พริตตี้หน้าสวย เธอเป็นสาว Sexy Leo Girl ที่แจ้งเกิดด้วยลุคเซ็กซี่ละลายใจชายมานักต่อนัก ได้เห็นเธออีกครั้งจากโฆษณาเครื่องดื่ม Sassy ในมาดสาวนักแข่งรถมืออาชีพ ทำให้เธอดูมีอะไรให้น่าค้นหามากกว่าความสวยบนเรือนร่างไปในทันที แต่ดูกี่ครั้งเธอก็ไม่อาจหลบซ่อนแววตาSexy ขี้อ้อนได้ เพราะนั่นคือตัวตนของเธอ ซึ่งดูมั่นใจในทุกอิริยาบถและทุกบทบาทที่เธอเป็น M-Open จึงไม่ขอพลาดที่จะพาสาวสวยคนนี้มานั่งคุย และนับจากนาทีนี้ไปคุณจะได้รู้จักเธอมากกว่าชื่อที่ทุกคนเรียกกันว่า โบนัส-สมหทัย เหรียญทอง
แจ้งเกิดด้วยลุคSexy
ถ้าจำกันได้อาจเคยเห็นโบนัสตามปกนิตยสารต่างๆ กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น FHM, Zoo, Rush และ Photo Hut ซึ่งออกแนวเซ็กซี่ชวนสยิวทุกฉบับ เพราะด้วยรูปลักษณ์บนใบหน้า สายตามันฟ้องว่าเธอแอ๊บแบ๊วไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการโพสท่าทางต่างๆ ที่ดูแล้วยังไงก็ฉีกกรอบจากแนวน่ารักๆ น่าใคร่ กลับกลายเป็นลุคเซ็กซี่ชวนตื่นเต้น เร้าใจเสียมากกว่า
“โบนัสเคยถ่ายนิตยสารแนวเซ็กซี่ทั้งนั้นเลย มันเริ่มจาก Photo Hut ก่อน ทุกคนเขาเป็นแบ๊วๆ หมดแต่เรานี่มาแบบเซ็กซี่เลย เราประกวดได้ที่หนึ่งมา แล้วทางโปรดิวเซอร์เขาเห็นว่าเราลุคแบบนี้ เขาก็เลยจับถ่ายนิตยสารเป็นแนวนี้เลย ตอนนั้นถ่ายลง I Photo Play เขาให้เราใส่ชุดแต่แนวเซ็กซี่ มีหลายคนพูดมาว่า อย่างนี้มันน่ารักไม่ค่อยขึ้น ถ้าเป็นแนวเซ็กซี่ไปเลยจะเกิดกว่า”
ใช่!...ทุกวันนี้เธอแจ้งเกิดจากลุคแนวเซ็กซี่ และสิ่งนี้เป็นจุดขายที่เธอมี นับตั้งแต่การซิวรางวัลจากเวทีประกวดเป็นสาว Sexy Leo Girl Season 4 จากนั้นเป็นต้นมาเธอจึงเป็นที่จับตามองของคนในวงการ หนังสือต่างๆ ตีพิมพ์รูปเธอติดต่อกันหลายอาทิตย์ ทำให้งานเข้ามาไม่เว้นวัน อย่างนี้จะไม่ให้แจ้งเกิดคงไม่ได้แล้ว
“เราเป็น Sexy Leo Girl ตั้งแต่ปี 2009 และตอนนี้เขาก็ยังเรียกใช้อยู่ บางทีได้เป็นพิธีกรงานประกวดให้เขา มี Real Tip กับลูกค้า และทำกิจกรรมต่างๆ กับบริษัท มันเหนื่อยมากเหมือนกัน อย่างเราเป็นPR ทีมของLeo ด้วยใช่ไหมค่ะ ก็ต้องไปโชว์ตัวต่างจังหวัด เรียนเสร็จ 4 โมงเย็นบินไปเชียงใหม่ โชว์ตัวเสร็จดึก ตี 2 บางทีก็แทบจะไม่ได้นอน อย่างมากได้นอนชั่วโมงหนึ่งก็ต้องตื่นแล้วบินกลับมาเรียนต่อ มีอยู่ช่วงหนึ่งเป็นอย่างนี้ทั้งอาทิตย์เลย ตอนนั้นรู้สึกว่าเราทำอะไรได้เยอะมาก ไม่เหนื่อยเลย แต่ตอนนี้ก็มีกินวิตามินเสริมบ้าง”
แต่การเป็นสาว Sexy Leo Girl ไม่ใช่งานชิ้นแรกที่เธอทำ โบนัสเล่าให้ฟังว่าครั้งแรกเธอรับงานเป็นพริตตี้ “ตอนนั้นเราเห็นโฆษณาการประกวดเพื่อเป็นโตโยต้าพริตตี้ ก็เข้าไปสมัคร และก็ได้เป็นพริตตี้ของโตโยต้ามาตลอด พอได้งานนี้ งานอื่นก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ” และเธอก็มาถูกทางแล้วจริงๆ
