หากใครกำลังมองหารถเบนซ์มือสอง คุณภาพดี หลายคนจะนึกถึง “เบนซ์อมรรัชดา กรุ๊ป” เพราะด้วยประสบการณ์การทำตลาดมาจนก้าวสู่ปีที่ 47 เป็นเครื่องการันตีถึงความน่าเชื่อถือ และความตั้งใจในการทำธุรกิจของครอบครัว “ตั้งบรรยงค์” ได้เป็นอย่างดี…วันนี้ธุรกิจมิใช่แค่การขายรถมือสองเท่านั้น ….ยังมีแผนในการต่อยอดธุรกิจอีกหลายอย่าง …วรรณภา ตั้งบรรยงค์ ผู้หญิงเก่งที่รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์อมรรัชดา กรุ๊ป จะมาเผยถึงแผนงานธุรกิจของตระกูลเธอ
ผลการดำเนินในปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงช่วงน้ำท่วม ยอดขายของบริษัทเติบโตมาตลอด เพิ่งจะมาหยุดชะงัก 2 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถขายรถได้เลย แต่อย่างไรก็ตามถ้ามองยอดขายทั้งปีถือว่าเรามีกำไรจากตัวเลข 520 ล้านบาท แม้ยอดขายรถจะอยู่ที่ 250 คัน ขณะที่ปีก่อนหน้านี้เราขายรถได้ 300 กว่าคันแต่มีผลประกอบการแค่ 480 ล้านบาทเอง และใน520 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นรายได้จาก บริษัท อมรแคร์ จำกัด หรือสตาร์เซิร์ฟ ประมาณ 17.8 ล้านบาท
ยอดขายในปีนี้
จากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา บวกกับในปีนี้บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 47 จึงมีการตั้งเป้ายอดขายสูงขึ้นมาอีกนิดหนึ่งคือ 873 ล้านบาท คิดเป็น 420 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 68% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขาย 80 % รายได้จากการบริการ 20 % มีสัดส่วนระหว่างลูกค้าเก่าและใหม่อยู่ที่ 60:40
ทำไมถึงมั่นใจ
ตอนแรกก็กลัวเมือนกัน เพราะปีนี้เราลงทุนค่อนข้างแยะ แต่เราก็ได้กำลังใจจากหลายฝ่าย และมั่นใจว่าภายใน 5 ปี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากเหมือนปีที่ผ่านมา ที่สำคัญในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีรถเบนซ์ใหม่ออกจำหน่ายทั้งจากตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์และจากเกรย์มาร์เก็ต ประมาณ 4,800 คัน ทำให้มีรถมือสองหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น ที่สำคัญรถจากเกรย์มาร์เก็ตก็ขายถูกลง ทำให้ราคารถยนต์มือสองในท้องตลาดต่ำลง ซึ่งน่าจะส่งผลให้ลูกค้าสนใจรถยนต์รถมือสองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมือสองประเภทรถเบนซ์ และตอนนี้เศรษฐกิจในอเมริกา อังกฤษ ก็มีแนวโน้มดีขึ้น น่าจะส่งผลต่อยอดขายที่ดีปีนี้
การลงทุนใหม่
เริ่มจากการขยายการลงทุนไปต่างจังหวัด ล่าสุดเปิดศูนย์รถเบนซ์มือสองและศูนย์บริการ เบนซ์อมรรัชดา สาขาชะอำ จังหวัดเพชรบุรี บนเนื้อที่ 4 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท โดยศูนย์แห่งนี้มีมาตรฐานการบริการเดียวกับเบนซ์อมรรัชดาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริการ และยังคงเป็นแหล่งรวมรถเบนซ์มือสอง ศูนย์บริการ และช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในแถบภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ ที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก ซึ่งจะกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(29ม.ค.) เราตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 30 คันในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะเดียวกันในส่วนของบริษัท อมรรัชดา 1966 จำกัด ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถสกู๊ดเตอร์เวสป้าอย่างเป็นทางการ เนื่องจากในปีที่ผ่านเราสามารถทำยอดขายรวมสูงถึง 52 คัน และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30 % โดยใช้หลัก 3S คือ Sale, Service ,Sparepart ดังนั้นเราจึงลงทุนเช่าตึก เพื่อใช้เป็นโชว์รูม ศูนย์บริการ ด้วยการปรับปรุง ตกแต่งใหม่ จากเดิมที่ใช้โชว์รูมที่เบนซ์อมรรัชดา
