อม นับเงินให้ครบ เพราะมาแน่นอน โดยหลังจากเปิดตัวที่เจนีวา มอเตอร์โชว์แล้ว F12 จะเริ่มทำตลาดในช่วงต้นปี 2013 แต่ไม่ได้บอกว่าจะแพงขนาดไหน หากรักกันจริงก็เตรียมเผื่อเอาไว้ให้เยอะๆ หน่อยก็แล้วกัน