ตอนนี้ถือได้ว่าโบนัสงานชุกเต็มที่ ทั้งงานด้านพิธีกร ถ่ายรายการ ถ่ายแบบ และล่าสุดกับการแข่งรถ ซึ่งเป็นเรื่องน่าท้าทายสำหรับเธอเป็นอย่างมาก ลองนึกภาพเด็กสาวที่มีลุคออกแนวเซ็กซี่กำลังเดินลงสนามเพื่อแข่งรถครั้งแรกในชีวิต ลองดูซิว่าภาพในความคิดคุณจะเป็นอย่างไร
เส้นทางนักแข่งรถมืออาชีพ
ด้วยเพราะงานโตโยต้าพริตตี้แท้ๆ จึงทำให้เธอได้สนิทชิดเชื้อกับพี่ๆ นักแข่งรถมืออาชีพ ผู้ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอต้องติดสอยห้อยตาม เพื่อร่วมแก๊งท้าความเร็วด้วยอีกคนหนึ่ง เริ่มจากการลงเรียนที่ Toyota Racing School หลังจากนั้นเธอจึงมีโอกาสเข้ามาบนเส้นทางนักแข่งมืออาชีพด้วยเพราะโชคแท้ๆ
“พอได้ไปลงเรียน Toyota Racing Schoolจึงชอบเรื่องความเร็ว ชอบรถแข่ง รถแต่ง ขณะเรียนก็โชคดีที่มีโครงการคัดเลือกนักศึกษาเข้ามาอยู่ในทีมโตโยต้าเป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน เราก็ไปสอบและก็ได้เข้ามาร่วมทีม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เหมือนเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่โรงเรียนสอนแข่งรถของโตโยต้า ซึ่งเขาเปิดให้แก่คนทั่วไปอยู่แล้ว ใครจะมาเรียนก็ได้”
“โตโยโต้เขาจะให้เราไปแข่งตามสนามต่างๆ แต่ละจังหวัดที่จัดขึ้น ของรายการ Toyota Motor Sportเขาจะมีทุกปี ปีละ 5 สนาม เฉลี่ยแล้วก็ประมาณเดือนละครั้ง ที่ผ่านมาสนามสุดท้ายเป็นงานใหญ่อยู่ที่บางแสน จ.ชลบุรี แต่เราแข่งมาทุกสนามแล้ว”
เมื่อเป็นนักแข่งก็ต้องมีรางวัลมาการันตีความสามารถกันบ้าง เห็นบอบบางอย่างนี้อย่าท้าทายความสามารถของเธอ ถึงแม้จะเป็นนักแข่งมือใหม่ แต่โบนัสก็เคยได้รางวัลที่ 5 ในการแข่งขันสนามแรกที่ราชมังคลากีฬาสถาน รุ่น Vios steady มาแล้ว นอกจากจะได้รางวัลมาเชยชม แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือการได้ประสบการณ์จากสนามแข่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“การแข่งรถเป็นเรื่องสนุก พอได้ลงแข่งจริงรู้สึกว่ายากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่เหยียบด้วยความเมามัน เราต้องเรียนรู้เรื่องโค้งว่าเป็นยังไง ต้องเข้าไลน์แบบไหน ต้องเรียนรู้ทุกสนามเพราะทุกสนามไม่เหมือนกันเลย แต่เวลาเราซ้อมก็จะซ้อมสนามเดิมอยู่เรื่อยๆ ใช่ไหมค่ะ เราต้องจำว่าถ้าเจอโค้งแบบนี้แล้วต้องทำยังไงก็ต้องเอาไปปรับใช้กับสนามจริง ในสนามซ้อมดีตรงที่ข้างทางจะเป็นหญ้า ถ้าเราหลุดโค้งก็จะไม่อันตรายมาก แต่พอเป็นสนามจริง เขาจะใช้การ์ดเหล็กกั้น บางทีก็เป็นถังน้ำ ถ้าหลุดโค้งก็คือชน ซึ่งต้องระวังมากกว่าเวลาซ้อม