สำหรับ “สตาร์เซิร์ฟ” ปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่จะไม่ลงทุนเอง เป็นลักษณะเฟรนไชน์มากกว่า โดยเลือกเจ้าของอู่ซ่อม ที่บุคลลิก ความจริงใจ มีคุณธรรม จูนกับเราติด และที่สำคัญต้องการจะขยับขยายอู่ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับศูนย์บริการก็จะลงทุนร่วมกัน เพราะนโยบายของ สตาร์เซิร์ฟ จะเน้นซ่อมราคาประหยัด แพงกว่าศูนย์หน้าปากซอยแค่ 10% เท่านั้น แต่ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดี อะไหล่แท้
เราตั้งเป้าสตาร์เซิร์ฟในปีนี้ว่าจะโตอีก 30 % ถ้าเรามีผู้ร่วมลงทุนอย่างที่กล่าวข้างต้น ตอนนี้เรามีลูกค้ามาใช้บริการซ่อมรถเบนซ์เฉลี่ย 960 คันต่อปี ยังสามารถรองรับได้อีก เพราะจุดแข็งของสตาร์เซิร์ฟ คือหมอ คนไข้อาการหนักแค่ไหน เรารักษาได้ แก้ไขได้ หายทุกราย ทำให้เรามั่นใจธุรกิจนี้ จะเติบโตและทำรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ล่าสุดบริษัทก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูอีกหนึ่งยี่ห้อ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้
ตอนที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ลดราคา มีผลไหม
บังเอิญจังหวะดี ไม่งั้นสะเทือนแน่นอนในเรื่องผลกำไร เพราะก่อนที่ทางเบนซ์จะลดราคา บริษัทได้จัดโปรโมทชั่นขายรถราคาต้นทุนเสร็จพอดี ขณะเดียวกันเราก็ได้รถล็อตใหม่ที่ราคาถูกลงด้วย จึงทำให้ปีนี้เรามีกำไรมากกว่าปีที่ผ่านมาแม้ยอดขายจะน้อยกว่าก็ตาม
คู่แข่งในตลาด
ที่เพิ่มน่าจะเป็นเกร์ยมาร์เก็ตมากกว่า และเราก็ไม่ได้จับตลาดนี้ เลยไม่มีผลต่อเท่าไร
ถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่าหากคุณต้องการหารถเบนซ์มือสองสักคันที่ราคาไม่แพงมาก คุณภาพดี “เบนซ์อมรรัชดา” น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ไว้ใจได้
ผลการดำเนินในปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงช่วงน้ำท่วม ยอดขายของบริษัทเติบโตมาตลอด เพิ่งจะมาหยุดชะงัก 2 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถขายรถได้เลย แต่อย่างไรก็ตามถ้ามองยอดขายทั้งปีถือว่าเรามีกำไรจากตัวเลข 520 ล้านบาท แม้ยอดขายรถจะอยู่ที่ 250 คัน ขณะที่ปีก่อนหน้านี้เราขายรถได้ 300 กว่าคันแต่มีผลประกอบการแค่ 480 ล้านบาทเอง และใน520 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นรายได้จาก บริษัท อมรแคร์ จำกัด หรือสตาร์เซิร์ฟ ประมาณ 17.8 ล้านบาท
ยอดขายในปีนี้
จากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา บวกกับในปีนี้บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 47 จึงมีการตั้งเป้ายอดขายสูงขึ้นมาอีกนิดหนึ่งคือ 873 ล้านบาท คิดเป็น 420 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 68% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขาย 80 % รายได้จากการบริการ 20 % มีสัดส่วนระหว่างลูกค้าเก่าและใหม่อยู่ที่ 60:40
ทำไมถึงมั่นใจ
ตอนแรกก็กลัวเมือนกัน เพราะปีนี้เราลงทุนค่อนข้างแยะ แต่เราก็ได้กำลังใจจากหลายฝ่าย และมั่นใจว่าภายใน 5 ปี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากเหมือนปีที่ผ่านมา ที่สำคัญในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีรถเบนซ์ใหม่ออกจำหน่ายทั้งจากตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์และจากเกรย์มาร์เก็ต ประมาณ 4,800 คัน ทำให้มีรถมือสองหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น ที่สำคัญรถจากเกรย์มาร์เก็ตก็ขายถูกลง ทำให้ราคารถยนต์มือสองในท้องตลาดต่ำลง ซึ่งน่าจะส่งผลให้ลูกค้าสนใจรถยนต์รถมือสองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมือสองประเภทรถเบนซ์ และตอนนี้เศรษฐกิจในอเมริกา อังกฤษ ก็มีแนวโน้มดีขึ้น น่าจะส่งผลต่อยอดขายที่ดีปีนี้
