นิสสันเตรียมสร้างความฮือฮาในตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-Car อีกครั้ง เมื่อเผยภาพแรกของต้นแบบที่ว่ากันว่าจะกลายมาเป็นรถยนต์คอมแพกต์คาร์สำหรับขายจริงในเร็วๆ นี้ โดยจะทำตลาดเคียงคู่กับนิสสัน ไมเครา หรือมาร์ช และครอสส์โอเวอร์รุ่นจู๊คในตลาดยุโรป
การเปิดตัวต้นแบบรุ่นนี้จะมีขึ้นในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2012 ต้นเดือนมีนาคมนี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนิสสันยืนยันในเอกสารข่าวชัดเจนว่า นี่คือ ซับคอมแพกต์คาร์ต้นแบบรุ่นใหม่ที่จะส่งเข้ามาขายเพื่อแข่งกับโฟล์คสวาเกน โปโล, โอเปิล คอร์ซา และเปอโยต์ 208 ส่วนข่าวที่ว่าจะเข้ามาแทนที่รุ่นโน๊ตที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2004 ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน เพียงแต่เมื่อดูจากตัวถังแล้ว ดูเหมือนว่าต้นแบบรุ่นนี้จะมีลักษณะของความเป็นแฮทช์แบ็กมากกว่าโน๊ต ซึ่งออกแบบแนวมินิแวนโดนจับย่อส่วน
ต้นแบบรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า อินวิเทชั่น คอนเซ็ปต์ มากับตัวถังทรงแฮทช์แบ็กมาดสปอร์ตที่ได้รับการสร้างสรรค์ ด้วยแนวทางการออกแบบใหม่ พร้อมกับเส้นตัวถังแบบสปอร์ตที่เรียกว่า 'Squash Line' ซึ่งเป็นเส้นบนตัวถังที่จะช่วยเพิ่มความเร้าใจในทุกมุมมองให้กับตัวรถ โดยงานออกแบบทั้งหมดเป็นฝีมือของนิสสัน ยุโรป ที่ทำงานร่วมกับนิสสัน ญี่ปุ่นในการสร้างสรรค์ความสปอร์ตบนตัวถัง B-Car ออกมาในครั้งนี้
“ชื่อที่เรานำมาใช้กับต้นแบบรุ่นนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงบุคลิกของตัวรถได้เป็นอย่างดี ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการดึงดูดความสนใจทางสายตา โดยที่ไม่สูญเสียเอกลักษณ์ในด้านความอเนกประสงค์ของการใช้งาน และความคล่องตัวตามแบบฉบับของรถยนต์ซับคอมแพกต์ และเป็นการเชิญชวนให้ลูกค้าหันมาสนใจกับการทำตลาด B-Car ของนิสสัน” Francois Bancon ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ในการทำตลาดของนิสสัน ยุโรป กล่าว
ในกลุ่มรถเก๋งของนิสสันที่ใช้ขายในตลาดยุโรปค่อนข้างที่จะสับสนและเปลี่ยนแปลงมาก โดยหลังจากที่เลิกทำตลาดให้กับอัลมีรา (หรือซันนี่ อัลมีราในบ้านเรา แต่เป็นคนละรุ่นกับอัลมีราที่กำลังทำตลาด) นิสสันก็แทบไม่สนใจที่จะเปิดตลาดรถเก๋งอย่างจริงจัง เพราะหันไปเน้นการใช้รถยนต์แบบครอสโอเวอร์ในการเข้าถึงลูกค้าแทน ไม่ว่าจะเป็นแคชไค หรือจู๊ค เพราะด้วยตัวถังที่มีขนาดสูงคล้ายกับเอสยูวี แต่คงความคล่องตัวตามแบบฉบับเก๋งทั้งคอมแพกต์และซับคอมแพกต์ ก็เลยทำให้สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์นั่งใน 2 กลุ่มนี้มาได้ ขณะที่รุ่นโน๊ตก็มีขาย แต่เป็นตัวถังทรงสูงที่เน้นความอเนกประสงค์ในแบบมินิแวนมากกว่า
อย่างไรก็ตาม นิสสันก็ยังต้องการรถยนต์ที่เป็นรถยนต์นั่งจริงๆ ในการทำตลาด และการปรับปรุงแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น และมีการแบ่งกลุ่มตลาดอย่างชัดเจนของรถยนต์ที่มีขาย ก็เลยทำให้เรื่องที่ว่ารุ่นไหนขายอยู่ในคลาสไหนมีความชัดเจนขึ้น เพราะในกลุ่มคอมแพกต์ก็จะเป็นหน้าที่ของทีด้า ขณะที่กลุ่ม B-Segment ถ้าในจีนและสหรัฐอเมริกาก็เป็นงานของซันนี่-เวอร์ซ่า หรืออัลมีราในบ้านเรา แต่ใช้เครื่องยนต์ 1500 และ 1600 ซีซี ส่วนในยุโรปก็จะเป็นงานของต้นแบบรุ่นนี้
ในแง่รายละเอียดทางเทคนิค นิสสันบอกว่า ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ที่ได้รับการพัมนาตามหลัก PureDrive ที่เน้นมลพิษต่ำ โดยเฉพาะระดับการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ที่จัดอยู่ในกลุ่มระดับ Ultra-Low ด้วยตัวเลขที่ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมกับการปรับเซตระบบช่วงล่างให้สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในแง่ของการบังคับเลี้ยว
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ การติดตั้งเทคโนโลยีที่เรียกว่า Around View Monitor (AVM) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจอดรถโดยเฉพาะการถอยจอด และการจอดริมฟุตบาธ ซึ่งในต้นแบบรุ่นนี้มีติดตั้งมาด้วย และนิสสันบอกว่าเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่ม B-Car ที่ติดตั้งเทคโนโลยีนี้ เพียงแต่เมื่อถึงเวลาขายจริงจะมีให้ด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอคอนเฟิร์มอีกที
ต้นแบบมาแน่ที่เจนีวา ส่วนรุ่นขายจริงก็อดใจรอกันหน่อย เพราะมีขายแน่นอน แต่เป็นปี 2013 ส่วนจะใช้ชื่ออะไรต้องรอดูกันอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับประเด็นที่ว่าจะมีการส่งออกขายในตลาดภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากยุโรปหรือเปล่าด้วย