เทคนิคสำหรับโบนัสก็คือ ถ้าสมมติไม่เข้าใจโค้งไหน หรือว่าไลน์ไหนเข้าแล้วรู้สึกว่าช้า ก็จะเอามาถามพี่ๆ อินสตรักเจอร์ให้เขาแนะนำว่าต้องทำยังไง ดูการแข่งรถรุ่นอื่นบ้างว่าเขาขับยังไงแล้วนำมาปรับใช้กับของเรา”
โบนัสขับรถในรุ่น Vios steady ซึ่งมีแต่นักแข่งหญิงลงเข้าแข่งขัน แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงทั้งหมด แต่การห้ำหั่นกันในสนามไม่แพ้นักแข่งผู้ชายเลยทีเดียว โบนัสเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า “บางทีผู้หญิงขับโหดกว่าผู้ชายอีก บางคนที่ไม่ค่อยมีมารยาทการแข่ง เขาจะชนเลย เคยโดนมาเหมือนกัน ขาเขียวเลยทีเดียว ถือเป็นประสบการณ์ ต่อไปเราก็ต้องระวังเขา”
ถึงแม้การแข่งรถจะทำให้ต้องเจ็บตัวบ้างในบางครั้ง แต่อย่างไรแล้วสำหรับคนที่ชมชอบความเร็วอย่างเธอ ก็ยังสนุกกับการลงสนามแข่งอยู่ดี เพราะเธอคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย ทั้งต้องใช้ความใจถึงและประสบการณ์ร่วมด้วย
หนูอยากเป็นดารา
ทำความรู้จักกับโบนัสไปแล้วในหลายมุมและหลายบทบาทที่เป็นตัวเธอ ทำให้รู้ว่าสาวคนนี้ไม่ธรรมดา และนอกจากนี้ยังมีความสามารถอีกมากมายที่คุณต้องไม่เคยคิดว่าคนคนเดียวจะทำได้หมด ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่า “คนบ้าพลัง” นั่นแหละคือตัวเธออย่างแท้จริง
โบนัสเป็นลูกสาวคนเดียวและสนิทกับคุณแม่ที่สุดในบ้าน เพราะท่านคือดีไซเนอร์ประจำตัวของเธอ ดูแลทั้งเสื้อผ้า หน้าผม และเวลาไปถ่ายละครต่างจังหวัดคุณแม่จะติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ มีหน้าที่คอยบอกจุดบกพร่องของงาน มุมนี้ไม่ดี ตรงนั้นไม่สวย โปรดักชันไม่ได้ จึงเป็นทั้งคุณแม่ที่น่ารักและผู้จัดการส่วนตัวไปในคราวเดียวกัน
วงการบันเทิงเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก เธอชอบดูทีวีและเลียนแบบตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ โบนัสย้อนความให้ฟังว่า “เวลาซื้อเสื้อผ้ามาใหม่ก็ชอบเอามาใส่แล้วเดินหมุนตัวเหมือนกำลังเดินแบบ ชอบการแสดง บ้าถ่ายรูป เห็นกล้องก็จะแอ็กท่าตลอดเวลา เป็นคนไวต่อเลนส์กล้อง (หัวเราะ) และก็เป็นคนซุ่มซ่าม บันไดหน้าบ้านมี 3 ขั้น ตกตั้งแต่เด็กจนโต”
“ตอนนี้ได้เป็นพิธีกรก็โอเค แต่ว่าเราอยากเป็นทุกอย่าง เพราะตัวเองชอบทำทุกอย่าง เหมือนตอนเด็กๆ อย่างนี้ อยากเรียนอะไรก็จะไปเรียนเลย คุณแม่ก็จะให้ไปเรียน รำไทย เต้นฮิปฮอป แจ๊ซ ลีลาศ ละติน เทควันโด เรียนหมดเลย เราเป็นคนบ้ากิจกรรม อย่างอยู่โรงเรียนหอวังก็จะเป็นตัวแทนไปแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ปอมปอม ไปแข่งลำตัด แสดงละครร้อง เป็นนักกีฬาด้วย วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ฟุตซอล วิ่ง ตอนอยู่ชั้น ม.1 เป็นสแตนด์เชียร์ ส่วน ม.2-ม.6 เป็นเชียร์ลีดเดอร์ 5 ปีซ้อน”
