พีระพล เสนาคุณ หรือ "อิ๊กคิว"ดีเจน่ารักอีกคนของคลื่น Hot 91.5 ด้วยลีลาน่ารักมาดทะเล้น แถมยังมีผลงานเพลงรวมถึงงานพิธีกรอีกด้วย และล่าสุดกับผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่อง มิดไมล์ RacingLove มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการแข่งรถยนต์ ซึ่งเจ้าตัวออกปากว่าเป็นเรื่องที่ชอบมานานแล้วสำหรับการแต่งรถเพราะเขาก็มีคันโปรดที่ลงทุนลงแรงตกแต่งมานานเป็นปีและพร้อมเปิดให้ "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ชมและบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าโตโยต้า เอ็มอาร์2
"ต้องเล่าย้อนหลังไปก่อนนะครับคือพื้นเพผมเป็นคนชลบุรี ตอนเด็กๆพ่อให้ไปอยู่วัดช่วยพระทำงานไปเรื่อยๆ พอโตมาหน่อยเริ่มขับรถเองก็เอารถในวัดมาขับเป็นรถ Jeep แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากเพราะตอนนั้นต่างจังหวัดจะใช้มอเตอร์ไซค์กับขี่จักรยานมากกว่า แล้วยังเด็กเลยไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก จนกระทั่งต่อมาผมเข้ามาทำงานกรุงเทพฯตอนเข้ามหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสมาทำงานดีเจตอนนั้นอยู่ปี 2 ได้ครับเริ่มสนใจเรื่องรถยนต์มากขึ้นเพราะเพื่อนๆในกลุ่มแล้วเรารู้สึกว่าเครื่องยนต์ต่างๆนี่มันเป็นอะไรที่ซับซ้อน"
สำรับรถยนต์คันแรกของอิ๊กคิวคือมาสด้า เอสติมา เขาซื้อเมื่อตอนอยู่ปี 3 และเริ่มทำงานดีเจ อิ๊กคิวบอกว่าการซื้อรถคันแรกนั้นต้องดูกำลังตัวเองด้วยว่ามีเงินเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องซื้อมือหนึ่งเสมอไป
"มาสด้ามือสองเลยครับ เอามาหัดขับที่ตึกแกรมมี่จะมีรอยสีแดงๆขูดดูตามรอยเลี้ยว รอบคันเลยครับ ขับอยู่ปีกว่าๆ คือใช้คันนี้เสร็จแล้วเอาไปให้คุณพ่อใช้ ตอนแรกที่บ้านซื้อรถปิกอัพเก่าๆ แล้วต่อมาขายไปทั้งสองคันเปลี่ยนมารถคันใหม่อยากให้พ่อแม่มีรถดีๆใช้ครับ หลังจากนั้นผมซื้อรถมาอีกหลายคันแต่เอามาแต่งเพิ่ม คือแต่งแล้วขายไปได้กำไรนิดหน่อย แต่เราจะได้ความรู้เรื่องอะไหล่ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่างๆมากกว่าครับ"
หลังการเริ่มต้นของอิ๊กคิวต่อมาเขาจึงตัดสินใจซื้อรถโตโยต้า เอ็มอาร์ 2 มาตกแต่งซึ่งถือว่าเป็นคันโปรดในตอนนี้ จากสภาพที่เจ้าของเก่าไม่ค่อยได้ขับ พวงมาลัยธรรมดา แอร์ไม่ค่อยเย็น แต่สุดท้ายอิ๊กคิวใช้เวลาซ่อมแซมอีกหลายจุด ใช้เวลากว่า 3 ปี จนออกมาเสร็จสมบูรณ์
"รุ่นนี้เป็น 2 ประตู เครื่องวางกลาง ไม่เคยชนมาก่อนคิดว่าถ้าซื้อมือหนึ่งมาน่าจะล้านๆกว่า ซึ่งผมว่ามันไม่คุ้มเพราะถ้าวันหนึ่งเราเบื่ออยากได้ของใหม่อีกก็ต้องเสียดายคันนี้ แต่กว่าจะทำเสร็จเล่นเอาท้อใจไปเหมือนกันเพราะว่าต้องทำใหม่หลายอย่างเลยครับ ที่สำคัญต้องให้ปลอดภัยที่สุดเพราะอะไหล่บางชิ้นไม่มีคุณภาพเราต้องคอยดูแลเองเวลาช่างหามาให้ บางทีหามาเอง พอเสร็จแล้วดีใจมากครับออกมาสวยอย่างที่อยากได้เป๊ะเลย"