การลงทุนใหม่
เริ่มจากการขยายการลงทุนไปต่างจังหวัด ล่าสุดเปิดศูนย์รถเบนซ์มือสองและศูนย์บริการ เบนซ์อมรรัชดา สาขาชะอำ จังหวัดเพชรบุรี บนเนื้อที่ 4 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท โดยศูนย์แห่งนี้มีมาตรฐานการบริการเดียวกับเบนซ์อมรรัชดาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริการ และยังคงเป็นแหล่งรวมรถเบนซ์มือสอง ศูนย์บริการ และช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในแถบภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ ที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก ซึ่งจะกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(29ม.ค.) เราตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 30 คันในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะเดียวกันในส่วนของบริษัท อมรรัชดา 1966 จำกัด ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถสกู๊ดเตอร์เวสป้าอย่างเป็นทางการ เนื่องจากในปีที่ผ่านเราสามารถทำยอดขายรวมสูงถึง 52 คัน และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30 % โดยใช้หลัก 3S คือ Sale, Service ,Sparepart ดังนั้นเราจึงลงทุนเช่าตึก เพื่อใช้เป็นโชว์รูม ศูนย์บริการ ด้วยการปรับปรุง ตกแต่งใหม่ จากเดิมที่ใช้โชว์รูมที่เบนซ์อมรรัชดา
สำหรับ “สตาร์เซิร์ฟ” ปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่จะไม่ลงทุนเอง เป็นลักษณะเฟรนไชน์มากกว่า โดยเลือกเจ้าของอู่ซ่อม ที่บุคลลิก ความจริงใจ มีคุณธรรม จูนกับเราติด และที่สำคัญต้องการจะขยับขยายอู่ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับศูนย์บริการก็จะลงทุนร่วมกัน เพราะนโยบายของ สตาร์เซิร์ฟ จะเน้นซ่อมราคาประหยัด แพงกว่าศูนย์หน้าปากซอยแค่ 10% เท่านั้น แต่ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดี อะไหล่แท้
เราตั้งเป้าสตาร์เซิร์ฟในปีนี้ว่าจะโตอีก 30 % ถ้าเรามีผู้ร่วมลงทุนอย่างที่กล่าวข้างต้น ตอนนี้เรามีลูกค้ามาใช้บริการซ่อมรถเบนซ์เฉลี่ย 960 คันต่อปี ยังสามารถรองรับได้อีก เพราะจุดแข็งของสตาร์เซิร์ฟ คือหมอ คนไข้อาการหนักแค่ไหน เรารักษาได้ แก้ไขได้ หายทุกราย ทำให้เรามั่นใจธุรกิจนี้ จะเติบโตและทำรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ล่าสุดบริษัทก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูอีกหนึ่งยี่ห้อ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้
ตอนที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ลดราคา มีผลไหม
บังเอิญจังหวะดี ไม่งั้นสะเทือนแน่นอนในเรื่องผลกำไร เพราะก่อนที่ทางเบนซ์จะลดราคา บริษัทได้จัดโปรโมทชั่นขายรถราคาต้นทุนเสร็จพอดี ขณะเดียวกันเราก็ได้รถล็อตใหม่ที่ราคาถูกลงด้วย จึงทำให้ปีนี้เรามีกำไรมากกว่าปีที่ผ่านมาแม้ยอดขายจะน้อยกว่าก็ตาม
คู่แข่งในตลาด
ที่เพิ่มน่าจะเป็นเกร์ยมาร์เก็ตมากกว่า และเราก็ไม่ได้จับตลาดนี้ เลยไม่มีผลต่อเท่าไร
ถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่าหากคุณต้องการหารถเบนซ์มือสองสักคันที่ราคาไม่แพงมาก คุณภาพดี “เบนซ์อมรรัชดา” น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ไว้ใจได้