“ทุกเช้าเพื่อนคนอื่นเขาเข้าแถวเคารพธงชาติ แต่เราจะไปฝึกรำไทย พอเรียนเสร็จ ตอนกลางวันก็ไปซ้อมวอลเลย์บอลกับเพื่อน บางคาบเรียนอาจารย์ขอมา เราก็ต้องไปซ้อมลำตัด ซ้อมละคร อะไรอย่างนี้ แต่ก็เรียนหนังสือเกรดดีด้วยนะ เกรดเฉลี่ยจบมา 3.6 ปีสุดท้ายตอน ม.6 เทอม 2 นี่ได้เกรด 4.00 เลย (หัวเราะ) คือเป็นคนบ้าพลังมาก”
ว้าว!...ถึงแม้จะทำกิจกรรมมากขนาดนี้ แต่เกรดเฉลี่ยเธอไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง และตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ปี 4 คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอ๊ะ! เห็นว่าอยากทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก แล้วทำไมถึงไม่เลือกเรียนนิเทศศาสตร์ไปเลย
“เราเห็นคนเรียนกันเยอะ รู้สึกว่าเฮ้ย! เรียนเพราะความฮิตรึเปล่า และใจจริงก็อยากเป็นสัตวแพทย์ แต่ไม่ถนัดเลขกับวิทย์ อยากทุกอย่าง (หัวเราะ) แต่ก็คิดที่จะเรียนปริญญาโทด้าน Business Management เหมือนกัน เพราะที่บ้านทำธุรกิจมีอพาร์ตเมนต์ให้เช่า และก็เป็นดีลเลอร์ (Dealer) เครื่องนอน TOTO แต่สุดท้ายก็เลือกเรียนด้านภาษา เพราะตอนอยู่มัธยมปลายได้เรียนภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส และได้ไปโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ที่ประเทศเบลเยียม ตอนอยู่ชั้น ม.6 ด้วย แล้วได้ภาษาดัตช์มา ทำให้ชอบทางด้านภาษาและคิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัดจึงเลือกเรียน”
1 ปี เที่ยว 11 ประเทศ
เมื่อเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการ AFS จึงทำให้ต้องบินลัดฟ้าไปเรียนไกลถึงประเทศเบลเยียม การใช้ชีวิตในต่างแดนเป็นเวลา 1 ปี นอกจากหน้าที่สำคัญคือการเรียนแล้ว ชีวิตที่นั่นทำให้เธอพบเจอประสบการณ์จากการเป็น Backpacker ท่องเที่ยว ถึง 11 ประเทศกับเพื่อนคนไทย ซึ่งเป็นความทรงจำในอดีตที่มีค่าและทำให้เธอยิ้มได้ทุกครั้งที่คิดถึง
“ตอนที่ไปเบลเยียม เราแบ็กแพกกับเพื่อนคนไทยที่เป็นเด็กแลกเปลี่ยนด้วยกัน ตะลุยเที่ยว 11 ประเทศเลย ภายใน 1 ปี พอมีวันหยุดปุ๊บก็ไป 3 ประเทศ วันหยุดอีกครั้งก็อีก 3 ประเทศ ตอนนั้นเราบ้าพลัง ตื่นแต่เช้าเดินกันจนถึงเที่ยงคืน ประเทศแรกที่ไปคืออิตาลี ตอนนั้นยังไม่เคยเดินทางกันเอง คือต้องจองอะไรเองทุกอย่าง ทั้งไฟลต์บิน ที่พัก และไม่รู้จะไปเที่ยวเมืองไหน เราใช้วิธีเข้าไปดูตามบริษัททัวร์ต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง แล้วจดมาดู บางทีไปเราไม่รู้ว่านี่มันคืออะไร เราก็เดินไปเงี่ยหูฟังที่เขาจ้างไกด์นำเที่ยวมา เที่ยวกันฮาๆ ดี สนุกมาก”