ส่วนเรื่องการดูแลรถนั้นอิ๊กคิวบอกว่าเขาจะดูแลเองถ้ามีเวลาเพราะนึกถึงเวลาที่กว่าจะแต่งออกมาเสร็จ และอยากใช้รถไปนานๆที่สุด นอกจากนี้ในอีกมุมหนึ่งอิ๊กคิวยังเป็นนักแข่งรถในสังกัดทีม BIG COLA SUPER CLUB THAILAND รายการล่าสุดที่ลงแข่งก็คือรายการ Toyota Motor Sport ซึ่งผลงานอาจจะยังไม่โดดเเด่นนักแต่ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปพลางๆ
"แข่งมาได้ประมาณ 2 ปีแล้วครับ จากตอนแรกไม่มีประสบการณ์เข้าที่โหล่ ต่อมาก็เข้าที่ 5 ที่ 6 คือเราพยายามขับให้เราวิ่งให้จบก็พอ มันเป็นกีฬาที่แบบไม่ได้มีพรสวรรค์เหยียบมิดแล้วชนะ มันเป็นกีฬาที่ต้องค่อยๆอาศัยเทคนิคด้วย แต่ผมพยายามจะให้ดีกว่านี้ในสนามต่อๆไป นอกจากนี้ยังปรึกษาพวกพี่ๆในวงการที่เขามีความสามารถจะช่วยให้เราขับดีขึ้น คิดว่าอีกไม่นานน่าจะมีผลงานที่ดีกว่านี้ครับ"
สุดท้ายอิ๊กคิวฝากถึงผู้ที่สนใจจะมาแข่งรถว่าอยากให้มีความพยายามและมีความสนใจในเรื่องของรถยนต์เป็นพื้นฐานไม่ใช่แค่อยากมาแข่งเอาชนะเอามันเท่านั้น เพราะกีฬามีกติกา มีแพ้มีชนะ
"กีฬาแข่งรถต้องเข้าใจว่าเป็นกีฬาที่แพงมากๆชนทีหนึ่งเสียเงินหลักหมื่น แต่อย่างน้อยมันดีกว่าคุณไปแข่งตามถนนเพราะตามถนนเนี่ยคนอื่นไม่ได้มีกติกา เขาไม่ได้รู้ว่าคุณมาแข่งรถกันอยู่ สมมุติคนเดินข้ามถนนแล้วคุณขับไปชนมันอันตรายทั้งคู่ เแถมยังไม่มีอุปกรณ์ที่มันเซฟตี้ รถแข่งเนี่ยถึงจะชนกันแรงๆก็จะมีหมวกกันน็อค มีชุดกันไฟ คือรถพังแต่คนไม่เป็นอะไร รถมันซ่อมได้แต่คนมันซ่อมไม่ได้ อย่าให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนเพราะความคึกคะนอง มาแข่งแบบนี้ดีกว่า ชนะก็มีของรางวัลด้วย เดินเล่นๆมีพริตตี้สวยให้ดูอีกตั้งหาก"
ใครชอบพ่อหนุ่มอิ๊กคิวก็ติดตามผลงานเขาทาง รายการ five live และคลื่นวิทยุได้เลย.....
"ต้องเล่าย้อนหลังไปก่อนนะครับคือพื้นเพผมเป็นคนชลบุรี ตอนเด็กๆพ่อให้ไปอยู่วัดช่วยพระทำงานไปเรื่อยๆ พอโตมาหน่อยเริ่มขับรถเองก็เอารถในวัดมาขับเป็นรถ Jeep แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากเพราะตอนนั้นต่างจังหวัดจะใช้มอเตอร์ไซค์กับขี่จักรยานมากกว่า แล้วยังเด็กเลยไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก จนกระทั่งต่อมาผมเข้ามาทำงานกรุงเทพฯตอนเข้ามหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสมาทำงานดีเจตอนนั้นอยู่ปี 2 ได้ครับเริ่มสนใจเรื่องรถยนต์มากขึ้นเพราะเพื่อนๆในกลุ่มแล้วเรารู้สึกว่าเครื่องยนต์ต่างๆนี่มันเป็นอะไรที่ซับซ้อน"
สำรับรถยนต์คันแรกของอิ๊กคิวคือมาสด้า เอสติมา เขาซื้อเมื่อตอนอยู่ปี 3 และเริ่มทำงานดีเจ อิ๊กคิวบอกว่าการซื้อรถคันแรกนั้นต้องดูกำลังตัวเองด้วยว่ามีเงินเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องซื้อมือหนึ่งเสมอไป