“ที่ประทับใจมากที่สุดจะเป็นโซนยุโรป ชอบหลายที่เลย เพราะรู้สึกว่าแต่ละประเทศเขามีสถาปัตยกรรมต่างกัน ถ้ายุโรปตะวันตกก็อีกอย่างหนึ่ง อย่างยุโรปฝั่งตะวันออกก็อีกอย่างหนึ่ง เช่น สาธารณรัฐเช็ก และสาธารณรัฐฮังการี ก็จะเป็นแนวปราสาท พอเราเดินเข้าไปจะรู้สึกว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก อย่างในประเทศอิตาลี สิ่งก่อสร้างเขาใหญ่มาก ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งก่อสร้างใหญ่ขนาดนี้ รู้สึกแปลกๆ รึเปล่า แต่เขาดูเป็นธรรมชาติเพราะเป็นชีวิตของเขา มันเลยดูตื่นตาตื่นใจสำหรับเรา”
การเดินทางไปหลายประเทศและในสถานที่ไม่คุ้นเคย คงไม่แคล้วที่ต้องเจอเรื่องน่ากลัวระหว่างการเดินทาง โบนัสเล่าด้วยเสียงตื่นเต้นให้ฟังว่า “เราได้ยินมาว่านักล้วงกระเป๋าเยอะ เราก็ต้องคอยระวัง เพราะเจอเหตุการณ์หนึ่งเพื่อนของเราล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าตัวเอง แต่เจอมือคนอื่น พวกขโมยเขาเยอะ เราก็ต้องระวังให้มาก”
นอกจากเธอจะชอบท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ ในต่างประเทศแล้ว อาหารต่างชาติเธอก็ชอบไม่แพ้กัน โบนัสชอบกินอาหารอิตาเลียน อย่างพาสต้า และอาหารจำพวกเส้นๆ อะไรก็ได้ที่มันมีเส้นยาวๆ ของไทยเราก็มี นั่นคือ ขนมจีน และก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้เธอยังชอบเที่ยวทะเล บรรยากาศสบายๆ ลมพัดเย็นๆ ให้อารมณ์แบบชิลชิล ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่ไหน แค่ได้เห็นสีฟ้าเท่านั้น เธอก็สบายใจแล้ว
ด้านได้ อายอด
ไม่ถึงชั่วโมงที่ได้พูดคุยกับเธอ แต่ขอบอกเลยว่าเธอเป็นคนตรง และตอบคำถามชัดเจนทุกประเด็น ถ้าเรามองผ่านความ Sexy บนเรือนร่าง ก็จะเห็นความน่ารักที่เธอมีแบบไม่มีการแอ๊บ หรือติ๊งต่างชวนคิดแต่อย่างใด เพราะเธอมีแค่ชั้นเดียว ไม่มีความคิดทับซ้อน จึงไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวเวลาคุยกัน ทุกสิ่งที่เธอพูดจึงออกมาตามสไตล์ของโบนัส
เช่นเดียวกับคติประจำใจที่เธอบอกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า “เอาจริงๆ เลยไหม? (หัวเราะ) เอาสไตล์เราเลยนะ “ด้านได้ อายอด” เรารู้สึกว่ามันจริง เพราะถ้าคนที่มัวแต่ไม่กล้า มันก็จะมีอยู่อย่างเดียวคือ ไม่ได้ แต่ถ้าคนทำไปอย่างน้อยก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้อย่างเดียว”