"มาสด้ามือสองเลยครับ เอามาหัดขับที่ตึกแกรมมี่จะมีรอยสีแดงๆขูดดูตามรอยเลี้ยว รอบคันเลยครับ ขับอยู่ปีกว่าๆ คือใช้คันนี้เสร็จแล้วเอาไปให้คุณพ่อใช้ ตอนแรกที่บ้านซื้อรถปิกอัพเก่าๆ แล้วต่อมาขายไปทั้งสองคันเปลี่ยนมารถคันใหม่อยากให้พ่อแม่มีรถดีๆใช้ครับ หลังจากนั้นผมซื้อรถมาอีกหลายคันแต่เอามาแต่งเพิ่ม คือแต่งแล้วขายไปได้กำไรนิดหน่อย แต่เราจะได้ความรู้เรื่องอะไหล่ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่างๆมากกว่าครับ"
หลังการเริ่มต้นของอิ๊กคิวต่อมาเขาจึงตัดสินใจซื้อรถโตโยต้า เอ็มอาร์ 2 มาตกแต่งซึ่งถือว่าเป็นคันโปรดในตอนนี้ จากสภาพที่เจ้าของเก่าไม่ค่อยได้ขับ พวงมาลัยธรรมดา แอร์ไม่ค่อยเย็น แต่สุดท้ายอิ๊กคิวใช้เวลาซ่อมแซมอีกหลายจุด ใช้เวลากว่า 3 ปี จนออกมาเสร็จสมบูรณ์
"รุ่นนี้เป็น 2 ประตู เครื่องวางกลาง ไม่เคยชนมาก่อนคิดว่าถ้าซื้อมือหนึ่งมาน่าจะล้านๆกว่า ซึ่งผมว่ามันไม่คุ้มเพราะถ้าวันหนึ่งเราเบื่ออยากได้ของใหม่อีกก็ต้องเสียดายคันนี้ แต่กว่าจะทำเสร็จเล่นเอาท้อใจไปเหมือนกันเพราะว่าต้องทำใหม่หลายอย่างเลยครับ ที่สำคัญต้องให้ปลอดภัยที่สุดเพราะอะไหล่บางชิ้นไม่มีคุณภาพเราต้องคอยดูแลเองเวลาช่างหามาให้ บางทีหามาเอง พอเสร็จแล้วดีใจมากครับออกมาสวยอย่างที่อยากได้เป๊ะเลย"
ส่วนเรื่องการดูแลรถนั้นอิ๊กคิวบอกว่าเขาจะดูแลเองถ้ามีเวลาเพราะนึกถึงเวลาที่กว่าจะแต่งออกมาเสร็จ และอยากใช้รถไปนานๆที่สุด นอกจากนี้ในอีกมุมหนึ่งอิ๊กคิวยังเป็นนักแข่งรถในสังกัดทีม BIG COLA SUPER CLUB THAILAND รายการล่าสุดที่ลงแข่งก็คือรายการ Toyota Motor Sport ซึ่งผลงานอาจจะยังไม่โดดเเด่นนักแต่ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปพลางๆ
"แข่งมาได้ประมาณ 2 ปีแล้วครับ จากตอนแรกไม่มีประสบการณ์เข้าที่โหล่ ต่อมาก็เข้าที่ 5 ที่ 6 คือเราพยายามขับให้เราวิ่งให้จบก็พอ มันเป็นกีฬาที่แบบไม่ได้มีพรสวรรค์เหยียบมิดแล้วชนะ มันเป็นกีฬาที่ต้องค่อยๆอาศัยเทคนิคด้วย แต่ผมพยายามจะให้ดีกว่านี้ในสนามต่อๆไป นอกจากนี้ยังปรึกษาพวกพี่ๆในวงการที่เขามีความสามารถจะช่วยให้เราขับดีขึ้น คิดว่าอีกไม่นานน่าจะมีผลงานที่ดีกว่านี้ครับ"
สุดท้ายอิ๊กคิวฝากถึงผู้ที่สนใจจะมาแข่งรถว่าอยากให้มีความพยายามและมีความสนใจในเรื่องของรถยนต์เป็นพื้นฐานไม่ใช่แค่อยากมาแข่งเอาชนะเอามันเท่านั้น เพราะกีฬามีกติกา มีแพ้มีชนะ
"กีฬาแข่งรถต้องเข้าใจว่าเป็นกีฬาที่แพงมากๆชนทีหนึ่งเสียเงินหลักหมื่น แต่อย่างน้อยมันดีกว่าคุณไปแข่งตามถนนเพราะตามถนนเนี่ยคนอื่นไม่ได้มีกติกา เขาไม่ได้รู้ว่าคุณมาแข่งรถกันอยู่ สมมุติคนเดินข้ามถนนแล้วคุณขับไปชนมันอันตรายทั้งคู่ เแถมยังไม่มีอุปกรณ์ที่มันเซฟตี้ รถแข่งเนี่ยถึงจะชนกันแรงๆก็จะมีหมวกกันน็อค มีชุดกันไฟ คือรถพังแต่คนไม่เป็นอะไร รถมันซ่อมได้แต่คนมันซ่อมไม่ได้ อย่าให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนเพราะความคึกคะนอง มาแข่งแบบนี้ดีกว่า ชนะก็มีของรางวัลด้วย เดินเล่นๆมีพริตตี้สวยให้ดูอีกตั้งหาก"
ใครชอบพ่อหนุ่มอิ๊กคิวก็ติดตามผลงานเขาทาง รายการ five live และคลื่นวิทยุได้เลย.....