เธอมั่นมาก...จึงอยากฟังความคิดของเธอที่มีต่อตัวเองสักหน่อยว่าเป็นคนอย่างไร “โบนัสเป็นคนหัวดี เรียนรู้ไว แต่ขี้เกียจ ไม่ค่อยขยันเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบจะแอ็กทีฟ แบบทำนู่น ทำนี่ ทำนั่น บ้าพลังมาก และเป็นคนเฮฮา ชอบทำอะไรให้เพื่อนขำ ชอบเล่นมุก มุกไร้สาระ เพื่อนไม่ขำก็เล่น (หัวเราะ) อย่างถ่ายรายการจะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เล่นมุกฮาๆ สนุกสนาน ทำอะไรตลกๆ จึงชอบเพราะเราเป็นคนไม่ห่วงสวย ทำตัวสวยเนี่ยทำยาก แต่ถ้าทำตัวฮา ทุเรศๆ นี่ชอบ”
คนเสน่ห์เหลือล้นอย่างโบนัส แน่ล่ะ! ที่ต้องมีหนุ่มเทียวรับเทียวส่งกันบ้าง เขาคนนั้นที่ครองใจเธอเป็นใครกันนะ“เขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ได้รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน เราคุยกันรู้เรื่อง ถูกคอ ถามว่าคนนี้ใช่สเปกไหม ถ้าเอาจริงๆ ก็ไม่ใช่ แต่เป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี มีความสุข เขาคอยดูแลเราดี ส่วนสเปกของโบนัสจะชอบผู้ชายมีลักยิ้ม เห็นแค่ลักยิ้มก็รู้สึก เฮ้ย!...น่ารักดี และชอบผู้ชายเซอร์ๆ หัวฟูๆ แต่ไม่สกปรก ไม่ชอบผู้ชายสำอาง เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยดูแลตัวเอง เดี๋ยวด้อยกว่า (หัวเราะ) ฉะนั้นถ้าเป็นผู้ชายขาวๆ หล่อๆ ไม่ชอบ”
สำหรับมุมมองความรักส่วนตัวของโบนัสนั้น เธอบอกว่า “ต้องใช้ความเข้าใจ ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน การที่คนสองคนที่มีนิสัยต่างกัน พื้นฐานครอบครัวมาต่างกัน เวลาจะมาคบกันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันให้ได้ ถ้าต่างคนต่างไปคนละทางคงเข้ากันไม่ได้”
ถ้าใครสนใจขอเป็นแฟนคลับเธออีกคน สามารถติดตามผลงานของสาวโบนัสกับการเป็นพิธีกรรายการ Photo story cheeze ทางช่อง 5 ทุกวันจันทร์ ช่วงเวลา 23.55 น. สำหรับงานโรดโชว์ อีเวนต์ที่เธอรับงานอยู่นั้น เจอเธอที่ไหนเข้าไปให้กำลังใจกันได้ไม่ว่ากัน
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล : สมหทัย เหรียญทอง (โบนัส)
เกิดวันที่ : 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2531
น้ำหนัก-ส่วนสูง : 48 กก./ 168 ซม.
การศึกษา : กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี (ปี 4) คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานที่ผ่านมา : Sexy Leo Girl Season 4, Miss Photo Hitect 2009, Toyota Pretty 2008, ถ่ายแบบนิตยสาร Rush, Zoo, FHM ฯลฯ และพิธีกร Photo story cheeze
ข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี
ขอบคุณภาพจาก Bonuzzy